รัฐบาลและยิ่งลักษณ์กำลังย่ำแย่ แต่โผทหารกลับเหลือเชื่อ คนที่มีความขัดแย้งกับนายกและเสื้อแดง ไปเสียแล้ว
คาดทูลเกล้าฯ บัญชีทหาร 17 มี.ค. - โผเด้ง ผบ.ซีลตามคาด “วลิต” มทภ.4 “ลูกบิ๊กจ๊อด” คุมทัพกรุง
ปลัดกลาโหมคาดบัญชีโยกย้ายทหารถึงมือ “ยิ่งลักษณ์” ลงนาม ส่ง สลค.ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ 17 มี.ค. แหล่งข่าวแย้มโผ “วลิต” ได้นั่ง มทภ.4 ดัน ผบ.พล.1 รอ.นั่ง รอง มทภ.1 แล้วให้ “อภิรัชต์” นั่งแทน ส่วน ผบ.ซีล โดนแน่ๆ เด้งขึ้นยศ พล.ร.ท. ดึงอดีตรองผบ.นสร.ลงมาคุมขัดตาทัพ เจ้าตัวบอกเรื่องอนาคต
วันนี้ (13 มี.ค.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปีว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมาตนได้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา และในวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้เชิญตนไปชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งบัญชีปรับย้ายไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้คาดว่าภายในวันที่ 14 มี.ค.นี้ บัญชีปรับย้ายจะส่งมาถึงมือตน ซึ่งตนจะนำบัญชีรายชื่อส่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อให้นายกฯ ลงนามในบัญชีการปรับย้ายและก่อนจะส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถนำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารขึ้นทูลเกล้าได้ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ซึ่งถือว่าอยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปีครั้งนี้ ทางนายกฯ ได้ให้อิสระกับ ผบ.เหล่าทัพในการปรับย้าย โดยไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด ส่วนตำแหน่งที่น่าสนใจในการปรับย้ายครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.15) ที่เป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ และเคยพลาดหวังจากการขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 มาถึง 2 ครั้งจะได้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แทนพล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ที่จะขยับเข้ากินอัตราพลเอกในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ด้าน พล.ท.พิสิทธิ์ สิทธิสาร (ตท.17) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จะขยับขึ้นมาเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ (ตท.18) ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.)ที่ขณะนี้เป็นผบ.กองกำลังทหารควบคุมการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในกรุงเทพฯ จะขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 โดย พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (ตท.20) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 (ผบ.มทบ.15) ลูกชาย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จะกลับมาเป็น ผบ.พล.1 รอ.
รายงานข่าวยังระบุว่า ในส่วนของกองทัพเรือมีตำแหน่งที่น่าสนใจ คือ การปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ (ตท.16) ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือ ผบ.หน่วยซีล ออกจากตำแหน่ง ภายหลังจากที่ พล.ร.ต.วินัยออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาลจนทำให้นายกรัฐมนตรีและกองทัพเรือเกิดความไม่สบายใจ อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า พล.ร.ต.วินัยให้การสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ด้วย ทำให้ทาง พล.ร.อ.ณรงค์ พัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ จึงปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย ที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.นสร.มานาน 3 ปี 6 เดือนออกจากตำแหน่ง เพื่อลดแรงกดดันจากรัฐบาล โดยให้ไปกินอัตราพลโทในตำแหน่งผู้ทรงคุณพิเศษกองทัพเรือ แต่เนื่องจากยังหาคนในที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งไม่ได้ จึงโยก พล.ร.ต.ยุจ พิจิตรชุมพล หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ (ตท.18) ผบ.กองเรือยุทธการ ที่เคยดำรงเป็นทั้งรอง ผบ.นสร. และเสธ.นสร.ลงมาเป็น ผบ.นสร. เพื่อเป็นการขัดตาทัพไปก่อน
โดย พล.ร.ต.วินัยกล่าวเพียงสั้นๆ ถึงกระแสข่าวว่าจะถูกปรับย้ายออกจากตำแหน่งว่า “ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ขอให้เป็นเรื่องอนาคต ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกที”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000028920
เหลือเชื่อ?..เด้งผบ.หน่วยซีล แขวนอัตราพล.ร.โท ส่วน วลิต ผู้สลายแดง จอดป้ายที่ แม่ทัพภาค4
คาดทูลเกล้าฯ บัญชีทหาร 17 มี.ค. - โผเด้ง ผบ.ซีลตามคาด “วลิต” มทภ.4 “ลูกบิ๊กจ๊อด” คุมทัพกรุง
ปลัดกลาโหมคาดบัญชีโยกย้ายทหารถึงมือ “ยิ่งลักษณ์” ลงนาม ส่ง สลค.ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ 17 มี.ค. แหล่งข่าวแย้มโผ “วลิต” ได้นั่ง มทภ.4 ดัน ผบ.พล.1 รอ.นั่ง รอง มทภ.1 แล้วให้ “อภิรัชต์” นั่งแทน ส่วน ผบ.ซีล โดนแน่ๆ เด้งขึ้นยศ พล.ร.ท. ดึงอดีตรองผบ.นสร.ลงมาคุมขัดตาทัพ เจ้าตัวบอกเรื่องอนาคต
วันนี้ (13 มี.ค.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปีว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมาตนได้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา และในวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา กกต.ได้เชิญตนไปชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งบัญชีปรับย้ายไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้คาดว่าภายในวันที่ 14 มี.ค.นี้ บัญชีปรับย้ายจะส่งมาถึงมือตน ซึ่งตนจะนำบัญชีรายชื่อส่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อให้นายกฯ ลงนามในบัญชีการปรับย้ายและก่อนจะส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถนำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารขึ้นทูลเกล้าได้ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ซึ่งถือว่าอยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสม
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปีครั้งนี้ ทางนายกฯ ได้ให้อิสระกับ ผบ.เหล่าทัพในการปรับย้าย โดยไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด ส่วนตำแหน่งที่น่าสนใจในการปรับย้ายครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.15) ที่เป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ และเคยพลาดหวังจากการขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 มาถึง 2 ครั้งจะได้ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แทนพล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ที่จะขยับเข้ากินอัตราพลเอกในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ด้าน พล.ท.พิสิทธิ์ สิทธิสาร (ตท.17) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จะขยับขึ้นมาเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ (ตท.18) ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.)ที่ขณะนี้เป็นผบ.กองกำลังทหารควบคุมการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในกรุงเทพฯ จะขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 โดย พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (ตท.20) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 (ผบ.มทบ.15) ลูกชาย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จะกลับมาเป็น ผบ.พล.1 รอ.
รายงานข่าวยังระบุว่า ในส่วนของกองทัพเรือมีตำแหน่งที่น่าสนใจ คือ การปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ (ตท.16) ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือ ผบ.หน่วยซีล ออกจากตำแหน่ง ภายหลังจากที่ พล.ร.ต.วินัยออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาลจนทำให้นายกรัฐมนตรีและกองทัพเรือเกิดความไม่สบายใจ อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า พล.ร.ต.วินัยให้การสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ด้วย ทำให้ทาง พล.ร.อ.ณรงค์ พัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ จึงปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย ที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.นสร.มานาน 3 ปี 6 เดือนออกจากตำแหน่ง เพื่อลดแรงกดดันจากรัฐบาล โดยให้ไปกินอัตราพลโทในตำแหน่งผู้ทรงคุณพิเศษกองทัพเรือ แต่เนื่องจากยังหาคนในที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งไม่ได้ จึงโยก พล.ร.ต.ยุจ พิจิตรชุมพล หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ (ตท.18) ผบ.กองเรือยุทธการ ที่เคยดำรงเป็นทั้งรอง ผบ.นสร. และเสธ.นสร.ลงมาเป็น ผบ.นสร. เพื่อเป็นการขัดตาทัพไปก่อน
โดย พล.ร.ต.วินัยกล่าวเพียงสั้นๆ ถึงกระแสข่าวว่าจะถูกปรับย้ายออกจากตำแหน่งว่า “ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ขอให้เป็นเรื่องอนาคต ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกที”
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000028920