ภาคต่อจากกระทู้ที่แล้วนะคะ ภาคนี้ท้ายๆมีข้อความฝากถึงแฟนละครทั่วไปด้วยค่ะ ถ้าไม่รังเกียจรบกวนรับฟังด้วยนะคะ
http://ppantip.com/topic/31755139
สืบเนื่องจากระทู้ที่แล้วค่อนข้างได้กระแสตอบรับดี (แอบปลื้ม มีคนคิดแบบหนูด้วย TT^TT) จึงทำให้กระทู้นี้คลอดตามมาหลังจากที่ต้องเสียเวลากับการดูละครคิวบิกออนไลน์แบบกระตุกทุก 2 นาที (เน็ตป่วย) ถึงกับต้องไปดูแบบย้อนหลังซ้ำอีกรอบให้แน่ใจอีกที เพราะเราถือคติว่า
การจะวิจารณ์อะไรเราควรมีข้อมูลเกี่ยวกับมันพอสมควรเสียก่อน
เข้าเรื่องๆ... ละครวันนี้ทำได้ดีกว่าวันแรกพอสมควรเลยค่ะ (ดูแล้วไมเกรนไม่ขึ้น) อาจจะเพราะพอทำใจได้บ้างว่ามันคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ ไม่ก็วันที่สองนี้มีโครงเรื่องจากในหนังสือมากขึ้นก็เป็นได้ ถ้าในฐานะผู้ชมทั่วไปที่ไม่เคยอ่านนิยายก็เป็นละครเรื่องหนึ่งที่สามารถดูได้เพลินๆสนุกๆฮาๆ ถ้าในสายตานักอ่านนั้นถามว่าผ่านไหม ให้ตายยังไงมันก็ผ่านไม่ได้ ใจความสำคัญของคิวบิกที่พี่แบงค์พยายามจะสื่อมันบิดเบี้ยวไปหมดเลย แต่วันนี้ดูๆไปก็ขำนะคะ ไม่ใช่ขำเพราะมุก(ที่พยายาม)ตลกด้วย แต่เป็นความไม่สมเหตุสมผลของเหตุการณ์ค่ะ
เริ่มจากสิ่งที่ทำให้ละครเรื่องคิวบิกเพี้ยนที่สุดเลยก็คือ...
บทโทรทัศน์ ค่ะ
อยากฝากถามไปถึงยูม่า99 ทีมงานหลักๆทุกคนโดยเฉพาะผู้เขียนบทนะคะว่าก่อนจะหยิบเอานิยายเรื่องคิวบิกมาทำละครเนี่ย ได้อ่านและทำความเข้าใจกับมันบ้างหรือเปล่า หรือถ้าทำแล้วคิดว่าตัวเองตีความมันออกมาได้ดีแค่ไหนกัน เราชอบและเห็นด้วยกับ
ความคิดเห็นที่ 112 จากกระทู้ที่แล้วนะคะ มันคือสิ่งที่เราคิดว่าพี่แบงค์ต้องการจะสื่อผ่านคิวบิก เป็นสิ่งที่ทำให้แฟนๆนิยายคิวบิกหลายๆคนชื่นชอบคิวบิก
ใจความสำคัญมันอยู่ที่
คิวบิก คืออะไร?
คิวบิก คือ เงา / เงา คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เป็นมันสมองคอยช่วยเหลือฉายหงกรุ๊ป / เงาของหลานเซ่อ คือ นาค /
นาค คือ คิวบิก
จากชื่อเรื่องก็เห็นได้ชัดแล้วว่าตัวละครสำคัญที่ทำให้คิวบิกเป็นคิวบิก คือ นาค ดังนั้นการตีความคาแรกเตอร์ของนาคใหม่ให้กลายเป็นตัวละครเด็ก ง้องแง้ง ขี้โวยวาย ดูแล้วปัญญาอ่อน จากต้นฉบับที่คาแรกเตอร์เธอเป็นผู้เป็นคนมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูน่าไว้วางใจพอที่จะให้ทำงานอะไรได้ ถึงนิสัยเธอจะแปลกๆไปบางแต่คนก็อ่านหมั่นไส้ไม่ลงจริงๆ แต่ในละครนาคทำตัวน่ารำคาญมาก หากนาคในนิยายคือ คนฉลาดแสร้งโง่ นาคภาคละคร ก็คือคนโง่อวดฉลาดค่ะ แม้ว่าในวันที่สองนี้จะมีฉากใช้สมองของนาคบ้างแล้วแต่บทและการแสดงของนักแสดงยังไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ค่ะว่านาคฉลาดและเป็นคนพิเศษจริงๆเหมือนแค่ให้คนอื่นมาพูดมาบอกให้คิดเฉยๆว่าฤทัยนาคเธอพิเศษนะ โดยเฉพาะตอนเจรจากับคาลอส โอเวอร์แอคติ้งขนาดนั้นดูไม่น่าเชื่อถือและดูไม่ฉลาดเลยกับการเลือกทำตัวงุ้งงิ้งตอนเจรจาเรื่องคอขาดบาดตาย คิดถึงความเป็นจริงไปเจรจาธุรกิจทำตัวง้องแง้งแบบนี้คุณจะยอมร่วมมือด้วยเหรอคะ (เอาฉากเจรจาฟินๆของหนูคืนมานะ ทั้งๆที่บทพูดก็คือๆกับในนิยายแท้ๆทำไมมันคนละอารมณ์เลย T^T) แถมยังอุตส่าห์ใส่ซาวด์คอมมาดี้ลงไปอีก นับถือยูม่าจริงๆ เหอะๆ
เข้าใจค่ะว่า
บทละครต้องมีปรับบางเพื่อความสมจริงกว่าในนิยาย จะปรับ/เพิ่ม/ลดบทยังไงก็ว่าไปเถอะ แต่
เปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวละครหลักนี่รับไม่ได้จริงๆค่ะ ขนาดคาลอสยังเปลี่ยนจากพวกแอนตี้มาเฟียเงินหนักแค่ไหนแค่เป็นมาเฟียฉันก็ไม่สน มาเป็นถ้าเพื่อเงินก็ได้ทั้งนั้น[อ้างอิงจากคำพูดที่จงซินคุยกับท่านหลิน] ไหนจะพ่อหนุ่มน้อยแดนนี่อีกกลายเป็นนักร้องเกาหลีไปแล้วป่ะมีเต้นด้วย 55+ นี่มันจะไม่เหลือตัวละครออริจินัลให้เราเลยใช่ไหม?!
จริงๆถ้าจะให้พูดถึงความสมจริงแล้ว จากละครคิวบิกวันที่สองนี้เราดูแล้วขำมากอ่ะ ตลกกับตรรกะที่แสนจะสมจริงของละครมาก เริ่มจากที่ซานกุ้ยบอกกับหย่งเหวินประมาณว่า "ความนอบน้อมถ่อมตนจะทำให้นายประสบความสำเร็จ" เอ่อ... นี่มันวงการมาเฟียนะคะ แน่ใจนะว่านุ่มนิ่มแบบนั้นจะรอดน่ะ คนที่
"อะไรที่คุณพ่อว่าดีผมก็เห็นด้วยทั้งนั้นครับ" ไม่น่าจะติดโผที่มาเฟียแก่เจนสังเวียนอย่างซานกุ้ยจะยกตำแหน่งผู้นำให้นะ (ในกรณีที่เขี่ยท่านหลินลงไปได้น่ะนะ)
ต่อมาก็ตำรวจสากลผู้เปี่ยมไปด้วยพลัง แพททริก บัตตัน... เอิ่ม... วันนี้นายทำตัวอันธพาลเสียจนมาเฟียในละครคิวบิกคนอื่นสมควรอายเลยนะ 55+ ตำรวจสากลเป็นงี้เนี่ยนะ(ไม่โดนสอบวินัยบ้างเหรอคะ) เหอะๆ ตัวละครมุทะลุแบบนี้อันที่จริงไม่น่าจะทำให้คาลอสกลัวได้เลย
ไหนจะฉากในโรงเรียน ท่านหลินเดินไปโรงอาหารในโรงเรียนของตัวเองแท้ๆแต่ก็ต้องมีลูกน้องตามไปเป็นฝูง? ไปหิ้วปีกนักเรียนกลางห้องเรียน? แน่ใจนะว่ามันเข้ากับที่แดนนี่บอกว่า "ฉากหน้าเป็นนักธุรกิจไฟแรง แต่เบื้องหลังเป็นมาเฟีย" แบบนี้มันออกจะโจ่งแจ้งนะว่าผมคือมาเฟียนะครับ! นักเรียนทั่วไปไม่คิดว่ามันประหลาดก็บ้าแล้ว
มีอะไรหลายๆอย่างที่ไม่สมควรตัดดันตัด อะไรที่ไม่สมควรเพิ่มก็ดันเพิ่มดีจัง
ฉากการเริ่มต้นเป็นเพื่อนกันของนาคกับแดนนี่ก็ดูไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ถึงนาคจะเป็นนาคแบบในละครแต่ต้องอย่าลืมว่าพื้นฐานของแดนนี่คือลูกนักค้าอาวุธข้ามชาติที่เข้ามาดูลาดเลาช่วยงานของพ่อ คนแบบนี้จะไม่มีกำแพงจิตใจคัดกรองคนที่ตนจะเอาตัวไปสนิทด้วยเลยเหรอคะ
ยิ่งฉากที่จงซินชักจูงให้ท่านหลินลองใช้งานนาค กับประโยคที่ว่า
"บางทีคุณหลินอาจคาดไม่ถึงว่าฤทัยนาคเธอพิเศษ" อย่าว่าแต่ท่านหลินเลย จากที่ดูฤทัยนาคฉบับละครมาเรายังหาความพิเศษของนาคที่แตกต่างจากนางเอกนิยายรักใสๆทั่วไปไม่เจอเลย (ยิ่งความที่ชอบโวยวายน่ารำคาญนั่นเจอท่านหลินตัวจริงฉบับนิยายไม่โดนยิงทิ้งแต่แรกก็แปลกแล้ว) และคำพูดต่างๆที่จงซินโน้มน้าวต่อเรื่องการที่นาคเคยเจรจาธุรกิจให้พ่อ มันไร้น้ำหนักมากอ่ะถ้าเทียบจากในนิยาย เพราะในละครจงซินพูดแค่
1 2 ล้มเหลว แต่ 3 ประสบความสำเร็จได้ผลประโยชน์ร้อยล้าน แค่นั้น และดูจะเน้นที่
ผลประโยชน์ร้อยล้านมากเป็นพิเศษเหมือนจะดูแค่ที่ผลลัพธ์ แต่ในนิยายนั้น 1 ไม่สำเร็จเพราะไม่มีข้อมูลอะไรเลยจู่ๆก็โดนพ่อโยนไปจับงานเฉย 2 คู่ค้าไปเลือกคู่แข่งก่อนที่จะได้เจรจา
3 นาคทำให้คู่ค้า 1 ที่เคยปฎิเสธเธอยอมตกลงในข้อเสนอเดิมได้ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้จงซินและท่านหลินสนใจว่านาค
ใช้วิธีแบบไหนถึงทำให้ได้ผลลัพธ์นั่นมา และอยากให้นาคใช้วิธีนั้นในการเจรจากับคาลอส ในฉากนี้อีกสิ่งที่บทละครพลาดก็คือการเปลี่ยนให้นาคเป็นผู้เจรจากับคาลอสตั้งแต่ครั้งแรก (ในนิยายท่านหลินเคยส่งคนไปเจรจาก่อนแล้วแต่ล้มเหลว) นั่นทำให้คาลอสในละครไม่มีข้อมูลเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้จากการร่วมทุนกับฉายหงแบบที่คาลอสในนิยายมีอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น สำหรับเราถ้าเราเป็นคาลอสต่อให้จะมีคนมาอาสาขนอาวุธที่กำลังเป็นปัญหาร้อนที่สุดของเราให้ ก็ไม่น่าจะยอมเซ็นสัญญาร่วมทุนที่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเสียอะไรง่ายๆแน่ๆ (เป็นคห.ส่วนตัว หลายๆท่านอาจคิดต่างก็ไม่ว่ากัน)
ส่วนเรื่องรายละเอียดข้อผิดพลาดปลีกย่อยอื่นๆก็มีคนอื่นได้ตั้งกระทู้ติติงกันไปบ้างแล้ว ฉะนั้นวันนี้เราขอจวกแค่เรื่องบทอย่างเดียว เพราะมันเป็นอะไรที่โคม่ามากที่สุด หากจะเปลี่ยนกันซะขนาดนี้ขอเถอะค่ะ... อย่าใช้ชื่อละครว่าคิวบิกเลย ถ้าใช้ชื่ออื่นจะไม่ว่าซักคำ(แต่ก็อาจจะมีบ่นว่าก็อบเขามาฤเปล่านะ 55+)
สุดท้ายนี้...
สำหรับแฟนละคร แฟนนักแสดงละครคิวบิกหรือคนทั่วไปที่ไม่เคยอ่านนิยายคิวบิกนะคะ ละครเรื่องคิวบิกถ้าไม่มีพื้นเรื่องนิยายมาถือว่าเป็นละครที่ดูได้เพลิดเพลิน รื่นเริง สนุกสนาน สำราญใจกันพอสมควรเลยทีเดียว มันก็สนุกไปอีกแบบประสาละครรักกุ๊กกิ๊กปนบู๊หน่อยๆตามกระแสในท้องตลาดทั่วไปล่ะนะ แต่สิ่งที่เราอยากจะขอก็คือหากมีโอกาส(หลังละครจบไปแล้วก็ได้) อยากให้ลองอ่านต้นฉบับในนิยายดูนะคะว่าสิ่งที่ละครคิวบิกควรจะได้เป็น ความพิเศษที่ละครคิวบิกควรจะได้มี ที่ทำให้แฟนๆหนังสือออกมาวิจารณ์ทีมงานยูม่าและนักแสดงกันนั้นมันเป็นเพราะอะไร สำหรับเราเรายินดีที่นิยายที่เราชอบจะได้ออกมาโลดแล่นมีชีวิต แต่ผู้สร้างชีวิตนั้นก็ควรจะต้องเคารพบทประพันธ์ต้นฉบับด้วย ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากการยืมชื่อเสียงและฉากหน้าของบทประพันธ์นั้นมาหุ้มแต่เนื้อในมันไม่ใช่ เราคิดว่าออกจะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคด้วยซ้ำเหมือนไปซื้อบล็อคโคลี่แต่ดันได้กะหล่ำดอกมาแทน(เกี่ยวอะไร?) ถึงจะคล้ายยังไงแต่มันก็ไม่ใช่ ในความคิดเรานิยายเรื่องคิวบิกถ้าสร้างให้ดีจริงๆ(อย่างน้อยก็อิงนิสัยตามคาแรกเตอร์ตัวละครจริงๆ)มันปฎิวัติวงการละครไทยได้เลยทีเดียวเชียว
อย่าหาว่าแฟนหนังสือบางคนปิดกั้นหรือว่าโลกแคบหรือบอกให้เขาถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องดูเลยนะคะ ที่เราบ่นเพราะเราหวังจะได้เป็นเสียงสะท้อนถึงทีมงาน หวังว่าจะมีการพัฒนาวงการละครไทยให้ยิ่งๆขึ้นไป และหวังว่าจะเป็นปากเสียงแทนตัวหนังสือในนิยายที่ไม่มีปากพูดนะคะ
//ยินดีรับคำติชมและคำวิจารณ์จากทุกฝ่าย//
//กระทู้นี้แอบหาเรื่องหรือเปล่าหว่า อันที่จริงกระทู้ที่แล้วก็ไม่ได้โดนปาระเบิดนะ(แล้วจะมาม่าเพื่อ?) แต่ไปอ่านกระทู้อื่นๆเห็นว่าโดนกัน(อยากโดนบ้างว่างั้น) เอาเถอะ...ถือว่าส่งท้าย55+//
//ย้ำอีกที... การจะวิจารณ์อะไรเราควรมีข้อมูลเกี่ยวกับมันพอสมควรเสียก่อนนะคะ//
ความรู้สึกหลังจากชมคิวบิกวันที่2
http://ppantip.com/topic/31755139
สืบเนื่องจากระทู้ที่แล้วค่อนข้างได้กระแสตอบรับดี (แอบปลื้ม มีคนคิดแบบหนูด้วย TT^TT) จึงทำให้กระทู้นี้คลอดตามมาหลังจากที่ต้องเสียเวลากับการดูละครคิวบิกออนไลน์แบบกระตุกทุก 2 นาที (เน็ตป่วย) ถึงกับต้องไปดูแบบย้อนหลังซ้ำอีกรอบให้แน่ใจอีกที เพราะเราถือคติว่าการจะวิจารณ์อะไรเราควรมีข้อมูลเกี่ยวกับมันพอสมควรเสียก่อน
เข้าเรื่องๆ... ละครวันนี้ทำได้ดีกว่าวันแรกพอสมควรเลยค่ะ (ดูแล้วไมเกรนไม่ขึ้น) อาจจะเพราะพอทำใจได้บ้างว่ามันคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ ไม่ก็วันที่สองนี้มีโครงเรื่องจากในหนังสือมากขึ้นก็เป็นได้ ถ้าในฐานะผู้ชมทั่วไปที่ไม่เคยอ่านนิยายก็เป็นละครเรื่องหนึ่งที่สามารถดูได้เพลินๆสนุกๆฮาๆ ถ้าในสายตานักอ่านนั้นถามว่าผ่านไหม ให้ตายยังไงมันก็ผ่านไม่ได้ ใจความสำคัญของคิวบิกที่พี่แบงค์พยายามจะสื่อมันบิดเบี้ยวไปหมดเลย แต่วันนี้ดูๆไปก็ขำนะคะ ไม่ใช่ขำเพราะมุก(ที่พยายาม)ตลกด้วย แต่เป็นความไม่สมเหตุสมผลของเหตุการณ์ค่ะ
เริ่มจากสิ่งที่ทำให้ละครเรื่องคิวบิกเพี้ยนที่สุดเลยก็คือ... บทโทรทัศน์ ค่ะ
อยากฝากถามไปถึงยูม่า99 ทีมงานหลักๆทุกคนโดยเฉพาะผู้เขียนบทนะคะว่าก่อนจะหยิบเอานิยายเรื่องคิวบิกมาทำละครเนี่ย ได้อ่านและทำความเข้าใจกับมันบ้างหรือเปล่า หรือถ้าทำแล้วคิดว่าตัวเองตีความมันออกมาได้ดีแค่ไหนกัน เราชอบและเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 112 จากกระทู้ที่แล้วนะคะ มันคือสิ่งที่เราคิดว่าพี่แบงค์ต้องการจะสื่อผ่านคิวบิก เป็นสิ่งที่ทำให้แฟนๆนิยายคิวบิกหลายๆคนชื่นชอบคิวบิก
ใจความสำคัญมันอยู่ที่ คิวบิก คืออะไร?
คิวบิก คือ เงา / เงา คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เป็นมันสมองคอยช่วยเหลือฉายหงกรุ๊ป / เงาของหลานเซ่อ คือ นาค / นาค คือ คิวบิก
จากชื่อเรื่องก็เห็นได้ชัดแล้วว่าตัวละครสำคัญที่ทำให้คิวบิกเป็นคิวบิก คือ นาค ดังนั้นการตีความคาแรกเตอร์ของนาคใหม่ให้กลายเป็นตัวละครเด็ก ง้องแง้ง ขี้โวยวาย ดูแล้วปัญญาอ่อน จากต้นฉบับที่คาแรกเตอร์เธอเป็นผู้เป็นคนมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูน่าไว้วางใจพอที่จะให้ทำงานอะไรได้ ถึงนิสัยเธอจะแปลกๆไปบางแต่คนก็อ่านหมั่นไส้ไม่ลงจริงๆ แต่ในละครนาคทำตัวน่ารำคาญมาก หากนาคในนิยายคือ คนฉลาดแสร้งโง่ นาคภาคละคร ก็คือคนโง่อวดฉลาดค่ะ แม้ว่าในวันที่สองนี้จะมีฉากใช้สมองของนาคบ้างแล้วแต่บทและการแสดงของนักแสดงยังไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ค่ะว่านาคฉลาดและเป็นคนพิเศษจริงๆเหมือนแค่ให้คนอื่นมาพูดมาบอกให้คิดเฉยๆว่าฤทัยนาคเธอพิเศษนะ โดยเฉพาะตอนเจรจากับคาลอส โอเวอร์แอคติ้งขนาดนั้นดูไม่น่าเชื่อถือและดูไม่ฉลาดเลยกับการเลือกทำตัวงุ้งงิ้งตอนเจรจาเรื่องคอขาดบาดตาย คิดถึงความเป็นจริงไปเจรจาธุรกิจทำตัวง้องแง้งแบบนี้คุณจะยอมร่วมมือด้วยเหรอคะ (เอาฉากเจรจาฟินๆของหนูคืนมานะ ทั้งๆที่บทพูดก็คือๆกับในนิยายแท้ๆทำไมมันคนละอารมณ์เลย T^T) แถมยังอุตส่าห์ใส่ซาวด์คอมมาดี้ลงไปอีก นับถือยูม่าจริงๆ เหอะๆ
เข้าใจค่ะว่าบทละครต้องมีปรับบางเพื่อความสมจริงกว่าในนิยาย จะปรับ/เพิ่ม/ลดบทยังไงก็ว่าไปเถอะ แต่ เปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวละครหลักนี่รับไม่ได้จริงๆค่ะ ขนาดคาลอสยังเปลี่ยนจากพวกแอนตี้มาเฟียเงินหนักแค่ไหนแค่เป็นมาเฟียฉันก็ไม่สน มาเป็นถ้าเพื่อเงินก็ได้ทั้งนั้น[อ้างอิงจากคำพูดที่จงซินคุยกับท่านหลิน] ไหนจะพ่อหนุ่มน้อยแดนนี่อีกกลายเป็นนักร้องเกาหลีไปแล้วป่ะมีเต้นด้วย 55+ นี่มันจะไม่เหลือตัวละครออริจินัลให้เราเลยใช่ไหม?!
จริงๆถ้าจะให้พูดถึงความสมจริงแล้ว จากละครคิวบิกวันที่สองนี้เราดูแล้วขำมากอ่ะ ตลกกับตรรกะที่แสนจะสมจริงของละครมาก เริ่มจากที่ซานกุ้ยบอกกับหย่งเหวินประมาณว่า "ความนอบน้อมถ่อมตนจะทำให้นายประสบความสำเร็จ" เอ่อ... นี่มันวงการมาเฟียนะคะ แน่ใจนะว่านุ่มนิ่มแบบนั้นจะรอดน่ะ คนที่"อะไรที่คุณพ่อว่าดีผมก็เห็นด้วยทั้งนั้นครับ" ไม่น่าจะติดโผที่มาเฟียแก่เจนสังเวียนอย่างซานกุ้ยจะยกตำแหน่งผู้นำให้นะ (ในกรณีที่เขี่ยท่านหลินลงไปได้น่ะนะ)
ต่อมาก็ตำรวจสากลผู้เปี่ยมไปด้วยพลัง แพททริก บัตตัน... เอิ่ม... วันนี้นายทำตัวอันธพาลเสียจนมาเฟียในละครคิวบิกคนอื่นสมควรอายเลยนะ 55+ ตำรวจสากลเป็นงี้เนี่ยนะ(ไม่โดนสอบวินัยบ้างเหรอคะ) เหอะๆ ตัวละครมุทะลุแบบนี้อันที่จริงไม่น่าจะทำให้คาลอสกลัวได้เลย
ไหนจะฉากในโรงเรียน ท่านหลินเดินไปโรงอาหารในโรงเรียนของตัวเองแท้ๆแต่ก็ต้องมีลูกน้องตามไปเป็นฝูง? ไปหิ้วปีกนักเรียนกลางห้องเรียน? แน่ใจนะว่ามันเข้ากับที่แดนนี่บอกว่า "ฉากหน้าเป็นนักธุรกิจไฟแรง แต่เบื้องหลังเป็นมาเฟีย" แบบนี้มันออกจะโจ่งแจ้งนะว่าผมคือมาเฟียนะครับ! นักเรียนทั่วไปไม่คิดว่ามันประหลาดก็บ้าแล้ว
มีอะไรหลายๆอย่างที่ไม่สมควรตัดดันตัด อะไรที่ไม่สมควรเพิ่มก็ดันเพิ่มดีจัง
ฉากการเริ่มต้นเป็นเพื่อนกันของนาคกับแดนนี่ก็ดูไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ถึงนาคจะเป็นนาคแบบในละครแต่ต้องอย่าลืมว่าพื้นฐานของแดนนี่คือลูกนักค้าอาวุธข้ามชาติที่เข้ามาดูลาดเลาช่วยงานของพ่อ คนแบบนี้จะไม่มีกำแพงจิตใจคัดกรองคนที่ตนจะเอาตัวไปสนิทด้วยเลยเหรอคะ
ยิ่งฉากที่จงซินชักจูงให้ท่านหลินลองใช้งานนาค กับประโยคที่ว่า "บางทีคุณหลินอาจคาดไม่ถึงว่าฤทัยนาคเธอพิเศษ" อย่าว่าแต่ท่านหลินเลย จากที่ดูฤทัยนาคฉบับละครมาเรายังหาความพิเศษของนาคที่แตกต่างจากนางเอกนิยายรักใสๆทั่วไปไม่เจอเลย (ยิ่งความที่ชอบโวยวายน่ารำคาญนั่นเจอท่านหลินตัวจริงฉบับนิยายไม่โดนยิงทิ้งแต่แรกก็แปลกแล้ว) และคำพูดต่างๆที่จงซินโน้มน้าวต่อเรื่องการที่นาคเคยเจรจาธุรกิจให้พ่อ มันไร้น้ำหนักมากอ่ะถ้าเทียบจากในนิยาย เพราะในละครจงซินพูดแค่ 1 2 ล้มเหลว แต่ 3 ประสบความสำเร็จได้ผลประโยชน์ร้อยล้าน แค่นั้น และดูจะเน้นที่ผลประโยชน์ร้อยล้านมากเป็นพิเศษเหมือนจะดูแค่ที่ผลลัพธ์ แต่ในนิยายนั้น 1 ไม่สำเร็จเพราะไม่มีข้อมูลอะไรเลยจู่ๆก็โดนพ่อโยนไปจับงานเฉย 2 คู่ค้าไปเลือกคู่แข่งก่อนที่จะได้เจรจา 3 นาคทำให้คู่ค้า 1 ที่เคยปฎิเสธเธอยอมตกลงในข้อเสนอเดิมได้ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้จงซินและท่านหลินสนใจว่านาคใช้วิธีแบบไหนถึงทำให้ได้ผลลัพธ์นั่นมา และอยากให้นาคใช้วิธีนั้นในการเจรจากับคาลอส ในฉากนี้อีกสิ่งที่บทละครพลาดก็คือการเปลี่ยนให้นาคเป็นผู้เจรจากับคาลอสตั้งแต่ครั้งแรก (ในนิยายท่านหลินเคยส่งคนไปเจรจาก่อนแล้วแต่ล้มเหลว) นั่นทำให้คาลอสในละครไม่มีข้อมูลเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้จากการร่วมทุนกับฉายหงแบบที่คาลอสในนิยายมีอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น สำหรับเราถ้าเราเป็นคาลอสต่อให้จะมีคนมาอาสาขนอาวุธที่กำลังเป็นปัญหาร้อนที่สุดของเราให้ ก็ไม่น่าจะยอมเซ็นสัญญาร่วมทุนที่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเสียอะไรง่ายๆแน่ๆ (เป็นคห.ส่วนตัว หลายๆท่านอาจคิดต่างก็ไม่ว่ากัน)
ส่วนเรื่องรายละเอียดข้อผิดพลาดปลีกย่อยอื่นๆก็มีคนอื่นได้ตั้งกระทู้ติติงกันไปบ้างแล้ว ฉะนั้นวันนี้เราขอจวกแค่เรื่องบทอย่างเดียว เพราะมันเป็นอะไรที่โคม่ามากที่สุด หากจะเปลี่ยนกันซะขนาดนี้ขอเถอะค่ะ... อย่าใช้ชื่อละครว่าคิวบิกเลย ถ้าใช้ชื่ออื่นจะไม่ว่าซักคำ(แต่ก็อาจจะมีบ่นว่าก็อบเขามาฤเปล่านะ 55+)
สุดท้ายนี้...
สำหรับแฟนละคร แฟนนักแสดงละครคิวบิกหรือคนทั่วไปที่ไม่เคยอ่านนิยายคิวบิกนะคะ ละครเรื่องคิวบิกถ้าไม่มีพื้นเรื่องนิยายมาถือว่าเป็นละครที่ดูได้เพลิดเพลิน รื่นเริง สนุกสนาน สำราญใจกันพอสมควรเลยทีเดียว มันก็สนุกไปอีกแบบประสาละครรักกุ๊กกิ๊กปนบู๊หน่อยๆตามกระแสในท้องตลาดทั่วไปล่ะนะ แต่สิ่งที่เราอยากจะขอก็คือหากมีโอกาส(หลังละครจบไปแล้วก็ได้) อยากให้ลองอ่านต้นฉบับในนิยายดูนะคะว่าสิ่งที่ละครคิวบิกควรจะได้เป็น ความพิเศษที่ละครคิวบิกควรจะได้มี ที่ทำให้แฟนๆหนังสือออกมาวิจารณ์ทีมงานยูม่าและนักแสดงกันนั้นมันเป็นเพราะอะไร สำหรับเราเรายินดีที่นิยายที่เราชอบจะได้ออกมาโลดแล่นมีชีวิต แต่ผู้สร้างชีวิตนั้นก็ควรจะต้องเคารพบทประพันธ์ต้นฉบับด้วย ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากการยืมชื่อเสียงและฉากหน้าของบทประพันธ์นั้นมาหุ้มแต่เนื้อในมันไม่ใช่ เราคิดว่าออกจะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคด้วยซ้ำเหมือนไปซื้อบล็อคโคลี่แต่ดันได้กะหล่ำดอกมาแทน(เกี่ยวอะไร?) ถึงจะคล้ายยังไงแต่มันก็ไม่ใช่ ในความคิดเรานิยายเรื่องคิวบิกถ้าสร้างให้ดีจริงๆ(อย่างน้อยก็อิงนิสัยตามคาแรกเตอร์ตัวละครจริงๆ)มันปฎิวัติวงการละครไทยได้เลยทีเดียวเชียว
อย่าหาว่าแฟนหนังสือบางคนปิดกั้นหรือว่าโลกแคบหรือบอกให้เขาถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องดูเลยนะคะ ที่เราบ่นเพราะเราหวังจะได้เป็นเสียงสะท้อนถึงทีมงาน หวังว่าจะมีการพัฒนาวงการละครไทยให้ยิ่งๆขึ้นไป และหวังว่าจะเป็นปากเสียงแทนตัวหนังสือในนิยายที่ไม่มีปากพูดนะคะ
//ยินดีรับคำติชมและคำวิจารณ์จากทุกฝ่าย//
//กระทู้นี้แอบหาเรื่องหรือเปล่าหว่า อันที่จริงกระทู้ที่แล้วก็ไม่ได้โดนปาระเบิดนะ(แล้วจะมาม่าเพื่อ?) แต่ไปอ่านกระทู้อื่นๆเห็นว่าโดนกัน(อยากโดนบ้างว่างั้น) เอาเถอะ...ถือว่าส่งท้าย55+//
//ย้ำอีกที... การจะวิจารณ์อะไรเราควรมีข้อมูลเกี่ยวกับมันพอสมควรเสียก่อนนะคะ//