เรียมเรียนจบปริญญาโทที่เยอรนีมาค่ะ ตอนเริ่มแรกที่อยากไปเรียนเมืองนอก คิดไว้3 ที่คือ อเมริกา เยอรมนี ออสเตรเลีย ส่วนอังกฤษไม่ได้อยู่ในหัวเลย ถึงแม้จะอยากไปเพราะตอนนั้นค่าเงินปอนด์แข็งโป๊กเลย
พอได้ 3 ตัวเลือก ก็มานั่งเปรียบเทียบ คิดว่าจะเรียนที่ไหนดี วางแผน 1- แผน 2 -แผน 3 เผื่อไม่ได้ที่นี่ก็ไปที่นั่น คือจนค่ะ ไม่ได้มีทางเลือกเยอะแยะอะไรมากมายก็ต้องวางแผนไว้เยอะมากค่ะ แต่โชคดีมาก สมัครที่แรก ที่เดียว ได้เลยได้ทั้งที่เรียน และได้ทุน DAAD เลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เตรียมตัว + ฝึกภาษา + หาความรู้มากกว่า 2 ปี ++ "ลิขิตฟ้า...หรือจะสู้มานะตน"ค่ะ
Blog นี้ก็เลยมาสรุปเหตุผลดีๆที่น่าไปเรียนต่อเยอรมนี 9 ข้อ เผื่อบางคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อที่ไหนดี จะได้มีเหตุผลไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆค่ะ
1.มาตรฐานการศึกษาสูง & มหาวิทยาลัยเยอะ
มาตรฐานการศึกษาของเยอรมนีสูงบวกกับสถาบันการศึกษามากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ มีหลักสูตรการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรี โท เอก เป็นหนึ่งในประเทศในโลกที่องค์ความรู้และวิชาการสายการแพทย์ วิศวะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีต่างๆ เข้มแข็งและ ดีมาก ผลิตภัณฑ์หลายๆอย่าง เช่น เบนซ์ BMW เคมี ยาชนิดต่างๆ ก็มาจากเยอรมนี
2. เรียน (เกือบ) ฟรี
เรียน (เกือบ) ฟรีเพราะที่เยอรมนีเก็บค่าเล่าเรียนต่ำมากจนเกือบเรียกว่าเรียนฟรี มหาวิทยาลัยที่เรียมเรียนจบมา (TU Dresden ) ค่าเล่าเรียนในปี 2014 ประมาณ 240 ยูโร เท่านั้น
จะยกเว้นบางมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรพิเศษ เช่น หลักสูตร International หรือ ในมหาวิทยาลัยเอกชน (Private University) ที่ค่าเล่าเรียนจะสูงมาก
3.คุณภาพสูง
คุณภาพของมหาวิทยาลัยและโปรเฟสเซอร์ รวมทั้งทั้งเจ้าหน้าที่ด้านวิชาการในเยอรมนีมีคุณภาพสูงติดอันดับโลก ทั้งในด้านวิศวกรรมศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ดนตรี เป็นต้น คือถ้าบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยเทคนิค หรือสถาบันการศึกษาเชื่อมั่นได้ว่า เกือบ 99 % มีคุณภาพสูง (เผื่อไว้ 1 %เผื่อเรียมไม่รู้)
จะเห็นได้ว่าจะมีโปรเฟสเซอร์และคนเยอรมันได้รับรางวัลโนเบลในสาขาต่างๆมากมาย และกระจายอยู่ตามมหาวิทยาลัยเล็กบ้างใหญ่บ้าง
4.ค่าครองชีพไม่แพงจนเกินไป
ค่าครองชีพโดยเฉลี่ยประมาณ 500-800 ยูโร รวมค่าเช่า อาหาร การเดินทาง ประกันสุขภาพ โทรศัพท์ อินเตอร์เนต อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น
ถ้าประหยัดๆหน่อย ทำกับข้าวทานเอง กินมาม่าบ้าง ไม่ฟุ่มเฟือย ปาร์ตี้กับทานข้าวนอกบ้านนานๆครั้ง ไม่ช้อปปิ้งสุรุ่ยสุร่าย เดือนหนึง 500 ยูโรก็อยู่สบายๆได้ค่ะ แต่ให้ชีวิตมีสีสันหน่อย เที่ยวบ้าง ปาร์ตี้นิดหน่อย ดื่มหาเพื่อนก็ 800 ยูโร ถ้ามากกว่า 800 ยูโรเนี่ย คือ อาจจะช้อปปิ้งเยอะ กินอยู่สบาย ร้านอาหาร เที่ยวโน้นนี่เยอะ ก็เลือกได้ตามสถานภาพ ฐานะการเงิน ไม่มีถูกไม่มีผิด
5.ทุนเรียนฟรีมีมากมาย
มีโอกาสขอทุนได้มากมาย ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของนักเรียนไทย ก็คือ DAAD(German Academic Exchange Service) เรียมเคยเขียนบทความไว้เยอะอยู่ลองอ่านดูใน Blog ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=functionaltextiles&month=12-2013&date=06&group=41&gblog=3
นอกจากนี้ก็ยังมีทุนอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น Erasmus ทุน Humbolt ทุนของมหาวิทยาลัยเอง ทุนจากองค์กรภาคธุรกิจ มูลนิธิต่างๆในเยอรมนี ซึ่งสามารถสอบถามได้จากบัณฑิตศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ (ในที่นี่พูดเฉพาะทุนที่ได้จากองค์กรของเยอรมนี)
6.หลักสูตรภาษาอังกฤษก็มี
หลายๆมหาวิทยาลัยมีหลักสูตรอินเตอร์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่จำเป็นสอบวัดขั้นระดับภาษาเยอรมันก็ได้ แต่ต้องเช็คค่าธรรมเนียมการเรียนให้ดีๆว่าสูงมากหรือเปล่า บางที่สูงถึง 4,000 -10,000 ยูโรก็มี
7.ทำงานพิเศษได้
นักศึกษาต่างชาติระดับมหาวิทยาลัยที่ได้วีซ่าเรียนอย่างน้อย 1-2 ปี ในเยอรมัน สามารถทำงานได้ โดยทำงานทั้งปีรวมแล้วไม่เกิน 90 วันหรือ 180 วัน (ครึ่งวัน) ต่อปี ค่าแรงมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน และผู้ว่าจ้าง ตั้งแต่ 6-15 ยูโร ซึ่งสามารถนำมาช่วยค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนได้บ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ (อ่านเรื่องทำงานพิเศษในเยอรมนี http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=functionaltextiles&month=12-2013&date=09&group=43&gblog=2)
8.ขอวีซ่าหางานหลังจบได้
นักศึกษาต่างชาติสามารถขอวีซ่าต่ออีก 1 ปีหลังการศึกษาเพื่อหางานในเยอรมนีได้ (แต่ไม่แน่เสมอไปว่า คุณจะได้วีซ่านะคะ เห็นเพื่อนบางคนก็ขอผ่าน บางคนก็ไม่ผ่าน)แต่ในปัจจุบันจากพิษเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่คนเยอรมันเองก็ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย อัตราการว่างงานในเยอรมนีก็ไม่ได้ต่ำสักเท่าไร ดังนั้น โอกาสได้งานจากนายจ้างที่เยอรมนีก็ยากมากเช่นกัน ยกเว้นว่า คุณมีความสามารถสูงจริงๆ หรือมีทักษะพิเศษที่ต้องใช้คนต่างชาติ เป็นต้น
9. ศิลปะวัฒนธรรมโดดเด่น
ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี ธรรมเนียม Lifestyle/ เบียร์ /ไวน์ เยอะแยะมากมาย มีให้เราไปศึกษา นอกจากนี้ ยังเดินทางไปเที่ยวได้หลายประเทศ เพราะเยอรมนีตั้งอยู่กึ่งกลางของยุโรป ซึ่งตอนนี้ใช้วีซ่าเชงเก้นร่วมกัน ค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่มีบัตรนักเรียน-นักศึกษา เนี่ยจะบอกว่าถูกมาก ทั้งการพัก Youth hotel และค่าตั๋วรถไฟต่างๆก็จะมีส่วนลด
สำหรับความปลอดภัยก็เยี่ยมยอด เรียมฉายเดี่ยว...เที่ยวคนเดียวเป็นสิบๆเมืองยังปลอดภัย (คือมันบ่งบอกอะไรหรือเปล่า !!!
)
ข้อดีอื่นๆเช่น คนเยอรมันน่ารัก
หรือแม้แต่คนไปเรียนส่วนใหญ่จะหน้าตาดี 555
(ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)
หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจการศึกษาต่อในระดับสูงให้กับใครหลายๆคนได้นะคะ แต่ทุกอย่างต้องดูจากตัวเราเป็นหลัก เช่น บางคนมีญาติอยู่อเมริกา ก็น่าจะไปอเมริกา ประหยัดอะไรได้หลายอย่าง บางคนหลงรักการ์ตูนญี่ปุ่น เกมญี่ปุ่น AV ฝันเล็กๆ ทำให้เป็นจริงก็ไปเรียนญี่ปุ่นซะ......
ส่วนตัวเรียม...ตอนนั้นที่จะไปไม่ได้คิดถึง 9 ข้อหรอกค่ะ คิดแค่ข้อ 1,ข้อ 5 และข้อ 9 (3 ข้อเองค่ะ) 5555
นานจะออกมาเขียนที่พันทิบซะที ส่วนใหญ่เขียนแต่ใน Blog ค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ
**************************************************************************
มาดูอีกทีเป็นกระทู้แนะนำ - ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และการโหวตนะคะ
เดี๋ยวจะหาข้อมูลมานำเสนอต่อเพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่อยากเรียนต่อป.โทที่เยอรมนีนะคะ
ขอบคุณที่มาอ่านและเมนท์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
http://www.studying-in-germany.org/
www.daad.de
https://www.study-in.de
และประสบการณ์ตัวเองและคนใกล้ตัวค่ะ..
9 เหตุผลดีๆที่น่าไปเรียนต่อเยอรมนี
พอได้ 3 ตัวเลือก ก็มานั่งเปรียบเทียบ คิดว่าจะเรียนที่ไหนดี วางแผน 1- แผน 2 -แผน 3 เผื่อไม่ได้ที่นี่ก็ไปที่นั่น คือจนค่ะ ไม่ได้มีทางเลือกเยอะแยะอะไรมากมายก็ต้องวางแผนไว้เยอะมากค่ะ แต่โชคดีมาก สมัครที่แรก ที่เดียว ได้เลยได้ทั้งที่เรียน และได้ทุน DAAD เลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เตรียมตัว + ฝึกภาษา + หาความรู้มากกว่า 2 ปี ++ "ลิขิตฟ้า...หรือจะสู้มานะตน"ค่ะ
Blog นี้ก็เลยมาสรุปเหตุผลดีๆที่น่าไปเรียนต่อเยอรมนี 9 ข้อ เผื่อบางคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อที่ไหนดี จะได้มีเหตุผลไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆค่ะ
มาตรฐานการศึกษาของเยอรมนีสูงบวกกับสถาบันการศึกษามากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ มีหลักสูตรการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรี โท เอก เป็นหนึ่งในประเทศในโลกที่องค์ความรู้และวิชาการสายการแพทย์ วิศวะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีต่างๆ เข้มแข็งและ ดีมาก ผลิตภัณฑ์หลายๆอย่าง เช่น เบนซ์ BMW เคมี ยาชนิดต่างๆ ก็มาจากเยอรมนี
เรียน (เกือบ) ฟรีเพราะที่เยอรมนีเก็บค่าเล่าเรียนต่ำมากจนเกือบเรียกว่าเรียนฟรี มหาวิทยาลัยที่เรียมเรียนจบมา (TU Dresden ) ค่าเล่าเรียนในปี 2014 ประมาณ 240 ยูโร เท่านั้น
จะยกเว้นบางมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรพิเศษ เช่น หลักสูตร International หรือ ในมหาวิทยาลัยเอกชน (Private University) ที่ค่าเล่าเรียนจะสูงมาก
คุณภาพของมหาวิทยาลัยและโปรเฟสเซอร์ รวมทั้งทั้งเจ้าหน้าที่ด้านวิชาการในเยอรมนีมีคุณภาพสูงติดอันดับโลก ทั้งในด้านวิศวกรรมศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ดนตรี เป็นต้น คือถ้าบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยเทคนิค หรือสถาบันการศึกษาเชื่อมั่นได้ว่า เกือบ 99 % มีคุณภาพสูง (เผื่อไว้ 1 %เผื่อเรียมไม่รู้)
จะเห็นได้ว่าจะมีโปรเฟสเซอร์และคนเยอรมันได้รับรางวัลโนเบลในสาขาต่างๆมากมาย และกระจายอยู่ตามมหาวิทยาลัยเล็กบ้างใหญ่บ้าง
ค่าครองชีพโดยเฉลี่ยประมาณ 500-800 ยูโร รวมค่าเช่า อาหาร การเดินทาง ประกันสุขภาพ โทรศัพท์ อินเตอร์เนต อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น
ถ้าประหยัดๆหน่อย ทำกับข้าวทานเอง กินมาม่าบ้าง ไม่ฟุ่มเฟือย ปาร์ตี้กับทานข้าวนอกบ้านนานๆครั้ง ไม่ช้อปปิ้งสุรุ่ยสุร่าย เดือนหนึง 500 ยูโรก็อยู่สบายๆได้ค่ะ แต่ให้ชีวิตมีสีสันหน่อย เที่ยวบ้าง ปาร์ตี้นิดหน่อย ดื่มหาเพื่อนก็ 800 ยูโร ถ้ามากกว่า 800 ยูโรเนี่ย คือ อาจจะช้อปปิ้งเยอะ กินอยู่สบาย ร้านอาหาร เที่ยวโน้นนี่เยอะ ก็เลือกได้ตามสถานภาพ ฐานะการเงิน ไม่มีถูกไม่มีผิด
มีโอกาสขอทุนได้มากมาย ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของนักเรียนไทย ก็คือ DAAD(German Academic Exchange Service) เรียมเคยเขียนบทความไว้เยอะอยู่ลองอ่านดูใน Blog ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกจากนี้ก็ยังมีทุนอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น Erasmus ทุน Humbolt ทุนของมหาวิทยาลัยเอง ทุนจากองค์กรภาคธุรกิจ มูลนิธิต่างๆในเยอรมนี ซึ่งสามารถสอบถามได้จากบัณฑิตศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ (ในที่นี่พูดเฉพาะทุนที่ได้จากองค์กรของเยอรมนี)
หลายๆมหาวิทยาลัยมีหลักสูตรอินเตอร์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่จำเป็นสอบวัดขั้นระดับภาษาเยอรมันก็ได้ แต่ต้องเช็คค่าธรรมเนียมการเรียนให้ดีๆว่าสูงมากหรือเปล่า บางที่สูงถึง 4,000 -10,000 ยูโรก็มี
นักศึกษาต่างชาติระดับมหาวิทยาลัยที่ได้วีซ่าเรียนอย่างน้อย 1-2 ปี ในเยอรมัน สามารถทำงานได้ โดยทำงานทั้งปีรวมแล้วไม่เกิน 90 วันหรือ 180 วัน (ครึ่งวัน) ต่อปี ค่าแรงมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน และผู้ว่าจ้าง ตั้งแต่ 6-15 ยูโร ซึ่งสามารถนำมาช่วยค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนได้บ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นักศึกษาต่างชาติสามารถขอวีซ่าต่ออีก 1 ปีหลังการศึกษาเพื่อหางานในเยอรมนีได้ (แต่ไม่แน่เสมอไปว่า คุณจะได้วีซ่านะคะ เห็นเพื่อนบางคนก็ขอผ่าน บางคนก็ไม่ผ่าน)แต่ในปัจจุบันจากพิษเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่คนเยอรมันเองก็ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย อัตราการว่างงานในเยอรมนีก็ไม่ได้ต่ำสักเท่าไร ดังนั้น โอกาสได้งานจากนายจ้างที่เยอรมนีก็ยากมากเช่นกัน ยกเว้นว่า คุณมีความสามารถสูงจริงๆ หรือมีทักษะพิเศษที่ต้องใช้คนต่างชาติ เป็นต้น
ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี ธรรมเนียม Lifestyle/ เบียร์ /ไวน์ เยอะแยะมากมาย มีให้เราไปศึกษา นอกจากนี้ ยังเดินทางไปเที่ยวได้หลายประเทศ เพราะเยอรมนีตั้งอยู่กึ่งกลางของยุโรป ซึ่งตอนนี้ใช้วีซ่าเชงเก้นร่วมกัน ค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่มีบัตรนักเรียน-นักศึกษา เนี่ยจะบอกว่าถูกมาก ทั้งการพัก Youth hotel และค่าตั๋วรถไฟต่างๆก็จะมีส่วนลด
สำหรับความปลอดภัยก็เยี่ยมยอด เรียมฉายเดี่ยว...เที่ยวคนเดียวเป็นสิบๆเมืองยังปลอดภัย (คือมันบ่งบอกอะไรหรือเปล่า !!!
ข้อดีอื่นๆเช่น คนเยอรมันน่ารัก
หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจการศึกษาต่อในระดับสูงให้กับใครหลายๆคนได้นะคะ แต่ทุกอย่างต้องดูจากตัวเราเป็นหลัก เช่น บางคนมีญาติอยู่อเมริกา ก็น่าจะไปอเมริกา ประหยัดอะไรได้หลายอย่าง บางคนหลงรักการ์ตูนญี่ปุ่น เกมญี่ปุ่น AV ฝันเล็กๆ ทำให้เป็นจริงก็ไปเรียนญี่ปุ่นซะ......
ส่วนตัวเรียม...ตอนนั้นที่จะไปไม่ได้คิดถึง 9 ข้อหรอกค่ะ คิดแค่ข้อ 1,ข้อ 5 และข้อ 9 (3 ข้อเองค่ะ) 5555
นานจะออกมาเขียนที่พันทิบซะที ส่วนใหญ่เขียนแต่ใน Blog ค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ
**************************************************************************
มาดูอีกทีเป็นกระทู้แนะนำ - ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และการโหวตนะคะ
เดี๋ยวจะหาข้อมูลมานำเสนอต่อเพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่อยากเรียนต่อป.โทที่เยอรมนีนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้