เป็นคู่อริกันมาร่วมร้อยปี ดวลเกือกกันมาเป็นร้อยนัด ใครบ้างคือตัวแสบขาประจำในเกมนัดหยุดโลกเกมนี้ที่แฟนบอลยากจะลืมเลือน
เวย์น รูนีย์
ความเป็นศัตรูระหว่าง เวย์น รูนีย์ กับ ทีมลิเวอร์พูลนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจะย้ายมาสวมยูนิฟอร์มของทีมปิศาจแดงเสียอีก เขาเติบโตมาในครอบครัวที่เป็นแฟนบอลเอฟเวอร์ตันตัวยง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เวลา รูนีย์ ทำประตูทีมหงส์แดงได้ เขาจะแสดงอาการดีใจเป็นพิเศษ และก็ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันว่าทำไมบรรดา เดอะ ค็อป ถึงไม่ชอบเขา เมื่อเขาเคยให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า เขาไม่ชอบลิเวอร์พูลและจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดเด็ดขาด เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เขากลายเป็นศัตรูกับแฟนหงส์ทุกคน
รูนีย์ มักจะมีส่วนร่วมในการยิงประตู ลิเวอร์พูล เสมอ ไม่ว่าจะยิงเองหรือส่งให้เพื่อนทำประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2012 ที่เจ้าตัวเหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้ปีศาจแดงเอาชนะไปได้ 2-1 และในฤดูกาลนี้ที่เจ้าตัวกลับมาฟอร์มร้อนแรงอีกครั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นนักเตะที่ลูกทีมของเบรนแดน รอดเจอร์ส ต้องจับตาย
เดิร์ค เคาท์
แฟนบอลลิเวอร์พูลอาจจดจำเขาได้ในฐานะปีกตัวรับ ที่มีจุดเด่นที่การวิ่งขึ้นลงตลอดทั้งเกมแบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย แต่แฟนบอลปีศาจแดงคงจดจำเขาในอีกฐานะหนึ่ง คือเป็นผู้ทำแสบซัดแฮตทริกใส่ทีมรักของพวกเขา เมื่อในวันที่ 6 มีนาคม 2011 นักเตะชาวดัตช์รายนี้เกิดผีเข้าแบบที่ปกติไม่ค่อยจะเป็น และยิงคนเดียวสามประตูให้หงส์แดงเปิดรังถล่มแมนฯ ยูฯ คาถิ่น 3-1
ทั้งสามประตูเป็นเครื่องหมายการค้าชั้นดีของเคาท์ ไม่ต้องสวยงาม ไม่ต้องเลี้ยงหลอกกองหลังเป็นแถว แต่มาจากการทำยังไงก็ได้เพื่อที่จะส่งลูกเข้าไปตุงตาข่าย นอกจากนี้ ในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อต้นปีก่อน เคาท์ยังเป็นผู้กดประตูชัยในเกมเอฟเอ คัพ ช่วยให้ทีมลิเวอร์พูลส่งผีลงหลุมได้สำเร็จในช่วงสองนาทีสุดท้ายอีกด้วย
แกรี เนวิลล์
หากถามแฟนบอลลิเวอร์พูลว่าใครคือนักเตะทีมปิศาจแดงที่ไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุด เชื่อว่าชื่อของ แกรี เนวิลล์ คงต้องติดอันดับต้นๆ แน่นอน เนวิลล์ผู้พี่อาจไม่ใช่นักเตะที่ฝีเท้าขั้นเทพหรือชอบทำประตูทีมหงส์แดง แต่ลีลาการจิกกัดตามสื่อต่างๆ รวมถึงการแสดงความดีใจอย่างบ้าคลั่งยามที่ปีศาจแดงเป็นฝ่ายกำชัย กระตุ้นต่อมหมันใส้ของ เดอะ ค็อป ทุกหมู่เหล่าได้อย่างดี
แกรี่ เป็นนักเตะที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ชุดเยาวชน ไม่แปลกเลยที่เขาจะมีความเกลียดชังทีมลิเวอร์พูล จนแฟนผีเคยให้นิยามถึง แกรี่ เนวิลล์ ว่า"He is the Red and he hate scouser"
เฟร์นานโด ตอร์เรส
กองหน้าชาวสเปนถือเป็นของแสลงสำหรับเนมานยา วิดิชของแท้ เมื่อเขาเป็นคนโฉบบอลจากความผิดพลาดของกองหลังชาวเซอร์เบียเข้าไปทำประตูตีเสมอได้ ในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 4-1 ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววิดิชก็อยู่ไม่ครบ 90 นาทีในเกมนั้น เมื่อเขาไปทำฟาล์ว สตีเวน เจอร์ราร์ด และโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป เชื่อว่าแฟนบอลปีศาจแดงหลายคนคงจำจังหวะเหวอที่ไม่ค่อยมีง่ายๆ ในของกัปตันทีมคนเก่งรายนี้ได้เป็นอย่างดี
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 30.75 ล้านปอนด์ แต่เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีเท่ากับผลงานที่เคยทำไว้กับสเปอร์ส จนถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาเล่นได้ไม่คุ้มค่าตัว
อย่างไรก็ตาม หัวหอกชาวบัลแกเรียก็ได้ฝากผลงานอันสุดยอดภายใต้สีเสื้อของยูไนเต็ดเช่นกัน และหนึ่งในนั้นก็คือเกมแดงเดือดที่เขาโชว์ฟอร์มระดับเทพ เหมาคนเดียว 3 ประตู พาปีศาจแดงเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฉือนหงส์แดง หวุดหวิด 3-2
โดยเฉพาะลูกสองที่อดีตดาวยิงไก่เดือยทองจักรยานอากาศบอลพุ่งชนคานกระดอนเข้าประตูไปอย่างสวยสดงดงาม ซึ่งถูกโหวตให้เป็นหนึ่งในประตูที่ดีที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีกในซีซั่นนั้นเลยทีเดียว ดังนั้นเบอร์บาตอฟจึงเป็นอีกหนึ่งตัวแสบของศึกเร้ด ไฟท์ เพราะมีนักเตะน้อยมากที่จะทำแฮตทริกได้ในเกมที่ยิ่งใหญ่แบบนี้
หลุยส์ ซัวเรซ
หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลเมื่อช่วงหน้าร้อนปี 2011 และก่อวีรกรรมวีรเวรเอาไว้พอสมควรในเกมแดงเดือด โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เขาถูกกล่าวหาว่าไปเหยียดผิว ปาทริซ เอฟรา จนต้องโดนแบนยาวถึง 8 นัด และพอนัดต่อมาก็ดันก่อเรื่องอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ยอมจับมือกับแบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส ทำให้ถือเป็นประเด็นที่ดุเดือดมากระหว่างทั้งสองทีม
นอกจากนี้ เกมแดงเดือดครั้งแรกของกองหน้าชาวอุรุกวัยยังตราตรึงใจชาวเดอะ ค็อป เมื่อเขาลากบอลหลบกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามสี่คน ก่อนจะจ่ายบอลให้เดิร์ค เคาท์ ยิงเข้าไปเป็นประตูที่สองในเกมนั้น
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ผิดพลาดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวัง ทำได้เพียงแค่ 17 ประตู ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลที่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แม้ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยจะยิงประตูได้น้อย แต่สาวกเร้ด อาร์มี่ยังคงจดจำประตูของเขาได้เสมอ โดยเฉพาะ 2 ประตูที่เขาทำได้ในเกมแดงเดือดที่มีส่วนช่วยให้ทีมปีศาจแดงบุกไปกำราบลิเวอร์พูลถึงถิ่นแอนฟิลด์ 2-1 ได้สำเร็จ
โดยเฉพาะในประตูแรกที่เจอร์ซี่ ดูเด็ค นายทวารหงส์แดงรับบอลลอดขา ก่อนที่อดีตดาวยิงตราหมีจะฉกบอลเข้าไปยิงง่ายๆ ยังคงสร้างความเจ็บปวดอยู่ในใจของเหล่าเดอะ ค็อปชนิดไม่รู้ลืม ยิ่งกว่านั้นดาวเตะทีมจอมโหดยังสามารถบวกเพิ่มได้อีกหนึ่งประตูด้วยในเกมนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายิงได้เพียงแค่ 3 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้เร้ด เดวิลส์ เป็นเวลา 1 ฤดูกาลกว่า ดังนั้น ดิเอโก้ ฟอร์ลัน จึงเป็นอีกหนึ่งตัวแสบของศึกแดงเดือดอย่างแท้จริง
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ในวันที่ 1 ตุลาคม 1995 เกมเดียวกับที่ เอริค คันโตนา คืนสนาม "เดอะ ก็อด" ของลิเวอร์พูล ก็เกือบทำให้งานฉลองของพลพรรคปีศาจแดงต้องเงียบเหงาไปจนสนิทใจ เมื่อหลังจากที่ปีศาจแดงออกนำไปก่อน 1-0 จากประตูของนิคกี้ บัตต์ ฟาวเลอร์ก็โชว์ฟอร์มเทพทำคนเดียวสองประตูสุดสวยให้ทีมพลิกกลับขึ้นมานำ 2-1 โดยเฉพาะประตูตามตีเสมอ 1-1 นั้น เจ้าหนูฟาวเลอร์ในสมัยนั้นยิงแสกหน้าปีเตอร์ ชไมเคิล ยอดนายทวารระดับตำนานของแมนฯ ยูฯ เข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่กล้องหลังตาข่ายถึงกับสั่น
แฟนบอลลิเวอร์พูลบางคนยังจดจำประตูนี้ได้ในฐานะประตูที่สวยที่สุดลูกหนึ่งของเกมแดงเดือด โชคยังดีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอจากเอริค คันโตนา ไม่อย่างนั้นเกมประเดิมสนามของ "เดอะ คิง" คงต้องโดน "เดอะ ก็อด" ขโมยซีนไปเต็มๆ
แดนนี เมอร์ฟี
อดีตกองกลางหงส์แดงที่เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับคูร์ว อเล็กซานดร้า อาจไม่ใช่นักเตะที่มีฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์ ถึงขั้นที่จะเป็นตำนานของสโมสร แต่แฟนบอลลิเวอร์พูล รวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกิดทันยุคของเขา คงต้องจดจำชื่อของเขาได้อย่างแม่นยำไม่มีลืม เมื่อเขาเป็นคนทำประตูชัยในเกมแดงเดือดที่ ลิเวอร์พูลบุกไปปราบปีศาจแดงได้ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึง 3 ครั้ง ในฤดูกาล 2000–01, 2001–02 และ 2003–04
ที่แสบที่สุดก็คือ ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิวด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งสามครั้งเสียด้วย
เอริค คันโตนา
เอริค "เดอะ คิง" คันโตนา อาจไม่ใช่นักเตะประเภทที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนกองหน้ารายอื่นๆ แต่ประตูของเขาแต่ละลูก ช่วยพาปีศาจแดงประสบความสำเร็จมานักต่อนัก
สองประตูของเขาในเกมแดงเดือด 2 เกม ที่แฟนบอลของทั้งสองทีมน่าจะจำได้ดี คือ ลูกจุดโทษในนัดหวนคืนสนามของเขา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1995 หลังโดนแบนยาว 8 เดือน เพราะกระโดดถีบยอดอก แมทธิว ซิมมอนส์ แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ซึ่งเป็นประตูตีเสมอให้ปีศาจแดงเอาตัวรอดจากความพ่ายแพ้ต่อลิเวอร์พูลไปได้ 2-2
ส่วนอีกลูกคือการวอลเลย์อย่างสวยงามให้ทีมปีศาจแดงปราบลิเวอร์พูลได้ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1995-96 ในนาทีที่ 85 ช่วยให้แมนฯ ยูฯ เชือดลิเวอร์พูลไป 1-0 พร้อมคว้าดับเบิลแชมป์สมัยที่สองในปีนั้น
credit : www.goal.com/th
[บทความแดงเดือด 2014-03-16] 10 "หงส์-ผี" ตัวแสบประจำเกมแดงเดือด
เวย์น รูนีย์
ความเป็นศัตรูระหว่าง เวย์น รูนีย์ กับ ทีมลิเวอร์พูลนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจะย้ายมาสวมยูนิฟอร์มของทีมปิศาจแดงเสียอีก เขาเติบโตมาในครอบครัวที่เป็นแฟนบอลเอฟเวอร์ตันตัวยง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เวลา รูนีย์ ทำประตูทีมหงส์แดงได้ เขาจะแสดงอาการดีใจเป็นพิเศษ และก็ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันว่าทำไมบรรดา เดอะ ค็อป ถึงไม่ชอบเขา เมื่อเขาเคยให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า เขาไม่ชอบลิเวอร์พูลและจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดเด็ดขาด เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เขากลายเป็นศัตรูกับแฟนหงส์ทุกคน
รูนีย์ มักจะมีส่วนร่วมในการยิงประตู ลิเวอร์พูล เสมอ ไม่ว่าจะยิงเองหรือส่งให้เพื่อนทำประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2012 ที่เจ้าตัวเหมาคนเดียวสองประตูช่วยให้ปีศาจแดงเอาชนะไปได้ 2-1 และในฤดูกาลนี้ที่เจ้าตัวกลับมาฟอร์มร้อนแรงอีกครั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นนักเตะที่ลูกทีมของเบรนแดน รอดเจอร์ส ต้องจับตาย
เดิร์ค เคาท์
แฟนบอลลิเวอร์พูลอาจจดจำเขาได้ในฐานะปีกตัวรับ ที่มีจุดเด่นที่การวิ่งขึ้นลงตลอดทั้งเกมแบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย แต่แฟนบอลปีศาจแดงคงจดจำเขาในอีกฐานะหนึ่ง คือเป็นผู้ทำแสบซัดแฮตทริกใส่ทีมรักของพวกเขา เมื่อในวันที่ 6 มีนาคม 2011 นักเตะชาวดัตช์รายนี้เกิดผีเข้าแบบที่ปกติไม่ค่อยจะเป็น และยิงคนเดียวสามประตูให้หงส์แดงเปิดรังถล่มแมนฯ ยูฯ คาถิ่น 3-1
ทั้งสามประตูเป็นเครื่องหมายการค้าชั้นดีของเคาท์ ไม่ต้องสวยงาม ไม่ต้องเลี้ยงหลอกกองหลังเป็นแถว แต่มาจากการทำยังไงก็ได้เพื่อที่จะส่งลูกเข้าไปตุงตาข่าย นอกจากนี้ ในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อต้นปีก่อน เคาท์ยังเป็นผู้กดประตูชัยในเกมเอฟเอ คัพ ช่วยให้ทีมลิเวอร์พูลส่งผีลงหลุมได้สำเร็จในช่วงสองนาทีสุดท้ายอีกด้วย
แกรี เนวิลล์
หากถามแฟนบอลลิเวอร์พูลว่าใครคือนักเตะทีมปิศาจแดงที่ไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุด เชื่อว่าชื่อของ แกรี เนวิลล์ คงต้องติดอันดับต้นๆ แน่นอน เนวิลล์ผู้พี่อาจไม่ใช่นักเตะที่ฝีเท้าขั้นเทพหรือชอบทำประตูทีมหงส์แดง แต่ลีลาการจิกกัดตามสื่อต่างๆ รวมถึงการแสดงความดีใจอย่างบ้าคลั่งยามที่ปีศาจแดงเป็นฝ่ายกำชัย กระตุ้นต่อมหมันใส้ของ เดอะ ค็อป ทุกหมู่เหล่าได้อย่างดี
แกรี่ เป็นนักเตะที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ชุดเยาวชน ไม่แปลกเลยที่เขาจะมีความเกลียดชังทีมลิเวอร์พูล จนแฟนผีเคยให้นิยามถึง แกรี่ เนวิลล์ ว่า"He is the Red and he hate scouser"
เฟร์นานโด ตอร์เรส
กองหน้าชาวสเปนถือเป็นของแสลงสำหรับเนมานยา วิดิชของแท้ เมื่อเขาเป็นคนโฉบบอลจากความผิดพลาดของกองหลังชาวเซอร์เบียเข้าไปทำประตูตีเสมอได้ ในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 4-1 ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววิดิชก็อยู่ไม่ครบ 90 นาทีในเกมนั้น เมื่อเขาไปทำฟาล์ว สตีเวน เจอร์ราร์ด และโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป เชื่อว่าแฟนบอลปีศาจแดงหลายคนคงจำจังหวะเหวอที่ไม่ค่อยมีง่ายๆ ในของกัปตันทีมคนเก่งรายนี้ได้เป็นอย่างดี
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 30.75 ล้านปอนด์ แต่เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ดีเท่ากับผลงานที่เคยทำไว้กับสเปอร์ส จนถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาเล่นได้ไม่คุ้มค่าตัว
อย่างไรก็ตาม หัวหอกชาวบัลแกเรียก็ได้ฝากผลงานอันสุดยอดภายใต้สีเสื้อของยูไนเต็ดเช่นกัน และหนึ่งในนั้นก็คือเกมแดงเดือดที่เขาโชว์ฟอร์มระดับเทพ เหมาคนเดียว 3 ประตู พาปีศาจแดงเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฉือนหงส์แดง หวุดหวิด 3-2
โดยเฉพาะลูกสองที่อดีตดาวยิงไก่เดือยทองจักรยานอากาศบอลพุ่งชนคานกระดอนเข้าประตูไปอย่างสวยสดงดงาม ซึ่งถูกโหวตให้เป็นหนึ่งในประตูที่ดีที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีกในซีซั่นนั้นเลยทีเดียว ดังนั้นเบอร์บาตอฟจึงเป็นอีกหนึ่งตัวแสบของศึกเร้ด ไฟท์ เพราะมีนักเตะน้อยมากที่จะทำแฮตทริกได้ในเกมที่ยิ่งใหญ่แบบนี้
หลุยส์ ซัวเรซ
หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลเมื่อช่วงหน้าร้อนปี 2011 และก่อวีรกรรมวีรเวรเอาไว้พอสมควรในเกมแดงเดือด โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เขาถูกกล่าวหาว่าไปเหยียดผิว ปาทริซ เอฟรา จนต้องโดนแบนยาวถึง 8 นัด และพอนัดต่อมาก็ดันก่อเรื่องอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ยอมจับมือกับแบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส ทำให้ถือเป็นประเด็นที่ดุเดือดมากระหว่างทั้งสองทีม
นอกจากนี้ เกมแดงเดือดครั้งแรกของกองหน้าชาวอุรุกวัยยังตราตรึงใจชาวเดอะ ค็อป เมื่อเขาลากบอลหลบกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามสี่คน ก่อนจะจ่ายบอลให้เดิร์ค เคาท์ ยิงเข้าไปเป็นประตูที่สองในเกมนั้น
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ผิดพลาดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวัง ทำได้เพียงแค่ 17 ประตู ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลที่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แม้ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยจะยิงประตูได้น้อย แต่สาวกเร้ด อาร์มี่ยังคงจดจำประตูของเขาได้เสมอ โดยเฉพาะ 2 ประตูที่เขาทำได้ในเกมแดงเดือดที่มีส่วนช่วยให้ทีมปีศาจแดงบุกไปกำราบลิเวอร์พูลถึงถิ่นแอนฟิลด์ 2-1 ได้สำเร็จ
โดยเฉพาะในประตูแรกที่เจอร์ซี่ ดูเด็ค นายทวารหงส์แดงรับบอลลอดขา ก่อนที่อดีตดาวยิงตราหมีจะฉกบอลเข้าไปยิงง่ายๆ ยังคงสร้างความเจ็บปวดอยู่ในใจของเหล่าเดอะ ค็อปชนิดไม่รู้ลืม ยิ่งกว่านั้นดาวเตะทีมจอมโหดยังสามารถบวกเพิ่มได้อีกหนึ่งประตูด้วยในเกมนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายิงได้เพียงแค่ 3 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้เร้ด เดวิลส์ เป็นเวลา 1 ฤดูกาลกว่า ดังนั้น ดิเอโก้ ฟอร์ลัน จึงเป็นอีกหนึ่งตัวแสบของศึกแดงเดือดอย่างแท้จริง
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ในวันที่ 1 ตุลาคม 1995 เกมเดียวกับที่ เอริค คันโตนา คืนสนาม "เดอะ ก็อด" ของลิเวอร์พูล ก็เกือบทำให้งานฉลองของพลพรรคปีศาจแดงต้องเงียบเหงาไปจนสนิทใจ เมื่อหลังจากที่ปีศาจแดงออกนำไปก่อน 1-0 จากประตูของนิคกี้ บัตต์ ฟาวเลอร์ก็โชว์ฟอร์มเทพทำคนเดียวสองประตูสุดสวยให้ทีมพลิกกลับขึ้นมานำ 2-1 โดยเฉพาะประตูตามตีเสมอ 1-1 นั้น เจ้าหนูฟาวเลอร์ในสมัยนั้นยิงแสกหน้าปีเตอร์ ชไมเคิล ยอดนายทวารระดับตำนานของแมนฯ ยูฯ เข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่กล้องหลังตาข่ายถึงกับสั่น
แฟนบอลลิเวอร์พูลบางคนยังจดจำประตูนี้ได้ในฐานะประตูที่สวยที่สุดลูกหนึ่งของเกมแดงเดือด โชคยังดีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอจากเอริค คันโตนา ไม่อย่างนั้นเกมประเดิมสนามของ "เดอะ คิง" คงต้องโดน "เดอะ ก็อด" ขโมยซีนไปเต็มๆ
แดนนี เมอร์ฟี
อดีตกองกลางหงส์แดงที่เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับคูร์ว อเล็กซานดร้า อาจไม่ใช่นักเตะที่มีฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์ ถึงขั้นที่จะเป็นตำนานของสโมสร แต่แฟนบอลลิเวอร์พูล รวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เกิดทันยุคของเขา คงต้องจดจำชื่อของเขาได้อย่างแม่นยำไม่มีลืม เมื่อเขาเป็นคนทำประตูชัยในเกมแดงเดือดที่ ลิเวอร์พูลบุกไปปราบปีศาจแดงได้ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึง 3 ครั้ง ในฤดูกาล 2000–01, 2001–02 และ 2003–04
ที่แสบที่สุดก็คือ ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิวด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งสามครั้งเสียด้วย
เอริค คันโตนา
เอริค "เดอะ คิง" คันโตนา อาจไม่ใช่นักเตะประเภทที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนกองหน้ารายอื่นๆ แต่ประตูของเขาแต่ละลูก ช่วยพาปีศาจแดงประสบความสำเร็จมานักต่อนัก
สองประตูของเขาในเกมแดงเดือด 2 เกม ที่แฟนบอลของทั้งสองทีมน่าจะจำได้ดี คือ ลูกจุดโทษในนัดหวนคืนสนามของเขา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1995 หลังโดนแบนยาว 8 เดือน เพราะกระโดดถีบยอดอก แมทธิว ซิมมอนส์ แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ซึ่งเป็นประตูตีเสมอให้ปีศาจแดงเอาตัวรอดจากความพ่ายแพ้ต่อลิเวอร์พูลไปได้ 2-2
ส่วนอีกลูกคือการวอลเลย์อย่างสวยงามให้ทีมปีศาจแดงปราบลิเวอร์พูลได้ในนัดชิงเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1995-96 ในนาทีที่ 85 ช่วยให้แมนฯ ยูฯ เชือดลิเวอร์พูลไป 1-0 พร้อมคว้าดับเบิลแชมป์สมัยที่สองในปีนั้น
credit : www.goal.com/th