ถูกตามรังควาญค่ะ เนื่องจากสมัยก่อนอาจจะไปโพสอะไรตอนช่วงขัดแย้งทางการเมืองแต่ขอสาบานว่าไม่ได้เป็นเรื่องหมิ่นสถาบัน ล้มเจ้าค่ะ
เริ่มแรกจากการเข้ามาตีสนิททางโซเชียลมีเดีย ตอนแรกทำเป็นเพื่อนที่ดีคอยแนะนำ ทำให้เราช่วงนั้นที่รู้สึกอ่อนแอรู้สึกปลื้ม หลังจากนั้นก็ทะเลาะกัน เพราะเหมือนเขาก็มีพรรคพวกเขาอยู่ เขารู้ความเคลื่อนไหวเราทุกอย่าง ทำอะไรก็ผิด ถูกวิจารณ์เสียหายจนสูญเสียความเป็นตัวเอง ถูก bully เหมือนในข่าวที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนผู้หญิง จนเขาต้องฆ่าตัวตาย
คือตอนแรกเข้ามาในลักษณะบอกว่า ตัวเองมีตาทิพย์ อ่านวาระจิตคนอื่นได้ ซึ่งดิฉันที่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วก็เชื่อค่ะ แต่หลังๆเพื่อนฉัน คนรู้จักก็เตือนว่า ไม่ใช่หรอกใช้หลักวิทยาศาสตร์ วิชาจิตวิทยา เครื่องมือดักฟัง ดักติดตามมากกว่า
ตอนนี้คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการเมือง เพราะ 3 ปีแล้วเขาไม่เลิกราง่ายๆ อีกอย่างมีผู้หญิงคนหนึ่งก็มาแชร์ประสบการณ์โดนในลักษณะนี้และที่สำคัญเขาก็โพสการเมืองในเฟซเขาด้วย เขามาเล่าในเพจสาธารณะว่าเขาโดนดักฟังโทรศัพท์ ใส่ร้ายใส่ความ โดนไถเงิน
ส่วนของเราเป็นใส่ร้ายใส่ความลามไปถึงขู่ฆ่า บอกว่าตอนนี้ภาพและเสียงกิจกรรมในชีวิตของเราเผยแพร่คนรู้ไปทั่วแล้วนะ แต่แปลกที่เราถามใครๆเที่เรารู้จักเขาไม่รู้ค่ะ หรือเขาไม่ได้ติดตามช่องทางการเผยแพร่นั้น หรือเขาใช้จิตวิทยาสูงมาก ทำให้เรารู้สึกประสาทเสีย ออ แล้วก็รวมเรื่องลามก กิจกรรมในห้องน้ำอะไรด้วย
เอาเป็นว่าเขาก็ใช้ความรู้สึกแอบปลื้มตอนเริ่มแรกมาเบี่ยงประเด็นหมดเลย พอเราปรี๊ดแตก ทนไม่ไหว บอกพวกเขาอย่าทำกับเราแบบนี้อีก เขาก็หาว่าเราแก้แค้น ทำไปเพราะผู้ชายไม่รัก หวงผู้ชาย หึงผู้ชาย ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะค่ะ ขนาดรักแรกของเรา เราก็ไม่ทำเขาขนาดนั้น แต่เป็นการเบี่ยงประเด็นปกปิดเบื้องหลังทางการเมืองมากกว่า
ผู้หญิงที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบอกว่าลูกน้องเขาหรือเรียกว่า บริวารเขาทำงานให้นักการเมืองท่านหนึ่ง (แต่เรื่องนี้ไม่คอนเฟิร์มนะคะ เพียงแต่ว่า เออ เขาเจอในลักษณะดิฉันเท่านั้นเอง และที่แปลก ผู้หญิงคนนี้และดิฉันได้โพสการเมืองในทางเป็นปฏิปักษ์กับนักการเมืองคนนั้นนั่นเอง)
ถูกตามรังควาญเพราะการเมือง
เริ่มแรกจากการเข้ามาตีสนิททางโซเชียลมีเดีย ตอนแรกทำเป็นเพื่อนที่ดีคอยแนะนำ ทำให้เราช่วงนั้นที่รู้สึกอ่อนแอรู้สึกปลื้ม หลังจากนั้นก็ทะเลาะกัน เพราะเหมือนเขาก็มีพรรคพวกเขาอยู่ เขารู้ความเคลื่อนไหวเราทุกอย่าง ทำอะไรก็ผิด ถูกวิจารณ์เสียหายจนสูญเสียความเป็นตัวเอง ถูก bully เหมือนในข่าวที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนผู้หญิง จนเขาต้องฆ่าตัวตาย
คือตอนแรกเข้ามาในลักษณะบอกว่า ตัวเองมีตาทิพย์ อ่านวาระจิตคนอื่นได้ ซึ่งดิฉันที่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วก็เชื่อค่ะ แต่หลังๆเพื่อนฉัน คนรู้จักก็เตือนว่า ไม่ใช่หรอกใช้หลักวิทยาศาสตร์ วิชาจิตวิทยา เครื่องมือดักฟัง ดักติดตามมากกว่า
ตอนนี้คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการเมือง เพราะ 3 ปีแล้วเขาไม่เลิกราง่ายๆ อีกอย่างมีผู้หญิงคนหนึ่งก็มาแชร์ประสบการณ์โดนในลักษณะนี้และที่สำคัญเขาก็โพสการเมืองในเฟซเขาด้วย เขามาเล่าในเพจสาธารณะว่าเขาโดนดักฟังโทรศัพท์ ใส่ร้ายใส่ความ โดนไถเงิน
ส่วนของเราเป็นใส่ร้ายใส่ความลามไปถึงขู่ฆ่า บอกว่าตอนนี้ภาพและเสียงกิจกรรมในชีวิตของเราเผยแพร่คนรู้ไปทั่วแล้วนะ แต่แปลกที่เราถามใครๆเที่เรารู้จักเขาไม่รู้ค่ะ หรือเขาไม่ได้ติดตามช่องทางการเผยแพร่นั้น หรือเขาใช้จิตวิทยาสูงมาก ทำให้เรารู้สึกประสาทเสีย ออ แล้วก็รวมเรื่องลามก กิจกรรมในห้องน้ำอะไรด้วย
เอาเป็นว่าเขาก็ใช้ความรู้สึกแอบปลื้มตอนเริ่มแรกมาเบี่ยงประเด็นหมดเลย พอเราปรี๊ดแตก ทนไม่ไหว บอกพวกเขาอย่าทำกับเราแบบนี้อีก เขาก็หาว่าเราแก้แค้น ทำไปเพราะผู้ชายไม่รัก หวงผู้ชาย หึงผู้ชาย ซึ่งมันไม่ใช่อ่ะค่ะ ขนาดรักแรกของเรา เราก็ไม่ทำเขาขนาดนั้น แต่เป็นการเบี่ยงประเด็นปกปิดเบื้องหลังทางการเมืองมากกว่า
ผู้หญิงที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบอกว่าลูกน้องเขาหรือเรียกว่า บริวารเขาทำงานให้นักการเมืองท่านหนึ่ง (แต่เรื่องนี้ไม่คอนเฟิร์มนะคะ เพียงแต่ว่า เออ เขาเจอในลักษณะดิฉันเท่านั้นเอง และที่แปลก ผู้หญิงคนนี้และดิฉันได้โพสการเมืองในทางเป็นปฏิปักษ์กับนักการเมืองคนนั้นนั่นเอง)