ย้อนไปสมัยก่อน มีอยู่หลายช่วงสมัยที่รัฐสภาจัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรรัฐสภากันบ่อยๆ บรรยากาศการเมืองแม้ว่าในสภาจะเดือดเพียงใด
แต่เมื่อประชาชนอย่างเราๆเห็นภาพการเตะฟุตบอลกันระหว่างคู่ปรับตลอดกาล ยิ่งกว่าศึกแดงเดือดเสียอีกนั้นก็คือฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล มันเป็นภาพที่
ผมอดอมยิ้มปนฮาไม่ได้เพราะกีฬามันทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดลดลงเห็นบรรดา สส. พุงพุ้ยวิ่งล้มลุกคลุกคลาน รัฐมนตรีวิ่งเบียดกันหัวหน้าฝ่ายค้าน
หรือแม้แต่บางคนที่ชี้หน้าด่ากันไฟแล่บในสภา ก็ยังจับมือดึงแขนกันได้เว้ยเฮ้ย เพราะในสนามมันมีพลังวิเศษบางอย่างเรียกว่า น้ำใจนักกีฬาซึ่งมาพร้อม
กับกติกาที่เคารพร่วมกัน ซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้ถ้าคุณไม่เล่นกีฬา คุณก็จะไม่รู้จักสิ่งนี้แต่ตอนนี้มันเลยเถิดกันไปไกลมากแล้ว บางทีผมอยากให้ทุกพรรค
สส. ทุกคน จัดงานกีฬาสีประจำปีรัฐสภาบ้าง องค์กรใหญ่ๆเค้าใช้สิ่งนี้แหละในการสร้างความสามัคคี ลดความรุนแรงและบรรยากาศของการเมืองได้ดีมาก
ดังเพลงที่พวกเราเคยร้องกันตั้งแต่เด็ก " กีฬากีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน
ถ้ามีน้ำใจนักกีฬากันมากกว่านี้ ประเทศไทยคงไม่เป็นเช่นนี้
แต่เมื่อประชาชนอย่างเราๆเห็นภาพการเตะฟุตบอลกันระหว่างคู่ปรับตลอดกาล ยิ่งกว่าศึกแดงเดือดเสียอีกนั้นก็คือฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล มันเป็นภาพที่
ผมอดอมยิ้มปนฮาไม่ได้เพราะกีฬามันทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดลดลงเห็นบรรดา สส. พุงพุ้ยวิ่งล้มลุกคลุกคลาน รัฐมนตรีวิ่งเบียดกันหัวหน้าฝ่ายค้าน
หรือแม้แต่บางคนที่ชี้หน้าด่ากันไฟแล่บในสภา ก็ยังจับมือดึงแขนกันได้เว้ยเฮ้ย เพราะในสนามมันมีพลังวิเศษบางอย่างเรียกว่า น้ำใจนักกีฬาซึ่งมาพร้อม
กับกติกาที่เคารพร่วมกัน ซึ่งหาจากที่ไหนไม่ได้ถ้าคุณไม่เล่นกีฬา คุณก็จะไม่รู้จักสิ่งนี้แต่ตอนนี้มันเลยเถิดกันไปไกลมากแล้ว บางทีผมอยากให้ทุกพรรค
สส. ทุกคน จัดงานกีฬาสีประจำปีรัฐสภาบ้าง องค์กรใหญ่ๆเค้าใช้สิ่งนี้แหละในการสร้างความสามัคคี ลดความรุนแรงและบรรยากาศของการเมืองได้ดีมาก
ดังเพลงที่พวกเราเคยร้องกันตั้งแต่เด็ก " กีฬากีฬา เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน