อยากเตือนเพื่อนๆก่อนจะเลือกใช้บริการบัตรเครดิตของแบงค์สีม่วง

กระทู้สนทนา
เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับบริษัททัวร์ และโดนล้วงกระเป๋าสตางค์ ซึ่งในกระเป๋าที่โดนล้วงไปนั้นมีบัตรเครดิตอยู่ 3 ใบ ซึ่งเป็นของแบงค์สีม่วง 2 ใบ สาเหตุที่ต้องพก 2 ใบเพราะปกติใช้ใบสีดำ แต่ต้องการซื้อของที่สนามบินเลยต้องเอาบัตรที่ได้ส่วนลดใน King Power ไปใช้ ส่วนอีกใบเป็นของ AMEX โดยเมื่อรู้ตัวว่าโดนล้วงกระเป๋าดิฉันก็ได้เปิดโทรศัพท์ (ปกติจะปิด เพราะเปิดโรมมิ่งไว้ ถ้าอยู่ต่างประเทศไม่ได้ใช้จะปิดเครื่องค่ะ เคยโดน Net ไหล เข็ด) รีบโทรมาอายัดบัตรกับแบงค์สีม่วงก่อนพอ Call Center รับ และได้แจ้งเรื่องว่าต้องการอายัดบัตรเครดิตเพราะบัตรโดนขโมย Call Center ก็ได้บอกกลับว่า “ยอดการใช้ที่เกิด เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า” ดิฉันเลยถามกลับไปว่าถ้าต้องการปฏิเสธต้องทำยังไง และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ก็ได้คำตอบกลับมาว่า “ยอดการใช้ที่เกิด เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า” เลยวางหูกับแบงค์สีม่วงไปด้วยความกลุ้มใจ โทรไปอายัดกับ AMEX ต่อด้วยจิตใจที่หดหู่ แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับทำให้รู้ว่ามาตรฐานการบริการช่างแตกต่างกันฟ้ากับเหว โดยที่ Call Center AMEX ให้บริการและช่วยเหลืออย่างดี ไม่ได้ยินคำพูด “ยอดการใช้ที่เกิด เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า” เลยสักคำเดียว พอสอบถามถึงการปฏิเสธยอดการใช้ ทาง Call Center AMEX ก็ได้สอบถามถึงวันที่กลับเมืองไทยเพื่อติดต่อกลับ พอดิฉันถามถึงเอกสารที่ต้องใช้ ทาง Call Center AMEX ก็แจ้งบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ

หลังจากนั้นดิฉันก็ได้โทรบอกที่บ้าน น้องดิฉันเลยโทรกลับไปถาม CC ของแต่ละแบงค์อีกครั้ง ถึงเอกสารและขั้นตอนที่ต้องเตรียมการสำหรับการปฏิเสธยอดการใช้ที่เกิดขึ้น โดยเริ่มที่แบงค์สีม่วงก่อน ซึ่งต้องเริ่มเล่าเรื่องราวใหม่ถึงจุดประสงค์ที่โทรเข้ามา และก็ได้รับประโยคเดิมคือ “ยอดการใช้ที่เกิด เป็นความรับผิดชอบของลูกค้า” จึงได้แจ้งกลับไปว่าทราบค่ะ แต่ต้องการจะปฏิเสธยอดต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ต้องใช้ใบแจ้งความมั๊ย เธอเลยตอบกลับมาว่าใช้ “ก็ได้ครับ” เน้นนะค่ะ “ก็ได้ครับ”  หลังจากนั้นก็โทรไป AMEX ต่อ แล้วสิ่งที่ได้กลับมามันยิ่งตอกย้ำถึงมาตรฐานการบริการของทั้ง 2 แบงค์ที่ต่างกันฟ้ากับเหวอีกครั้ง พอแจ้งเรื่องเข้าไป ทาง CC ของ AMEX ไม่ต้องสอบถามข้อมูลเรื่องราวใหม่เหมือนแบงค์สีม่วง (ซึ่งครั้งแรกที่ดิฉันโทรคนรับเป็นผู้หญิง แต่พอน้องโทรกลับไปถามรายละเอียดอีกครั้งผู้ชายเป็นคนรับ) พอแจ้งชื่อให้ทราบ ทาง CC ของ AMEX ก็ได้บอกกลับมาว่าทาง AMEX ได้รับเรื่อง และส่งต่อให้ผู้เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง AMEX จะติดต่อกลับในวันที่ดิฉันกลับถึงไทย พอถามว่าจะให้จัดส่งใบแจ้งความเข้าไปให้มั๊ย เพราะจะส่งให้แบงค์สีม่วงอยู่แล้ว ก็ได้คำตอบว่าถ้ามีอยู่แล้วก็ส่งมาก็ได้ค่ะ... ยังค่ะ ความเลวร้ายของแบงค์สีม่วงยังไม่จบเท่านี้

พอดิฉันกลับถึงไทย ในวันรุ่งขึ้นดิฉันได้รับการติดต่อจาก AMEX ทันที พร้อมจัดส่งเอกสารที่มีรายละเอียดที่โดนขโมยไปใช้มาให้ดิฉันเซ็นต์รับรอง และส่งกลับ ซึ่งวันรุ่งขึ้นทาง AMEX ก็ได้โทรกลับมาแจ้งว่าดิฉันไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกับยอดการใช้ที่ดิฉันไม่ได้ใช้ และไม่ได้เต็มใจให้ใครนำไปใช้ จบปัญหาไป 1 แบงค์ โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมดไม่ถึง 1 สัปดาห์ และทางเจ้าหน้าที่ของ AMEX ก็เป็นผู้ติดต่อมาไม่ต้องโทรตาม แต่แบงค์สีม่วงกลับหายเงียบ ซึ่งดิฉันต้องเป็นฝ่ายโทรเข้าไปสอบถาม CC อีกครั้ง โดยต้องเริ่มเล่าเรื่องให้ CC แบงค์สีม่วงฟังอีกครั้ง และให้ CC จัดส่งแบบฟอร์มการปฏิเสธยอดมาทาง Email เพื่อที่ดิฉันจะได้ทำเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรจัดส่งเข้าไป และได้ถาม CC กลับไปว่าจะจัดส่งเอกสารกลับทาง Email ที่ส่งแบบฟอร์มมาให้ดิฉันเลยได้มั๊ย กลับได้คำตอบว่าให้ส่ง Fax มา เพราะถ้าดิฉันส่งเป็น Email ดิฉันต้องโทรมาแจ้งด้วยว่าส่ง Email เข้ามา ดิฉันเลยถามไปว่าให้ Fax ไปที่เบอร์อะไร CC ก็บอกว่าให้ Fax ตามเบอร์ในเอกสารเลยค่ะ พอได้รับ Email ดิฉันก็ได้ทำการกรอกข้อมูล และจัดส่งเข้าไปทาง Fax ตามที่ CC แจ้ง

วันรุ่งขึ้นมีเจ้าหน้าที่จากทางแบงค์สีม่วงโทรเข้ามาสอบถามข้อมูล แจ้งว่ามาจากฝ่ายตรวจสอบ โดยที่ดิฉันต้องเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ท่านนี้ฟังอีกครั้ง และสิ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกถึงความไม่จริงใจของแบงค์สีม่วงนี้ก็คือ เจ้าหน้าที่คนนี้สอบถามดิฉันว่าคุณได้แจ้งความไว้มั๊ย? ซึ่งดิฉันก็ได้ตอบเธอไปว่าตอนฉันถาม CC ไม่เห็นบอกว่าต้องใช้ เจ้าหน้าที่กลับตอบดิฉันมาว่า “คนละฝ่ายกันครับ” (ดีนะคะที่ได้ขอให้ไกด์ไปส่งแจ้งความไว้ ไม่งั้นคงเซ็งกว่านี้) งงเลยค่ะ วิธีการทำงานของแบงค์สีม่วงที่โฆษณาด้วยความภูมิใจว่าเป็นแบงค์แรกของไทย แต่กลับไม่ให้บริการด้วยความจริงใจแก่ลูกค้าเลย ดิฉันเข้าใจนะคะว่าอาจมีลูกค้าบางคนที่ตั้งใจจะโกงธนาคารด้วยกรณีแบบนี้ แต่ในเมื่อคุณเป็นบริษัทมหาชน คุณควรมีขั้นตอนมาตรฐานการบริการที่ดี ควรให้พนักงาน CC แจ้งแก่ลูกค้าหากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น สิ่งที่ลูกค้าต้องทำเพื่อพิสูจน์ตัวเองมีอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบต้องดำเนินเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ลูกค้าแจ้ง ไม่ใช่พยายามบ่ายเบี่ยงยัดเยียดความรับผิดชอบให้ลูกค้าอยู่ตลอดเวลา อยากให้ทางแบงค์ช่วยตะหนักด้วยเถอะค่ะ เวลาที่โทรมาตื้อขอให้ช่วยทำบัตรเครดิต ประกันชีวิต ช่วยซื้อ LTF ช่วยฝากเงิน โน่นนี่นั่น ทางแบงค์จะมีความเพียรพยายามโทรมามาก พูดได้น้ำไหลไฟดับ แต่พอลูกค้าเกิดปัญหาขึ้นกลับยัดเยียดความรับผิดชอบให้แก่ลูกค้า และหายหัวเงียบ ต้องเป็นลูกค้าที่พยายามติดต่อเอง

ซึ่งหลังจากที่ทำเรื่องไปรออีกประมาณ 1 เดือน (Fax วันที่ 30 ต.ค. จดหมายตอบกลับลงวันที่ 2 ธ.ค.) แล้วก็ได้รับจดหมายกลับมาจากทางแบงค์ว่าลูกค้าต้องรับผิดชอบ โดยชี้แจงรายละเอียดกลับมาว่าเวลาที่ซื้อของเกิดขึ้นก่อนเวลาที่ดิฉันโทรแจ้ง แต่เวลาที่แบงค์สีม่วงแจ้งกลับมากับมีช่วงเวลาที่แตกต่างกับเวลาการโทรจากใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์มือถือ โดยที่เวลาในใบแจ้งหนี้ดิฉันเริ่มโทรนาทีที่ 13 แต่ทางแบงค์แจ้งกลับมาว่าดิฉันโทรอายัดนาทีที่ 22 ซึ่งทำให้ดิฉันเกิดความสงสัยขึ้นมาถึงกระบวนการทำงานของแบงค์สีม่วง คุณใช้เวลาในการดำเนินการอายัดบัตรเครดิตนานถึง 9 นาที แล้วระหว่างที่ดิฉันกำลังโทรคุณอยู่กับ CC ของคุณก็เกิดรายการขึ้น ซึ่งท้ายที่แล้วแบงค์ก็ยัดเยียดให้ลูกค้ารับผิดชอบ โดยไม่ได้ตระหนักถึงขั้นตอนการดำเนินการของทางแบงค์ที่มีความล่าช้าก่อให้เกิดความเสียหาย เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าทางแบงค์จะทำงานห่วยจนเกิดความเสียหายขึ้นแค่ไหนยังไงก็ไม่เดือดร้อน เพราะยัดเยียดให้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ดี

จากรายละเอียดข้างต้นดิฉันจึงได้ทำเรื่องร้องเรียนเข้าไปยังแบงค์ชาติ  และก็ได้ผลตอบกลับจากทางแบงค์คือให้รับผิดชอบค่าเสียหายครึ่งนึง โดยที่ไม่ได้ชี้แจงถึงเหตุผลของช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกันเวลา ซึ่งทางดิฉันก็ได้ปฏิเสธกลับไป และได้ทำจดหมายเข้าไปยังแบงค์ชาติอีกครั้งเพื่อขอทราบเหตุผลของความต่างเรื่องเวลา แต่สิ่งที่ดิฉันไม่เข้าใจแบงค์สีม่วงอีกอย่างนึงคือทำไมพอเรื่องผ่านแบงค์ชาติทางธนาคารถึงลดค่าใช้จ่ายให้ครึ่งนึง ทั้งๆที่ปัญหารายละเอียดที่ฉันได้แจ้งแก่แบงค์ชาติก็ไม่ได้ต่างกับที่แจ้งแก่ทางแบงค์สีม่วงเลย แล้วจนถึงบัดนี้ทางแบงค์สีม่วงก็ยังคงเงียบ แต่มีเพียงหน่วยงานเดียวของแบงค์ที่ติดต่อดิฉันกลับมาอย่างสม่ำเสมอ บางวันก็วันละหลายๆรอบ คือเจ้าหน้าที่ทวงหนี้ ถึงแม้ดิฉันจะได้แจ้งกลับไปว่ายอดการค้างชำระคือยอดที่กำลังดำเนินการร้องเรียนอยู่ก็ตาม เหนื่อยใจจริงๆค่ะ กับมาตรฐานการบริการของแบงค์สีม่วงนี้

สุดท้ายนี้ดิฉันอยากฝากให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะตัดสินใจใช้บริการบัตรเครดิตของแบงค์สีม่วงให้พิจารณาดีๆ ค่ะ เพราะว่าปัจจุบันนี้มีทางเลือกมากมายหลายบัตร และก็มีหลายบัตรที่มีบริการที่ดี และมีความจริงใจกว่าแบงค์สีม่วงเยอะค่ะ และถึงแม้เงื่อนไขสัญญาการใช้บัตรเครดิตระบุให้ผู้ถือบัตรต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าข้อกำหนดสัญญาไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคขนาดนี้ ทางผู้บริโภคสามารถร้องเรียนไปยัง สคบ. ได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่