สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เห็นจุดธูปเรียก ก้อเข้ามาตอบให้ซะหน่อย ...
จขกท. ความอดทนน้อยเกินไปนะคะ ช่าง sensitive กับ conditions รอบข้างเเล้วก้อลาออกง่ายจังค่ะ ขอให้เม้นท์ เราก้อจัดให้ค่ะ .. อย่าโกรธกันก้อพอ
ข้อแม้ของ จขกท. เยอะเเยะไปหมดแบบนี้ นายจ้างทำตัวไม่ถูกเลยนะคะ ถ้าโดนส่งไปทำงานต่างประเทศ จะทำไงอ่ะค่ะ จะอยู่คนเดียวได้เหรอ บอกอยากก้าวหน้า อยากทำ product development อยากทำงานท้าท้าย... มันก้อมีโอกาสที่ต้องถูกส่งไปต่างประเทศนะคะ อยู่ในเมืองไทย ถ้าเราไม่มีเพื่อนเราก้อต้องไปหาเพื่อนอ่ะค่ะ ในเมื่อเลือกเเล้วว่าจะอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแล้วบ้านเราไกล มันก้อเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการที่เราจะต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ที่อยู่ตรงหน้า
ส่วนงาน Purchasing Engineer , Procurement >> ใช่ค่ะ บางทีให้ได้ถึงสองแสน ขึ้นกับประเภทอุตสาหกรรมที่คุณ จขกท. จะไป procure ให้เค้า ถ้าคุณเก่งจริง สามารถเลือก vendors ที่มีคุณภาพ และถ้าจขกท. สามารถจัดการเรื่อง prices and commercial terms ที่ช่วย save cost และปกป้องบริษัทได้
(แต่เป็นงานที่ต้องนั่งจ้องคอมพิวเตอร์บ่อยมากที่สุด อาจปวดตา สายตาสั้นกันได้ง่าย) >>> ขออนุญาตขำ ออกมาดังๆ .. แหม่ แล้วไอ้ที่นั่งเล่นเกมตอนพักเที่ยง ไม่ต้องจ้องคอมฯ เลยว่างั้น ... อันนี้เราว่า จขกท. เยอะไปอ่ะค่ะ เเล้วยิ่งถ้าเหลือบไปมองอีกตัวเลือกนึงที่จะเป็น AutoCad designer อันนั้นก้อต้องใช้สายตาทำงานกับคอมฯ เหมือนกัน
เราเป็นผู้หญิง (ถูกเลี้ยงมแบบไม่เคยต้องลำบากเลยด้วยซ้ำ) แต่เราเลือกทำงานโปรเจคอ่ะ ลำบากมาเวลาที่เราต้องไปอยู่ไซต์ เรายังต้องทนเลยนะคะ แถมโดนพวกสายก่อสร้างหน้างาน look down บ่อยๆด้วยว่าหน้าละอ่อนๆอย่างเราจะทำได้เหรอ ... เรายังต้องอดทนกับสิ่งเหล่านั้นเลยนะคะ ที่ยกตัวอย่างตัวเอง อยากให้ จขกท. ลองอดทนกับ conditions รอบข้างที่ไม่ปรารถนา เเล้วผ่านมันไปให้ได้สักครั้งนึง เเล้ว จขกท. อาจจะค้นพบตัวเองก้อได้ค่ะ
ส่วนเรื่องการทำส่วนตัว มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะคะ .. เราว่า จขกท. ลองทำอะไรนานๆ ที่ต้องอดทนๆ ให้ได้สักอย่างก่อน เเล้วถึงลงมือทำธุรกิจส่วนตัว .. ระหว่างนี้ก้อเก็บเงิน เป็นทุนไปด้วยค่ะ โชคดีค่ะ
จขกท. ความอดทนน้อยเกินไปนะคะ ช่าง sensitive กับ conditions รอบข้างเเล้วก้อลาออกง่ายจังค่ะ ขอให้เม้นท์ เราก้อจัดให้ค่ะ .. อย่าโกรธกันก้อพอ
ข้อแม้ของ จขกท. เยอะเเยะไปหมดแบบนี้ นายจ้างทำตัวไม่ถูกเลยนะคะ ถ้าโดนส่งไปทำงานต่างประเทศ จะทำไงอ่ะค่ะ จะอยู่คนเดียวได้เหรอ บอกอยากก้าวหน้า อยากทำ product development อยากทำงานท้าท้าย... มันก้อมีโอกาสที่ต้องถูกส่งไปต่างประเทศนะคะ อยู่ในเมืองไทย ถ้าเราไม่มีเพื่อนเราก้อต้องไปหาเพื่อนอ่ะค่ะ ในเมื่อเลือกเเล้วว่าจะอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแล้วบ้านเราไกล มันก้อเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการที่เราจะต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ที่อยู่ตรงหน้า
ส่วนงาน Purchasing Engineer , Procurement >> ใช่ค่ะ บางทีให้ได้ถึงสองแสน ขึ้นกับประเภทอุตสาหกรรมที่คุณ จขกท. จะไป procure ให้เค้า ถ้าคุณเก่งจริง สามารถเลือก vendors ที่มีคุณภาพ และถ้าจขกท. สามารถจัดการเรื่อง prices and commercial terms ที่ช่วย save cost และปกป้องบริษัทได้
(แต่เป็นงานที่ต้องนั่งจ้องคอมพิวเตอร์บ่อยมากที่สุด อาจปวดตา สายตาสั้นกันได้ง่าย) >>> ขออนุญาตขำ ออกมาดังๆ .. แหม่ แล้วไอ้ที่นั่งเล่นเกมตอนพักเที่ยง ไม่ต้องจ้องคอมฯ เลยว่างั้น ... อันนี้เราว่า จขกท. เยอะไปอ่ะค่ะ เเล้วยิ่งถ้าเหลือบไปมองอีกตัวเลือกนึงที่จะเป็น AutoCad designer อันนั้นก้อต้องใช้สายตาทำงานกับคอมฯ เหมือนกัน
เราเป็นผู้หญิง (ถูกเลี้ยงมแบบไม่เคยต้องลำบากเลยด้วยซ้ำ) แต่เราเลือกทำงานโปรเจคอ่ะ ลำบากมาเวลาที่เราต้องไปอยู่ไซต์ เรายังต้องทนเลยนะคะ แถมโดนพวกสายก่อสร้างหน้างาน look down บ่อยๆด้วยว่าหน้าละอ่อนๆอย่างเราจะทำได้เหรอ ... เรายังต้องอดทนกับสิ่งเหล่านั้นเลยนะคะ ที่ยกตัวอย่างตัวเอง อยากให้ จขกท. ลองอดทนกับ conditions รอบข้างที่ไม่ปรารถนา เเล้วผ่านมันไปให้ได้สักครั้งนึง เเล้ว จขกท. อาจจะค้นพบตัวเองก้อได้ค่ะ
ส่วนเรื่องการทำส่วนตัว มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะคะ .. เราว่า จขกท. ลองทำอะไรนานๆ ที่ต้องอดทนๆ ให้ได้สักอย่างก่อน เเล้วถึงลงมือทำธุรกิจส่วนตัว .. ระหว่างนี้ก้อเก็บเงิน เป็นทุนไปด้วยค่ะ โชคดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เรียนเชิญวิศวกรทุกท่านมา ชี้แนะเรื่องอาชีพ การทำงาน และอนาคตทีครับ...[วิศวกรคนนี้กำลังหลงทาง]
ขอดำเนินเรื่องราวตัวเองให้ฟังก่อนนะครับ...
[ช่วงจบใหม่ๆ]
ผมเรียนจบวิศวกรยานยนต์ จากสถาบัน(มหาลัย)แห่งหนึ่ง ซึ่งคนที่จบจากที่นี่ล้วนมีงานทำแน่นอนทุกคน
ส่วนมากคนที่จบมาจะถูกป้อนให้เข้าสู่โรงงานและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์เป็นหลัก รองลงมาก็อุตสหกรรมอื่นๆ
ผมเองจบมาก็ได้งานที่โรงงานขนาดใหญ่มากๆแห่งหนึ่งของนิคมแหลมฉบัง สวัสดิการดี เงินเดือนดี โบนัสเยอะ
แต่ผมทำงานได้อยู่1เดือน ก็ต้องขอลาออกอย่างเร็วที่สุดคือ ขาด3วัน=ลาออก (เพราะทนทำต่อไปอีก1เดือนไม่ไหวแน่ๆ)
จึงไปสมัครงานอีกโรงงานหนึ่งในนิคมแหลมฉบัง สวัสดิการ เงินเดือน โบนัส พอๆกัน แต่ทำงานคนละแผนก ซึ่ง...ก็ทนทำงานได้เดือนเดียวจริงๆ
แล้วก็ออกอีกตามเคย...
ณ วินาทีนั้น ผมได้คิดไตร่ตรองแล้ว ว่าผมคงไม่เหมาะกับการทำงานในโรงงานจริงๆ โดยมีปัจจัย สาเหตุมากจาก
1.บ้านอยู่ กรุงเทพ ตอนนั้นต้องเช่าหออยุ่ (อยู่คนเดียวเคว้งมากๆ)
2.งานวน Loop เดิมๆ ลักษณะงานไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แค่ลอกตามแบบที่ญี่ปุ่นทำมาแล้ว ดัดแปลงนิดหน่อย
3.พองานตัวเองทำเสร็จ ไม่รู้จะทำอะไร อยากพักผ่อนในโต๊ะออฟฟิศบ้าง ก็นั่งเช็คเมล์ เล่นเน็ต,เกมนาน 10-20นาที นายยุ่นก็เดินมาต่อว่า
จึงตัดสินใจว่าจะไม่หวนกลับไปทำงานวิศวกรที่โรงงานอีก...หลังจากที่ออกจากโรงงานแล้ว เก็บของที่หอ จ่ายตังค์ กลับกรุงเทพ คืนนั้นทันทีเลย
[ช่วงว่างงาน - หางานใหม่]
ผมเองก็พยายามหางานที่เกี่ยวข้องกับ วิศวกรเชิงการตลาด จนมาพบกับตำแหน่ง "Sales enginner" แต่ก็อาจจะยังไม่รู้จักตำแหน่งนี้ดีพอจนมาเป็น
Sales Auto-Parts(Piston,ring,liner,engine baring,Suspension parts) ให้กับบริษัทขายอะไหล่แห่งหนึ่ง ซึ่ง เงินเดือน สวัสดิการ ไม่ดีเท่าโรงงาน
แน่นอน(จากสองหมื่นกลางๆ เหลือ หมื่นปลายๆ)กินเงินเดือนเพลียๆไม่มีค่าคอม ไม่มีค่าอินเทนซีฟใดๆก็ทำใจได้เรื่องเงินเดือนและสวัสดิการ ทำงาน
จันทร์-เสาร์ ลักษณะงานก็ดีกว่าทำงานโรงงานเยอะ คือ เน้นดูแลลูกค้าเก่า ขยายและหาลูกค้าใหม่ๆ พยายามทำยอดขายให้ถึงเป้าหมายในแต่ล่ะเดือน
ผมเองทำที่นี่มาได้2ปีพอดี เงินเดือนขึ้นปีล่ะ 500บาท(ทุเรศมาก= ='') ตอนนี้เงินเดือนก็ยังไม่ถึงสองหมื่น แล้วลองมองดูอนาคตพี่ๆเซลที่อยุ่มา10ปี+
เงินเดือนยังสองหมื่นปลายๆ-สามหมื่นนิดๆ เริ่มรู้สึกว่ามันไม่พอต่ออนาคตแน่ๆ แถมยอดแต่ล่ะเดือนก็เพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆ เราต้องหาลูกค้าใหม่เรื่อยๆ
ช่วงแรกๆทะลุเป้าทุกเดือน หลังๆไม่ถึงเป้าสักเดือน TT" เริ่มมีโดนเจ้านายพูดแซวๆบ้างนิดๆหน่อยๆ
[ช่วงกำลังสับสน]
ตอนนี้ยังทำงานที่เดิมอยู่ งานที่ทำอยู่..ใน1อาทิตย์ทำงานเต็มเวลาแค่ 2-3วัน นอกนั้นฟรีเดย์ จึงเกิดความคิดว่า ช่วงฟรีเดย์ จะหางานทำเพิ่ม สร้างรายได้
เพิ่มดีไหม ? (แต่ไม่รู้ว่าจะได้บ่อยๆไหม เพราะคงต้องหาฟรีแล้นซ์ทำ) แต่ทันใดนั้น...ในใจก็คิดได้ว่า ถ้ายอดขายเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วฐานลูกค้ามันเต็ม
แล้วเพราะทุกวันนี้ ลูกค้าของเซลแต่ล่ะท่านยังชนกันเอง จึงคิดว่า งานเซลเริ่มไม่มั่นคงแล้วตอนนี้จึงเกิดความคิดในใจว่า
ควรจะหางานใหม่ ซึ่งกำลังมองไปในทางของสายอาชีพดังต่อไปนี้
1.Purchasing Engineer , Procurement
(หลายคนบอกอาชีพนี้เงินเดือนดี สามารถต่อยอดเงินเดือนได้เกือบถึงหลักแสนบาท)
(แต่เป็นงานที่ต้องนั่งจ้องคอมพิวเตอร์บ่อยมากที่สุด อาจปวดตา สายตาสั้นกันได้ง่าย)
2.Product Development
(อาชีพนี้คิดว่าน่าจะสนุก แต่ก็ขึ้นอยู่กับสินค้านั้นๆด้วย ส่วนเรื่องต่อยอดเงินเดือน...ไม่ทราบรายละเอียดเลยครับ...)
3.Marketing Engineer
(สายงานการตลาดเชิงวิศวกรรมบ้างนิดๆ ส่วนเรื่องต่อยอดเงินเดือน...ไม่ทราบรายละเอียดเลยครับ...)
4.Design CAD/CAM/CAE Engineer
(สายงานนี้น่าจะตรงกับที่ผมจบมาและผมก็ชอบงานออกแบบ3D ด้วยนิดๆ แต่ติดตรงเรื่องต่อยอดเงินเดือน)
ซึ่งตอนนี้ผมเองมีความฝัน...
1.ธุรกิจ SME พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวและค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วยังเหลือเก็บ
2.กินเงินเดือนในระกับนึงที่ พอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวและค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วยังเหลือเก็บ
ปล.แต่ช้อยส์1น่าจะยากกับเศรษฐกิจปัจจุบันและมาร์เก็ตแชร์ที่มากขึ้นทุกวันๆ จึงอยากได้ความมั่นคงมากกว่า ขอเน้นไปทางช้อยส์2
**จึงอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆวิศวกร ช่วยแนะนำทีครับ...ว่าผมควรเดินไปอย่างไรดี ?**