ขอปรึกษาเรื่องบัตรเครดิตนะครับ เริ่มจากกลางปีก่อนได้ทำรายการผ่านอินเตอร์เนท เป็นการเทรดอัตราแลกเปลี่ยน โดยใช้บัตรเครดิตจ่าย เป็นบริการจากต่างประเทศ เงินที่ลงไป 15000 usd ก็หลายแสนอยู่ จู่ๆ มาวันนึง ทางเวบไซท์ได้เปลี่ยน platform ใหม่ ทำให้เรางง และยอดเงินเราหายไปทั้งก้อน แรกๆ balance เช็คไม่ได้ ไม่โชว์ยอดเงิน ต่อมา ยอดเงินหลายเป็น 0 ซึ่ง งงมาก เลยทำงานปิด account ไป และติดต่อทางบัตรเครดิตเรื่องปฎิเสธการจ่ายเงินก้อนนี้
ทางแบงค์ก็ให้ทำเอกสารเรื่องการ Charge back โดยให้เหตุผลว่า service not satisfy จากนั้นแบงค์ก็ดึงยอดออกไปก่อน คือ เรายังไม่ต้องจ่าย เค้าขอเวลาตรวจสอบ 45 วัน จากนั้นก็ขอเอกสารเพิ่มเติม ว่าทำไม อะไร ยังไง เราก็ให้ไป ซึ่งการ Charge back นี้ เป็นกฎข้อนึงของ Visa ซึ่งเราสามารถทำได้
เดือนถัดมาได้รับใบแจ้งยอด โดยมีการหักยอดดังกล่าวออกไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องก็เงียบหายไป จนมาวันนึงได้รับ จม.จากทางแบงค์ว่า ได้ตรวจสอบกับทางปลายทางแล้ว รายการดังกล่าวถือเป็นรายการที่ถูกต้อง ซึ่งทางนั้นก็ส่งรายละเอียดในการชำระเงินให้ และระบุว่า เราก็ใช้บริการตามปกติ โดยเค้าจะนำยอดดังกล่าวกลับเข้ามา และเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบด้วยอีกจำนวนนึง
เบื้องต้นได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เค้าก็พยายามช่วย โดยให้เราพยายามหาเอกสารหลักฐานมายืนยันอีก แต่ก็ไม่รู้จะหาอะไรมายืนยันแล้ว ซึ่งก็ยืนกรานไปว่า จะไม่จ่าย ให้ฟ้องเอาละกัน ส่วนเราก็จะไปแจ้งความไว้และสู้คดีแน่นอน เพราะเราไม่ควรต้องเสีย
ทีนี้ ถ้าปล่อยให้เค้าเรียกเก็บยอดเข้ามา และเราไม่จ่าย โดยจะจ่ายเฉพาะที่เรารูดไป ปกติจะจ่ายเต็ม แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้บัตรแล้ว มีแค่จ่าย auto พวกค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งกะว่าจะปิดบัตรนี้ซะ และปล่อยให้เค้าส่งเอกสารเรียกเก็บมา และก็จะไม่จ่าย ปล่อยให้เค้าฟ้องไป เราจะมีโอกาสที่จะไม่ต้องจ่ายมั้ยครับ แน่นอนเครดิตต้องเสีย เค้าอาจจะยื่นฟ้องเรา ซึ่งก็ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้นถ้าไม่จำเป็น
ในส่วนของเรา สามารถทำอะไรได้บ้างครับ เช่น ปรึกษาทนาย เอาไว้สู้คดี ยังไม่ต้องจ่ายยอดนี้ จนกว่าจะแพ้ แต่ก็กลัวว่าดอกเบี้ยมันจะเดิน จนจ่ายไม่ไหว หรือว่าขอประนอมหนี้เลย รับชะตากรรมไป แต่ขอผ่อนชำระโดยไม่เสียดอก ซึ่งก็เท่ากับเรายอดรับหนี้ก้อนนี้โดยปริยาย แบบไหนจะดีกว่ากันครับ
โอกาสที่เราจะไม่ต้องจ่ายมีแค่ไหนครับ กรณีนี้ มันไม่เหมือนการรูดซื้อสินค้าแล้วไม่จ่ายนะครับ ถ้าเคสนั้น เรามีหน้าที่ต้องจ่าย แต่ไม่มีเงินจ่ายเอง ซึ่งเราผิดเต็มๆ แต่กรณีนี้มันไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่ก็ไม่ใช่กรณีที่ถูกโกงบัตรเครดิต มันกึ่งๆ ครับ
ผมควรทำยังไงดีครับ เครียดดดด
สอบถามปัญหาบัตรเครดิตกับการ Charge Back ครับ
ทางแบงค์ก็ให้ทำเอกสารเรื่องการ Charge back โดยให้เหตุผลว่า service not satisfy จากนั้นแบงค์ก็ดึงยอดออกไปก่อน คือ เรายังไม่ต้องจ่าย เค้าขอเวลาตรวจสอบ 45 วัน จากนั้นก็ขอเอกสารเพิ่มเติม ว่าทำไม อะไร ยังไง เราก็ให้ไป ซึ่งการ Charge back นี้ เป็นกฎข้อนึงของ Visa ซึ่งเราสามารถทำได้
เดือนถัดมาได้รับใบแจ้งยอด โดยมีการหักยอดดังกล่าวออกไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องก็เงียบหายไป จนมาวันนึงได้รับ จม.จากทางแบงค์ว่า ได้ตรวจสอบกับทางปลายทางแล้ว รายการดังกล่าวถือเป็นรายการที่ถูกต้อง ซึ่งทางนั้นก็ส่งรายละเอียดในการชำระเงินให้ และระบุว่า เราก็ใช้บริการตามปกติ โดยเค้าจะนำยอดดังกล่าวกลับเข้ามา และเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบด้วยอีกจำนวนนึง
เบื้องต้นได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เค้าก็พยายามช่วย โดยให้เราพยายามหาเอกสารหลักฐานมายืนยันอีก แต่ก็ไม่รู้จะหาอะไรมายืนยันแล้ว ซึ่งก็ยืนกรานไปว่า จะไม่จ่าย ให้ฟ้องเอาละกัน ส่วนเราก็จะไปแจ้งความไว้และสู้คดีแน่นอน เพราะเราไม่ควรต้องเสีย
ทีนี้ ถ้าปล่อยให้เค้าเรียกเก็บยอดเข้ามา และเราไม่จ่าย โดยจะจ่ายเฉพาะที่เรารูดไป ปกติจะจ่ายเต็ม แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้บัตรแล้ว มีแค่จ่าย auto พวกค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งกะว่าจะปิดบัตรนี้ซะ และปล่อยให้เค้าส่งเอกสารเรียกเก็บมา และก็จะไม่จ่าย ปล่อยให้เค้าฟ้องไป เราจะมีโอกาสที่จะไม่ต้องจ่ายมั้ยครับ แน่นอนเครดิตต้องเสีย เค้าอาจจะยื่นฟ้องเรา ซึ่งก็ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้นถ้าไม่จำเป็น
ในส่วนของเรา สามารถทำอะไรได้บ้างครับ เช่น ปรึกษาทนาย เอาไว้สู้คดี ยังไม่ต้องจ่ายยอดนี้ จนกว่าจะแพ้ แต่ก็กลัวว่าดอกเบี้ยมันจะเดิน จนจ่ายไม่ไหว หรือว่าขอประนอมหนี้เลย รับชะตากรรมไป แต่ขอผ่อนชำระโดยไม่เสียดอก ซึ่งก็เท่ากับเรายอดรับหนี้ก้อนนี้โดยปริยาย แบบไหนจะดีกว่ากันครับ
โอกาสที่เราจะไม่ต้องจ่ายมีแค่ไหนครับ กรณีนี้ มันไม่เหมือนการรูดซื้อสินค้าแล้วไม่จ่ายนะครับ ถ้าเคสนั้น เรามีหน้าที่ต้องจ่าย แต่ไม่มีเงินจ่ายเอง ซึ่งเราผิดเต็มๆ แต่กรณีนี้มันไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่ก็ไม่ใช่กรณีที่ถูกโกงบัตรเครดิต มันกึ่งๆ ครับ
ผมควรทำยังไงดีครับ เครียดดดด