คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เคยขับรถเข้าไปจอดที่วัดระฆังครั้งนึงครับ ไปถึงก็มี ผญ เรียกให้ไปจอดที่จอดของเขา
แล้วก็ถามว่า " ถวายสังฆทานไหมคะ วันนี้มีพระอยู่ " ประมาณนี้
แต่ผมก็ตอบปฎิเสธไป เขาก็ไม่ได้เซ้าซี้นะครับ แล้วผมก็เดินไปไหว้พระในวัด
แต่หลังจากขับรถเข้าไป พอออกมาผมก็คิดว่า คราวหลังถ้ามาวัดระฆังคงไม่เอารถเข้ามาอีกแล้วล่ะครับ
ซอยแคบเกิน ที่จอดก็ดูไม่ดีเท่าไร
ถ้า จขกท. ไปวัดระฆัง ลองเอารถไปจอดที่จอดรถตรงข้าง ๆ ร้านดอยคำดูก็ได้ครับ แล้วเดินไป
แต่มันจะเสียค่าจอดรถ แต่ผมว่าราคาเขารับได้อยู่นะ ชั่วโมงแรก 30 ชั่วโมงต่อไป 20 มีบัตรจอดรถให้ ดูโอเคอยู่
---
สำหรับ เรื่องการทำบุญ บางทีก็ต้องตอบปฎิเสธไปครับ ถ้าเราไม่แน่ใจ หรือไม่ถูกใจ อะไรก็ตาม
ยังไงก็เงินเรา สิทธิเรา ถ้าเราทำแล้วไม่สบายใจ ก็ไม่รู้มันจะได้บุญไหมอ่านะครับ ผมคิดอย่างนี้
เดี๋ยวนี้หลาย ๆ ที่ก็เป็นเชิงพุทธพาณิชย์กันไปหมดแล้ว เวลามองดูผมก็เบื่อนะ
ผมก็ไปแค่ไหว้พระ หยอดตู้บ้าง ทำโน่นทำนี่บ้าง ตามกำลัง
จะเน้นตักบาตร + ถวานสังฆทานมากกว่า เพราะเราจัดของเองได้ครับ
--- ขอเสริมอีกนิดว่า
จขกท. ก็อย่าคิดมากเลยครับ มันผ่านไปแล้ว ทำใจให้สบาย
ไปวัดระฆังคราวหลัง ก็ไหว้พระ สวดมนต์ ก็พอครับ ให้สบายใจเรา
วัดนี้มีทำวัตรเย็นตอน 4 โมงครึ่งด้วย ไม่ดึกดี ผมกะว่าวันอังคารจะลองไปสวดดูครับ
แล้วก็ถามว่า " ถวายสังฆทานไหมคะ วันนี้มีพระอยู่ " ประมาณนี้
แต่ผมก็ตอบปฎิเสธไป เขาก็ไม่ได้เซ้าซี้นะครับ แล้วผมก็เดินไปไหว้พระในวัด
แต่หลังจากขับรถเข้าไป พอออกมาผมก็คิดว่า คราวหลังถ้ามาวัดระฆังคงไม่เอารถเข้ามาอีกแล้วล่ะครับ
ซอยแคบเกิน ที่จอดก็ดูไม่ดีเท่าไร
ถ้า จขกท. ไปวัดระฆัง ลองเอารถไปจอดที่จอดรถตรงข้าง ๆ ร้านดอยคำดูก็ได้ครับ แล้วเดินไป
แต่มันจะเสียค่าจอดรถ แต่ผมว่าราคาเขารับได้อยู่นะ ชั่วโมงแรก 30 ชั่วโมงต่อไป 20 มีบัตรจอดรถให้ ดูโอเคอยู่
---
สำหรับ เรื่องการทำบุญ บางทีก็ต้องตอบปฎิเสธไปครับ ถ้าเราไม่แน่ใจ หรือไม่ถูกใจ อะไรก็ตาม
ยังไงก็เงินเรา สิทธิเรา ถ้าเราทำแล้วไม่สบายใจ ก็ไม่รู้มันจะได้บุญไหมอ่านะครับ ผมคิดอย่างนี้
เดี๋ยวนี้หลาย ๆ ที่ก็เป็นเชิงพุทธพาณิชย์กันไปหมดแล้ว เวลามองดูผมก็เบื่อนะ
ผมก็ไปแค่ไหว้พระ หยอดตู้บ้าง ทำโน่นทำนี่บ้าง ตามกำลัง
จะเน้นตักบาตร + ถวานสังฆทานมากกว่า เพราะเราจัดของเองได้ครับ
--- ขอเสริมอีกนิดว่า
จขกท. ก็อย่าคิดมากเลยครับ มันผ่านไปแล้ว ทำใจให้สบาย
ไปวัดระฆังคราวหลัง ก็ไหว้พระ สวดมนต์ ก็พอครับ ให้สบายใจเรา
วัดนี้มีทำวัตรเย็นตอน 4 โมงครึ่งด้วย ไม่ดึกดี ผมกะว่าวันอังคารจะลองไปสวดดูครับ
แสดงความคิดเห็น
เสียความรู้สึกกับการตั้งใจไปวัดระฆังครั้งแรก
ปกติได้พาแม่ไปโรงพยาบาลศิริราชอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสไปวัดระฆัง เพราะไม่ทราบว่าอยู่ใกล้ๆกัน หนูเพิ่งขับรถได้ปีสองปีไม่รู้ทางในกรุงเทพมากนัก
วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปวัดระฆัง พอขับรถเข้าไปซึ่งก็เป็นเวลาใกล้ๆจะ4โมงเย็นแล้ว
ก็เปิดกระจกถามพี่คนนึงซึ่งดูท่าทางแล้วเป็นพวกกระสือ(คนเก็บเงินค่าจอดรถ) เราเลยถามเค้าว่า พี่คะวัดปิดรึยัง?
เค้าบอกว่า ยังครับๆ "วันนี้วันพระใหญ่ทำบุญถวายสังฆทานเลยไหมครับเจ้าอาวาสอยู่ครับ" ซึ่งเรากะแม่ก็เออ ออ ห่อหมก ก็ตอบว่าคะๆ
พี่กระสือคนนี้วิ่งๆๆๆพาเราเข้าซอยแคบๆในวัดเลื่อนประตูให้ไปจอดในที่ๆไม่มีใครมาจอด
แกก็ถามว่าจะเอาสังฆทานแบบไหนครับ มี500 700 900 ผ้าไตรก็มีนะครับ ซึ่งความจริงแล้วเรากับแม่เพิ่งซื้อสังฆทานยามาจากร้านยาหน้าโรงบาลศิริราช
แม่ก็บอกว่าซื้อมาแล้ว พี่คนนี้แกก็นิ่งๆ ก็บอกราคาผ้าไตรต่อ จนแม่เราก็งงๆเลยบอกเอาสังฆทานชุดเล็กเท่าไหร่ แกก็บอก300
แล้วพอเราเดินออกจากตรงที่จอดรถ เดินมาตรงทางที่เข้ามาซอยแคบๆ คนที่ตรงนั้นก็ตะโกน เฮ้ยมาแล้วๆ เฮ้ยมาแล้วๆ
พี่คนนั้นพาเราเข้าไปใน คณะ9 ซึ่งเราตั้งใจว่าอยากมาแค่ไหว้พระ เราก็บอกจะไหว้พระก่อน เค้าก็บอกเดี๋ยวค่อยไปก็ได้ครับ
แล้วก็ย้ำว่า"สังฆทาน300ใช่ไหม จุดธูปไหว้พระเลยครับ" แล้วก็วิ่งไปหยิบสังฆทานอีกที่นึง
ซึ่งเรากับแม่มาครั้งแรก งงเป็นไก่ตาแตกว่า ที่นี่หรอที่คนมาทำบุญกัน เล็กๆ ขนาดย่อมๆ มีพระ สิงศักดิ์สิทธิ์มากมายตามแนวยาว
มีคนประมาณ10กว่าคน คุยกันเสียงดัง ลูกหลานวิ่งเล่น มีผู้หญิงสองคนนั้งโกรกผม อีกคนแต่งตัวให้ลูกไปงานโรงเรียน ถ่ายรูปเล่น
ขณะที่เราก็แม่ไหว้พระอยู่ ผู้ชายวัยรุ่นก็เล่นกันเหมือนเล่นมวยปล้ำอะคะ นอนที่พื้นเลย ฝั่งผู้ใหญ่ที่แต่งตัวให้ลูกก็ตะโกนถ่ายรูปๆ ยิ้มสิๆ
เด็กที่ให้ถ่ายรูปก็นั่งบนโต๊ะเตี้ยๆที่มีพระหรือของศักดิ์สิทธิ์ที่ไว้กราบไหว้อยู่ เรากำลังไหว้ๆอยู่ คนนึงก็เดินเอาสังฆทานมาให้ เรากับแม่ก็ยังสอดไม่เสร็จ
คือตอนนั้นเริ่มรู้แล้วว่ามันแปลกๆ ชายคนนี้ก็จะเอาของให้อย่างเดียว จนกระทั่งเรากับแม่ไหว้เสร็จ ก็บอก300ๆ หันมาสังฆทานก็เข้าไปอยู่ในห้องกระจกแล้ว
พอเข้าไปในห้องกระจกซึ่งเป็นฟิลม์มืดๆมีพระพุทธรูปเยอะ มีฤาษี เหมือนแนวสำนักทรงอะคะ
พระท่านก็บอกให้สวด บลาๆ พอรับสังฆทาน พระท่านก็วางข้างตัว ยังไม่ทันที่จะให้พร ผู้หญิงวัยรุ่นคนนึงก็เดินมาแบบไม่ก้มหัวไม่อะไรทั้งนั้น
ซึ่งพระนั้งอยู่บนอาสะนะ เรา แม่นั้งพื้น เดินมาหยิบสังฆทานไป(ไม่รู้ว่าเอาไปเวียนต่อรึป่าวด้วย)
พอเสร็จแล้วก็เดินออกมามองเข้าไปทางห้องน้ำบนตึก ข้างๆเขียนว่า"ที่ซุกหัวนอน"
ข้างในมีครบคะ เรียกว่าแมนชั่นดีดีนี้เอง ตู้ ที่นอน คือบ้านอะคะว่าง่ายๆ ที่จอดรถคือมอเตอร์ไซค์เป็น10คัน มีKSR 2-3คัน
คนที่เยอะๆก็คงญาติพี่น้อง เพราะดูสนิทกันมาก
เราก็เพิ่งเห็นป้ายเขียนว่ารองเจ้าอาวาส
เสร็จแล้วเราเดินเข้าไปทางโบสถ์ใหญ่ ก็ไม่มีอะไรคะคนเริ่มจะรอทำวัดกัน ตานี้ก็มีผู้ชายและผู้หญิงบางคน เชิญชวนให้ไปทำสังฆทาน
ใครเดินผ่านก็จะพูดว่า "ทำบุญสังฆทานนะครับ" "วันนี้วันพระครับ" อะไรประมาณนี้
เราเข้าไปไหว้โบสถ์ข้างๆเพราะโบสถ์ใหญ่คนรอหน้าโบสถ์เพียบเลย พอเข้าไปผู้หญิงคนนึงก็ยืนขวาง เราถามเค้าว่าปิดรึยังคะ
เค้าไม่ตอบส่ายหน้าอย่างเดียวหน้าเหวี่ยงๆ ซึ่งพอเข้าไปของข้างในเยอะมากที่วางกะพื้น เราไหว้พระปกติ ผู้หญิงคนนี้ก้รับของจากพระคือยืนอะคะ
พระนั้งอยู่ที่พื้น พอเราออกมาเดินไปริมแม่น้ำ เห็นแม่ชีกำลังซื้อหวย เราขำมากๆ แม่บอกเรื่องปกติ
พ่อค้าแม่ค้าก็เชิญชวนให้ปล่อยปลาต่างๆ อันนี้พอเข้าใจได้คะ ก็มีเสียงอีกว่า "ทำสังฆทานไหมคะ เชิญได้นะคะ"
คนที่ถูกถามก็ตอบไปว่า "อ๋อทำแล้วคะ" คนที่ชวนถามว่า "ที่ไหนคะ" ผู้หญิงที่ถูกถามก็ตอบว่า"ตรงคณะ3อะคะ"
คนเชิญชวนก็หันไปหาเพื่อนที่นั้งข้างๆ "โหยยยยเสร็จตาตุไปแล้วว่ะ" เรากะแม่มองหน้ากันคือไม่ไหวแล้วอะคะ
แม่เราเลยบอกว่าช่างเค้า เราทำบุญเค้าจะเอาเงินไปทำอะไร ทำแล้วสบายใจก็ปล่อยเค้าไป ตลอดทางกลับบ้านพูดเรื่องนี้มาตลอดทาง
คือเราคิดว่ามันกลายเป็นธุระกิจไปแล้ว เป็นแก๊งค์เป็นขบวนการเลยอะคะ มันหากินกับวัดเกินไป
ซึ่งเราไม่สบายใจมากๆ ที่คิดอย่างนี้จะบาปไหมเน๊ย แล้วใครเคยเจอบ้าง ทำไมทางวัดถึงไม่จัดการ
นี้เป็นกระทู้แรกสำหรับเราเลยคะ ข้องใจมากๆ ขอบคุณคะ