สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ในปัจจุบันนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นเรื่องที่มีการคลี่คลายปริศนามานานแล้วครับ
ตั้งแต่เมื่อระบบ GPS ได้พัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่มีความลึกลับของที่นี่อีก
สาเหตุของปริศนาสมัยก่อนทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายใว้แล้ว ดังนี้
1. Compass variations (ความผิดพลาดของเข็มทิศแม่เหล็ก)
กรณีนี้เป็นความคลาดเคลื่อนของเข็มทิศแม่เหล็ก ทำให้เข็มแม่เหล็กในเรือสมัยนั้น
ชี้ทิศทางเหนือไม่ตรง มีความคลาดเคลื่อนสูง ทำให้เดินเรือผิดทิศทางไปมาก (ในระยะทางไกล)
จึงเกิดเป็นเรื่องเล่าถึงความลึกลับ ซึ่งจริง ๆ แล้วเกิดจากการเดินเรือผิดทิศทางไปเอง
2. Gulf Stream (กระแสน้ำอุ่น)
ในบริเวณไกล้สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา คืออ่าวเมกซิโกและช่องแคบฟลอริดา
มีสภาพการเกิด Gulf Stream ที่รุนแรงอยู่เสมอ บางครั้งอาจแรงถึง 5 Knots
ดังนั้นเรือบางลำอาจถูกพัดพาไปจนเส้นทางผิดเพี้ยนไปเยอะ จนคิดว่าเป็นเรื่องลึกลับ
แต่ในปัจจุบันนี้ เมื่อมี GPS นักเดินเรือก็สามารถทราบและคำนวณ Leeway (ค่าความผิดพลาดของอิทธิพลกระแสน้ำ)
ทำให้สามารถแก้ไขทิศหัวเรือได้โดยง่ายครับ
ภาพเส้นทางกระแสน้ำอุ่นรุนแรง
3. Methane hydrates (การลอยตัวของแก้สมีเทน)
บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เป็นที่หนึ่งในโลกที่มี Methane hydrates ครับ
ซึ่งบางครั้งการลอยตัวนี้ร้ายแรงและมีขนาดใหญ่ขนาดทำอันตรายแก่เรือได้เลย
ภาพแสดงสถานที่ซึ่งมี Methane hydrates
ปัจจุบันนี้ แถว ๆ เบอร์มิวดากลายเป็นสถานที่ดำน้ำที่สวยงาม
เพราะมีตำแหน่งที่เรือจมเยอะ เป็นเรือสมัยโบราณสวย ๆ ทั้งนั้น
http://www.aquaexplorers.com/Bermuda_shipwrecks.htm#.UkMWx9KEO2k
และมีเครื่องบินวิ่งกันเยอะแยะเลย (ขอบคุณภาพจากคุณ "หวาก" ครับ)
ตั้งแต่เมื่อระบบ GPS ได้พัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่มีความลึกลับของที่นี่อีก
สาเหตุของปริศนาสมัยก่อนทางวิทยาศาสตร์ได้อธิบายใว้แล้ว ดังนี้
1. Compass variations (ความผิดพลาดของเข็มทิศแม่เหล็ก)
กรณีนี้เป็นความคลาดเคลื่อนของเข็มทิศแม่เหล็ก ทำให้เข็มแม่เหล็กในเรือสมัยนั้น
ชี้ทิศทางเหนือไม่ตรง มีความคลาดเคลื่อนสูง ทำให้เดินเรือผิดทิศทางไปมาก (ในระยะทางไกล)
จึงเกิดเป็นเรื่องเล่าถึงความลึกลับ ซึ่งจริง ๆ แล้วเกิดจากการเดินเรือผิดทิศทางไปเอง
2. Gulf Stream (กระแสน้ำอุ่น)
ในบริเวณไกล้สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา คืออ่าวเมกซิโกและช่องแคบฟลอริดา
มีสภาพการเกิด Gulf Stream ที่รุนแรงอยู่เสมอ บางครั้งอาจแรงถึง 5 Knots
ดังนั้นเรือบางลำอาจถูกพัดพาไปจนเส้นทางผิดเพี้ยนไปเยอะ จนคิดว่าเป็นเรื่องลึกลับ
แต่ในปัจจุบันนี้ เมื่อมี GPS นักเดินเรือก็สามารถทราบและคำนวณ Leeway (ค่าความผิดพลาดของอิทธิพลกระแสน้ำ)
ทำให้สามารถแก้ไขทิศหัวเรือได้โดยง่ายครับ
ภาพเส้นทางกระแสน้ำอุ่นรุนแรง
3. Methane hydrates (การลอยตัวของแก้สมีเทน)
บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เป็นที่หนึ่งในโลกที่มี Methane hydrates ครับ
ซึ่งบางครั้งการลอยตัวนี้ร้ายแรงและมีขนาดใหญ่ขนาดทำอันตรายแก่เรือได้เลย
ภาพแสดงสถานที่ซึ่งมี Methane hydrates
ปัจจุบันนี้ แถว ๆ เบอร์มิวดากลายเป็นสถานที่ดำน้ำที่สวยงาม
เพราะมีตำแหน่งที่เรือจมเยอะ เป็นเรือสมัยโบราณสวย ๆ ทั้งนั้น
http://www.aquaexplorers.com/Bermuda_shipwrecks.htm#.UkMWx9KEO2k
และมีเครื่องบินวิ่งกันเยอะแยะเลย (ขอบคุณภาพจากคุณ "หวาก" ครับ)
แสดงความคิดเห็น
เป็นไปได้ไหมที่ ""MH370 - มาเลเซียแอร์ไลน์" จะเจอเหตุการณ์เหมือนกับที่ "สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)"
สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนอาถรรพ์ มรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่านเข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาดอาจเป็นเพราะความเชื่อในเรื่องอันพิลึกกึกกือที่เป็นข่าวระบือลือลั่นกันไม่รุ้จบระหว่างคนในระแวกนั้น เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ มักจะเกิดขึ้นกับเรือ หรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น
◦นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน จากสถิติของบริษัท Lioyd’s ov London ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยเรือเดินสมุทร พบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ถึง 1973 (ราว 10 ปี) มีเรือในประกันของบริษัทจำนวน 60 ลำ รวมผู้โดยสาร 900 คน ได้หายสาบสูญไปในบริเวณน่านน้ำเบอร์มิวด้า
◦โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1967 มีเรือทะเล เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายไปอย่างลึกลับเป็นจำนวน 15 ลำ ทั้ง 15 ลำ ไม่มีการส่งสัญญาณ “SOS” หรือส่งวิทยุขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่แปลกน่าฉงน และน่ากลัวที่สุดก็คือ เรือทั้ง 15 ลำนั้นเป็นเรือขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ช่วยในการเดินเรือแบบทันสมัยบริบูรณ์ เช่นวิทยุสื่อสาร เราดาร์นำร่องโซนาร์นำร่อง การค้นหาได้กระทำกันเป็นเดือนๆ แต่ก็ประสบผลล้มเปลวโดยสิ้นเชิงไม่พบแม้แต่เงา นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ไดมาจากบริษัทประภัยของเอกชนที่ต้องจ่ายประกันไปจนบริษัทแทบล้มละลาย น้ำมาซึ่งความงุนงง ให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างสิ้นหวัง อะไรเกิดขึ้นกับเรือเหล่านั้น ลูกนาวี 900 คนหายไปไหนใครบ้างจะมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้
◦ตัวอย่างอีกรายหนึ่งที่จะขอยกมาให้พิจารณาว่ามันเป็นอาถรรพณ์ของดินแดนมรณะแห่งนี้ (หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ) คือ การหายสาบสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดนาวีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 , เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ 1 ฝูงบิน (5 เครื่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องทั้งหมด 14 นาย?ได้ออกทำการบินฝึกทิ้งระเบิดเหนือดินแดนเบอร์มิวด้า ห่างจากฐานทัพฟอร์ทล๊อคเดอร์เดลประมาณ 225 ไมล์ และแล้ว ฝูงบินทั้ง 5 ลำก็หายสาบสูญ ไม่เหลือแม้แต่เงา นาวีสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินผู้ประสบภัยมาร์ติน มารีนเนอร์ แบบ PBM (เป็นเครื่องบินน้ำ 2 เครื่องยนต์) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง 13 นาย อกตามหา 20 นาทีต่อมา PBM ก็หายสาบสูญ โดยขาดการติดต่อกับหอบังคับการ และหายไปอย่างลึกลับเช่นกันไม่มีเหลือแม้แต่เงา
◦มันจะเป็นเหตุบังเอิญ อุบัติเหตุ หรือเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริง แนวโน้มจากสถิติการสูญหายอาจบอกเราได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณเบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอนเป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
◦สถิติการสูญหายมีมากที่สุดในปี ค.ศ. 1975 คิดมีการสูญสาย 11 ราย เฉลี่ยเดือนละราย เมื่อเปรียบเทียบความเสียหายในบริเวณนี้กับบริเวณเส้นทางเดินเรืออื่นๆ แล้ว พบว่าแถบเบอร์มิวด้าต้องเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ เพราะในน่านน้ำที่อื่นๆ ไม่มีสถิติการสูญหายมากเท่านี้เลย O,O!!!