ขอเกริ่นนำประวัติความเป็นมาของช็อคโกแลตยี่ห้อ " Godiva" ก่อนละกันนะค่ะ จุดเริ่มต้นของช็อคโกแลต Godiva ต้องย้อนรอยกลับไปปี 1920s การประชุมเชิงปฏิบัติการการทำหวานและช็อคโกแลต เป็นเจ้าของและดำเนินการโดยครอบครัว Draps ในบรัสเซลส์, เบลเยียม ทำให้ช็อคโกแลต "Pralines" ของพวกเขาถูกขายในร้านค้าแฟชั่นขนาดใหญ่
ตอนอายุ 14 Joseph Draps ได้เข้าไปในธุรกิจของครอบครัว กว่าปีที่เขาได้พัฒนาทั้งความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ จนเป็นหัวหน้าผู้ผลิตช็อคโกแลต ผลิตเช่นเดียวกับความสามารถทางธุรกิจของเขา เขาตัดสินใจที่จะสร้างชื่อของช็อคโกแลตที่จะให้มันสื่ออารมณ์ เขาเลือกใช้ชื่อ "Godiva" และวางตลาดขายช็อคโกแลต ในรูปแบบกล่องสีทองที่จดจำง่าย (ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.chillpainai.com/) ^^
กล่องสีทองแสนหรู สมยี่ห้อ
" Godiva" นั้นเป็นยี่ห้อช็อคโกแลตชื่อดังสัญชาติเบลเยี่ยม ที่มีสาขาอยู่หลายสาขาทั่วโลก แถมมีประวัติความเป็นมาแสนยาวนานมากค่ะ
ในกล่องนี้มี 14 รสชาติให้ลิ้มลองค่ะ
แอบเปิดป้ายดูก่อนดีกว่าว่ามีรสชาติอะไรบ้าง
ได้เวลาลุ้นๆๆ เพราะกล่องนี้น้องจับฉลากปีใหม่แล้วได้มา 555
ใน 1 กล่องมี 14 ชิ้น 14 รสชาติจริงๆ ด้วย อ๊ะ... หายไปไหนแล้วอ่า
ช่วงที่ไม่อยู่บ้านโดนแม่กะน้องชิมนำไปก่อนแล้ว แงๆ
ชิ้นนี้ทำเหมือนโลโก้หน้ากล่องเลย แต่ว่าเราสงสัยจังว่าทำไมช็อคโกแลตยี่ห้อนี้ถึงได้ทำโลโก้เป็น "รูปหญิงสาวขี่ม้า" มันเกี่ยวอะไรกับ ช็อคโกแลตเนี่ย ขอเล่าประวัติคร่าวหน่อยละกันเนอะ หญิงสาวผู้นี้มีนามว่า " เลดี้ โกไดว่า" (Lady Godiva) เป็นสตรีสูงศักดิ์ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองโคเวนทรี (Coventry) ประเทศอังกฤษมีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. ๙๙๗-๑๐๖๗เธอเป็นภรรยาของลีโอฟริก (Leofric) เอิร์ลแห่งเมอร์เซียและลอร์ดแห่งเมืองโคเวนทรีหนึ่งในเอิร์ล ๓ คนที่มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินอังกฤษลีโอฟริกผู้นี้เก็บภาษีประชาชนอย่างโหดหิน โกไดวาเฝ้าขอร้องสามีให้ลดภาษีแต่เขาไม่เคยยอม กระทั่งวันหนึ่งเพื่อตัดความรำคาญเขาบอกเธอว่าถ้าเธอกล้าเปลือยกายขี่ม้ารอบเมือง เขาจะยอมลดภาษีให้ตามที่ขอ
ทว่าการกระทำดังกล่าวสำหรับผู้หญิงอังกฤษสมัยกลางย่อมถือเป็นเรื่องต่ำช้าอย่างยิ่งแต่ความที่โกไดวามีจิตเมตตาต่อผู้ยากไร้และตระหนักว่านี่คือหนทางเดียวที่เธออาจสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้เพราะแม้เธอมีทรัพย์สินมากมาย ทั้งยังเป็นภรรยาผู้ทรงอิทธิพลแต่เธอไม่มีอำนาจใดในมือแม้แต่น้อย
โกไดวาได้ส่งข่าวการตัดสินใจถึงชาวบ้านเพื่อขอให้พวกเขาร่วมมือด้วยการปิดประตูหน้าต่างหลบอยู่ในที่พักอาศัยขณะเธอขี่ม้าผ่านโดยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ซึ่งแน่นอนว่าชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพื่อตอบแทนสิ่งที่เธอทำให้พวกเขาโกไดวาจึงขี่ม้ารอบเมืองโดยมีเพียงเส้นผมยาวปกปิดร่างเปลือยเปล่าเหลือไว้เพียงช่วงขาห้อยลงจากหลังม้าท่ามกลางความตะลึงงันของผู้เป็นสามีที่คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าในที่สุดเขาต้องแพ้ใจเธอ ยอมยกเลิกภาษีที่ไม่สมเหตุสมผลตามสัญญา โกไดวาจึงไม่เพียงไม่ถูกประณามหากยังกลายเป็นวีรสตรีของชาวเมืองไปในทันที ทุกวันนี้ที่จัตุรัสกลางเมืองโคเวนทรีมีอนุสาวรีย์เลดี้โกไดวาตั้งอยู่อย่างโดดเด่น (ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
http://en.wikipedia.org/wiki/Godiva_Chocolatier และ
http://www.sarakadee.com/2012/02/27/lady-godiva/#sthash.1AGaszds.dpuf )
พล่ามมานานเรามาเริ่มด้วยชิ้นนี้กันดีกว่าค่ะ ^^
สอดไส้รสคาราเมล หวานมาก...กกก ติดฟันอีกต่างหาก
ตามมาด้วยชิ้นนี้
สอดไส้ช็อคโกแลตขาว มีรสเสาวรสอมเปรี้ยว แก้เลี่ยนนิด กำลังพอดีค่ะ
ขอรีวิวแค่นี้ละกันเก็บไว้ให้แม่กับน้องทานมั้ง เดี๋ยวจะอ้วนคนเดียว 555 อ้อ...ลืมบอกไปค่ะว่าสามารถหาซื้อช็อคโกแลตยี่ห้อนี่ได้ที่ "สยามพารากอน" นะค่ะ
[CR] ช็อคโกแลตชื่อดังสัญชาติเบลเยี่ยมยี่ห้อ " Godiva"
ตอนอายุ 14 Joseph Draps ได้เข้าไปในธุรกิจของครอบครัว กว่าปีที่เขาได้พัฒนาทั้งความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ จนเป็นหัวหน้าผู้ผลิตช็อคโกแลต ผลิตเช่นเดียวกับความสามารถทางธุรกิจของเขา เขาตัดสินใจที่จะสร้างชื่อของช็อคโกแลตที่จะให้มันสื่ออารมณ์ เขาเลือกใช้ชื่อ "Godiva" และวางตลาดขายช็อคโกแลต ในรูปแบบกล่องสีทองที่จดจำง่าย (ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.chillpainai.com/) ^^
กล่องสีทองแสนหรู สมยี่ห้อ
" Godiva" นั้นเป็นยี่ห้อช็อคโกแลตชื่อดังสัญชาติเบลเยี่ยม ที่มีสาขาอยู่หลายสาขาทั่วโลก แถมมีประวัติความเป็นมาแสนยาวนานมากค่ะ
ในกล่องนี้มี 14 รสชาติให้ลิ้มลองค่ะ
แอบเปิดป้ายดูก่อนดีกว่าว่ามีรสชาติอะไรบ้าง
ได้เวลาลุ้นๆๆ เพราะกล่องนี้น้องจับฉลากปีใหม่แล้วได้มา 555
ใน 1 กล่องมี 14 ชิ้น 14 รสชาติจริงๆ ด้วย อ๊ะ... หายไปไหนแล้วอ่า
ช่วงที่ไม่อยู่บ้านโดนแม่กะน้องชิมนำไปก่อนแล้ว แงๆ
ชิ้นนี้ทำเหมือนโลโก้หน้ากล่องเลย แต่ว่าเราสงสัยจังว่าทำไมช็อคโกแลตยี่ห้อนี้ถึงได้ทำโลโก้เป็น "รูปหญิงสาวขี่ม้า" มันเกี่ยวอะไรกับ ช็อคโกแลตเนี่ย ขอเล่าประวัติคร่าวหน่อยละกันเนอะ หญิงสาวผู้นี้มีนามว่า " เลดี้ โกไดว่า" (Lady Godiva) เป็นสตรีสูงศักดิ์ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองโคเวนทรี (Coventry) ประเทศอังกฤษมีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. ๙๙๗-๑๐๖๗เธอเป็นภรรยาของลีโอฟริก (Leofric) เอิร์ลแห่งเมอร์เซียและลอร์ดแห่งเมืองโคเวนทรีหนึ่งในเอิร์ล ๓ คนที่มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินอังกฤษลีโอฟริกผู้นี้เก็บภาษีประชาชนอย่างโหดหิน โกไดวาเฝ้าขอร้องสามีให้ลดภาษีแต่เขาไม่เคยยอม กระทั่งวันหนึ่งเพื่อตัดความรำคาญเขาบอกเธอว่าถ้าเธอกล้าเปลือยกายขี่ม้ารอบเมือง เขาจะยอมลดภาษีให้ตามที่ขอ
ทว่าการกระทำดังกล่าวสำหรับผู้หญิงอังกฤษสมัยกลางย่อมถือเป็นเรื่องต่ำช้าอย่างยิ่งแต่ความที่โกไดวามีจิตเมตตาต่อผู้ยากไร้และตระหนักว่านี่คือหนทางเดียวที่เธออาจสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้เพราะแม้เธอมีทรัพย์สินมากมาย ทั้งยังเป็นภรรยาผู้ทรงอิทธิพลแต่เธอไม่มีอำนาจใดในมือแม้แต่น้อย
โกไดวาได้ส่งข่าวการตัดสินใจถึงชาวบ้านเพื่อขอให้พวกเขาร่วมมือด้วยการปิดประตูหน้าต่างหลบอยู่ในที่พักอาศัยขณะเธอขี่ม้าผ่านโดยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ซึ่งแน่นอนว่าชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพื่อตอบแทนสิ่งที่เธอทำให้พวกเขาโกไดวาจึงขี่ม้ารอบเมืองโดยมีเพียงเส้นผมยาวปกปิดร่างเปลือยเปล่าเหลือไว้เพียงช่วงขาห้อยลงจากหลังม้าท่ามกลางความตะลึงงันของผู้เป็นสามีที่คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าในที่สุดเขาต้องแพ้ใจเธอ ยอมยกเลิกภาษีที่ไม่สมเหตุสมผลตามสัญญา โกไดวาจึงไม่เพียงไม่ถูกประณามหากยังกลายเป็นวีรสตรีของชาวเมืองไปในทันที ทุกวันนี้ที่จัตุรัสกลางเมืองโคเวนทรีมีอนุสาวรีย์เลดี้โกไดวาตั้งอยู่อย่างโดดเด่น (ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://en.wikipedia.org/wiki/Godiva_Chocolatier และ http://www.sarakadee.com/2012/02/27/lady-godiva/#sthash.1AGaszds.dpuf )
พล่ามมานานเรามาเริ่มด้วยชิ้นนี้กันดีกว่าค่ะ ^^
สอดไส้รสคาราเมล หวานมาก...กกก ติดฟันอีกต่างหาก
ตามมาด้วยชิ้นนี้
สอดไส้ช็อคโกแลตขาว มีรสเสาวรสอมเปรี้ยว แก้เลี่ยนนิด กำลังพอดีค่ะ
ขอรีวิวแค่นี้ละกันเก็บไว้ให้แม่กับน้องทานมั้ง เดี๋ยวจะอ้วนคนเดียว 555 อ้อ...ลืมบอกไปค่ะว่าสามารถหาซื้อช็อคโกแลตยี่ห้อนี่ได้ที่ "สยามพารากอน" นะค่ะ