Katyusha full version) AMV Girls und Panzer OST (HD)
Katyusha
เพลงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ของรัสเซีย
เขียนขึ้นในปี 1938 โดย Matvei Blanter
ทำนองเพลงโดย Mikhail Isakovsky
เป็นเพลงหญิงสาวคิดถึงคนรัก
ที่ทำหน้าที่เป็นทหารไปรบชายแดนไกล
ขับร้องครั้งแรกโดยกลุ่มนักเรียนสตรี
โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมรัสเซีย
เพื่อร้องอำลาให้กับทหารที่จะไปรบในแนวหน้า
ไปรบกับกองทัพนาซีเยอรมันนีในเดือนกรกฎาคม 1941
เพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วทั้งประเทศรัสเซีย
เพลงนี้ขับร้องอย่างเป็นทางการโดย Valentina Batishcheva
ใน Column Hall of Moscow's House of the Unions
ต่อมาขับร้องโดย Lidiya Ruslanova และนักร้องรายอื่น ๆ
สรุปย่อเรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/HE9CvN
74 ปีก่อน รัสเซียประสบความสำเร็จเหนือชาติอื่น ๆ
ด้วยการส่งรถถังไร้คนขับเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
โทรรถถัง(รถถังไร้คนขับสั่งการด้วยวิทยุสื่อสาร)
ในช่วงแรก ๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 2
และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก
สงครามครั้งนั้น ระหว่างกองทัพโซเวียตรัสเซีย
กับกองทัพประเทศฟินแลนด์
โดยกองทัพโซเวียตรัสเซียได้รุกเข้า
ทางด้านตะวันออกของประเทศฟินแลนด์
สงครามฤดูหนาว ครั้งนี้กินเวลาสามเดือนครึ่ง
เริ่มปลายเดือนพฤศจิกายนสิ้นสุดกลางเดือนมีนาคม
ช่วงปี พ.ศ.2482 ถึง พ.ศ.2483
แม้ว่าประเทศฟินแลนด์โดยภาพรวมแล้ว
จะมีทหารประจำการพร้อมทั้งอาวุธน้อยมาก
รวมทั้งมีรถถังและเรือบินจำนวนเพียงไม่กี่ลำ
แต่ทหารฟินแลนด์ได้ขุดหลุมสนามเพาะทำการรบ
แล้วทำการรบแบบกองโจร
พร้อมกับมีทหารซุ่มยิงได้แม่นมาก
ทำให้ทหารรัสเซียล้มตายเป็นจำนวนมาก
ทำให้กองทัพโซเวียตรุกคืบหน้าได้ช้ามาก
และต้องสูญเสียอย่างหนักมากในการรบครั้งนี้
ภายในรถถัง T-26 รุ่นปี 1933
ด้านซ้ายมือคือที่เก็บอาวุธ
มีหน้าต่างเปิด/ปิดมองภายนอกได้
สถานที่ Parola Tank Museum in Finland
ที่มา
https://goo.gl/v4Ywh5
ดังนั้นกองทัพแดงจึงส่งโทรรถถังเข้ารบ
จำนวนสองกองพัน รุ่นยอดนิยมคือ
รถถังขนาดเบา T-26 (ขนาด 5 ตัน)
ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมมีการใช้งานกันหลายประเทศมากในอดีต
ที่ติดตั้งระบบไฮโดรลิคและวิทยุสื่อสารควบคุมการทำงาน
นายทหารสั่งการรถถังไร้คนขับจากวิทยุสื่อสาร
จากทางไกลในระยะทางประมาณหนึ่งกิโลเมตร
ตามปุ่มบังคับที่กำหนดไว้ตามแถวสั่งการ
ไม่มีคันโยก หรือ แผ่นบังคับ
ในการบังคับรถถังให้วิ่ง ยิงปืนกล หรือยิงปืนใหญ่
โทรรถถังสามารถทำงานด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ
ถ้ารถถังขาดการติดต่อจากระบบสื่อสารทางวิทยุ
จะหยุดรอประมาณครึ่งนาที อุ่นเครื่องยนต์รอไว้
จนกว่าระบบการสื่อสารทางวิทยุจะทำงานได้ตามปกติ
ระบบที่ขาดหายไปจากโทรรถถัง
ในรุ่นที่ติดตั้งมากที่สุดคือ รถถังเบา T-26
คือ ความสามารถในการรับฟังทางไกล
โทรรถถังรุ่นนี้ไม่สามารถรับส่งเสียงกลับไปยัง
นายทหารที่ควบคุมการทำงานรถถังได้
เพราะไม่มีทหารประจำอยู่ในรถถัง
ทำให้มีผลในการสั่งการและการไต่ข้ามที่ทุรกันดาร
หรือมีสิ่งกีดขวางการเคลื่อนที่ของรถถัง
เพราะไม่สามารถระบุได้ว่ามีอะไรที่กีดขวางอยู่
สมัยนั้นยังไม่มีระบบทีวีวงจรปิด/กล้องหน้ารถถัง
ไว้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมเหมือนในปัจจุบัน
ภายในรถถัง T-26 รุ่นปี 1933
ป้อมปืนใหญ่ที่เล็งไปข้างหน้าขนาด 45 มม
กล้องส่องทางไกลด้านซ้ายมือ TOP-1
และปืนกลรถถังคู่ DT คู่ และ PT-K
สามารถมองได้รอบทิศทางในการบัญชาการรบ
สถานที่ Parola Tank Museum in Finland.
ที่มา
https://goo.gl/fzdRbF
ข้อดีของ โทรรถถังรุ่นนี้ที่มีการบันทึกไว้คือ
ในช่วงสงคราม Summa
รถถังไร้คนขับทำการขับไล่ทหารฟินแลนด์
ต้องหนีตายกันอย่างกระเจิดกระเจิง
แม้ว่ามีการโยนระเบิดเพลิงเข้าใส่รถถัง
ก็ไม่มีผลกับการขับเคลื่อนและโจมตีอย่างรุนแรง
จากนายทหารที่สั่งการทางไกลให้รถถังทำการรบได้
เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะมีทหารจะบาดเจ็บหรือล้มตาย
ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2483
ฟินแลนด์ได้ลงนามสัญญาสงบศึกกับโซเวียตรัสเซีย
เป็นการสิ้นสุดสงครามฤดูหนาว
และเป็นการสิ้นสุดของโทรรถถังเช่นกัน
แม้ว่าจะมีความขัดแย้งรุนแรงกับกองทัพเยอรมันนี
แต่เพราะเกราะกำบังรถถังรุ่นนี้ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ
รวมทั้งอาวุธรอบตัวรถถังในเวลาต่อสู้
มักจะแพ้รถถังกองทัพเยอรมันนี
หรือแม้กระทั่งรถถังถูกทำลายได้โดยง่าย
จากอาวุธต่อต้านรถถังของชาวฟินแลนด์
จึงยุติการพัฒนาและการสร้างต่อเนื่องในปี พ.ศ.2483
ทำให้รถถังรุ่น T-26 เป็นการออกแบบที่ล้มเหลว
แต่ระบบบังคับทางไกลเป็นจุดเริ่มต้นของ
การทำสงครามแบบไร้คนขับเคลื่อน
ในช่วงมากกว่าสามส่วนสี่ของศตวรรษ
รัสเซียยังนำหน้ากองทัพหุ่นยนต์ในระดับโลก
แม้ว่าจะไม่ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
หรือได้ระบุว่าเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์หลัก
แต่ทั้งโซเวียตรัสเซียกับประเทศบริวารเดิม
ต่างหยุดยั้งการพัฒนาระบบอาวุธภาคพื้นดิน
และหุ่นยนต์รบบังคับทางอากาศ(วิทยุสื่อสาร)
แม้แต่ในช่วงปี พ.ศ.2551
ช่วงที่รัสเซียมีความขัดแย้งกับจอร์เจีย
ในการรบรัสเซียไม่ได้ใช้รถถังไร้คนขับแต่อย่างใด
แต่ใช้อากาศยานในการรบเป็นหลัก
ทั้ง ๆ ที่สงครามครั้งนั้น
เป็นสงครามที่ปกปิดจากโลกภายนอก
แต่ในตอนนี้ ผู้ผลิตเครื่องยนต์เรือบินรายหนึ่ง
ได้เป็นผู้ชนะในการทำสัญญาเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
ในการสร้างอาวุธสงครามไร้คนขับ
ประกอบด้วยรถถังขนาดเบารุ่น 5 ตันรุ่นดั้งเดิม
ที่มีการทดสอบในปีนี้
และรถถังขนาดหนักรุ่น 20 ตัน
คาดว่าจะเริ่มทดสอบได้ในปี 2561
เจ้าหน้าที่ทหารคาดว่ารถถังไร้คนขับ
จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2563
แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานว่า
รัสเซียจะมีอาวุธทำสงครามภาคพื้นดินไร้คนขับ
แต่รถถังขนาดหนัก MRK-27 BT
โทรรถถัง(รถถังไร้คนขับ) จะเป็นหนึ่งในหุ่นยนต์อาวุธสงคราม
ที่ไม่เหมือนต้นฉบับแบบดั้งเดิม หรือไม่
ถ้าโชคดี คือ ใบอนุญาตให้ฆ่าศัตรูได้ทุกรูปแบบ
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/QEkaP3 (
http://www.popsci.com)
http://en.wikipedia.org/wiki/T-26_tank
ในที่สุด พลขับรถถังทหารผ่านศึกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้พบกับรถถังคันที่เขาเคยขับ วางเป็นที่ระลึกในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของรัสเซีย
ที่มา
https://goo.gl/aPBE1h
รถถังไร้คนขับของรัสเซีย สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
Katyusha full version) AMV Girls und Panzer OST (HD)
Katyusha
เพลงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ของรัสเซีย
เขียนขึ้นในปี 1938 โดย Matvei Blanter
ทำนองเพลงโดย Mikhail Isakovsky
เป็นเพลงหญิงสาวคิดถึงคนรัก
ที่ทำหน้าที่เป็นทหารไปรบชายแดนไกล
ขับร้องครั้งแรกโดยกลุ่มนักเรียนสตรี
โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมรัสเซีย
เพื่อร้องอำลาให้กับทหารที่จะไปรบในแนวหน้า
ไปรบกับกองทัพนาซีเยอรมันนีในเดือนกรกฎาคม 1941
เพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วทั้งประเทศรัสเซีย
เพลงนี้ขับร้องอย่างเป็นทางการโดย Valentina Batishcheva
ใน Column Hall of Moscow's House of the Unions
ต่อมาขับร้องโดย Lidiya Ruslanova และนักร้องรายอื่น ๆ
สรุปย่อเรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/HE9CvN
รถถังขนาดเบา 5 ตันรุ่น T 26
ที่มา https://goo.gl/iapH7m
74 ปีก่อน รัสเซียประสบความสำเร็จเหนือชาติอื่น ๆ
ด้วยการส่งรถถังไร้คนขับเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
โทรรถถัง(รถถังไร้คนขับสั่งการด้วยวิทยุสื่อสาร)
ในช่วงแรก ๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 2
และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก
สงครามครั้งนั้น ระหว่างกองทัพโซเวียตรัสเซีย
กับกองทัพประเทศฟินแลนด์
โดยกองทัพโซเวียตรัสเซียได้รุกเข้า
ทางด้านตะวันออกของประเทศฟินแลนด์
สงครามฤดูหนาว ครั้งนี้กินเวลาสามเดือนครึ่ง
เริ่มปลายเดือนพฤศจิกายนสิ้นสุดกลางเดือนมีนาคม
ช่วงปี พ.ศ.2482 ถึง พ.ศ.2483
แม้ว่าประเทศฟินแลนด์โดยภาพรวมแล้ว
จะมีทหารประจำการพร้อมทั้งอาวุธน้อยมาก
รวมทั้งมีรถถังและเรือบินจำนวนเพียงไม่กี่ลำ
แต่ทหารฟินแลนด์ได้ขุดหลุมสนามเพาะทำการรบ
แล้วทำการรบแบบกองโจร
พร้อมกับมีทหารซุ่มยิงได้แม่นมาก
ทำให้ทหารรัสเซียล้มตายเป็นจำนวนมาก
ทำให้กองทัพโซเวียตรุกคืบหน้าได้ช้ามาก
และต้องสูญเสียอย่างหนักมากในการรบครั้งนี้
ภายในรถถัง T-26 รุ่นปี 1933
ด้านซ้ายมือคือที่เก็บอาวุธ
มีหน้าต่างเปิด/ปิดมองภายนอกได้
สถานที่ Parola Tank Museum in Finland
ที่มา https://goo.gl/v4Ywh5
ดังนั้นกองทัพแดงจึงส่งโทรรถถังเข้ารบ
จำนวนสองกองพัน รุ่นยอดนิยมคือ
รถถังขนาดเบา T-26 (ขนาด 5 ตัน)
ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมมีการใช้งานกันหลายประเทศมากในอดีต
ที่ติดตั้งระบบไฮโดรลิคและวิทยุสื่อสารควบคุมการทำงาน
นายทหารสั่งการรถถังไร้คนขับจากวิทยุสื่อสาร
จากทางไกลในระยะทางประมาณหนึ่งกิโลเมตร
ตามปุ่มบังคับที่กำหนดไว้ตามแถวสั่งการ
ไม่มีคันโยก หรือ แผ่นบังคับ
ในการบังคับรถถังให้วิ่ง ยิงปืนกล หรือยิงปืนใหญ่
โทรรถถังสามารถทำงานด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ
ถ้ารถถังขาดการติดต่อจากระบบสื่อสารทางวิทยุ
จะหยุดรอประมาณครึ่งนาที อุ่นเครื่องยนต์รอไว้
จนกว่าระบบการสื่อสารทางวิทยุจะทำงานได้ตามปกติ
ระบบที่ขาดหายไปจากโทรรถถัง
ในรุ่นที่ติดตั้งมากที่สุดคือ รถถังเบา T-26
คือ ความสามารถในการรับฟังทางไกล
โทรรถถังรุ่นนี้ไม่สามารถรับส่งเสียงกลับไปยัง
นายทหารที่ควบคุมการทำงานรถถังได้
เพราะไม่มีทหารประจำอยู่ในรถถัง
ทำให้มีผลในการสั่งการและการไต่ข้ามที่ทุรกันดาร
หรือมีสิ่งกีดขวางการเคลื่อนที่ของรถถัง
เพราะไม่สามารถระบุได้ว่ามีอะไรที่กีดขวางอยู่
สมัยนั้นยังไม่มีระบบทีวีวงจรปิด/กล้องหน้ารถถัง
ไว้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมเหมือนในปัจจุบัน
ภายในรถถัง T-26 รุ่นปี 1933
ป้อมปืนใหญ่ที่เล็งไปข้างหน้าขนาด 45 มม
กล้องส่องทางไกลด้านซ้ายมือ TOP-1
และปืนกลรถถังคู่ DT คู่ และ PT-K
สามารถมองได้รอบทิศทางในการบัญชาการรบ
สถานที่ Parola Tank Museum in Finland.
ที่มา https://goo.gl/fzdRbF
ข้อดีของ โทรรถถังรุ่นนี้ที่มีการบันทึกไว้คือ
ในช่วงสงคราม Summa
รถถังไร้คนขับทำการขับไล่ทหารฟินแลนด์
ต้องหนีตายกันอย่างกระเจิดกระเจิง
แม้ว่ามีการโยนระเบิดเพลิงเข้าใส่รถถัง
ก็ไม่มีผลกับการขับเคลื่อนและโจมตีอย่างรุนแรง
จากนายทหารที่สั่งการทางไกลให้รถถังทำการรบได้
เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะมีทหารจะบาดเจ็บหรือล้มตาย
ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2483
ฟินแลนด์ได้ลงนามสัญญาสงบศึกกับโซเวียตรัสเซีย
เป็นการสิ้นสุดสงครามฤดูหนาว
และเป็นการสิ้นสุดของโทรรถถังเช่นกัน
แม้ว่าจะมีความขัดแย้งรุนแรงกับกองทัพเยอรมันนี
แต่เพราะเกราะกำบังรถถังรุ่นนี้ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ
รวมทั้งอาวุธรอบตัวรถถังในเวลาต่อสู้
มักจะแพ้รถถังกองทัพเยอรมันนี
หรือแม้กระทั่งรถถังถูกทำลายได้โดยง่าย
จากอาวุธต่อต้านรถถังของชาวฟินแลนด์
จึงยุติการพัฒนาและการสร้างต่อเนื่องในปี พ.ศ.2483
ทำให้รถถังรุ่น T-26 เป็นการออกแบบที่ล้มเหลว
แต่ระบบบังคับทางไกลเป็นจุดเริ่มต้นของ
การทำสงครามแบบไร้คนขับเคลื่อน
รถถังไร้คนขับ T26
ที่มาของภาพ http://goo.gl/QEkaP3
ในช่วงมากกว่าสามส่วนสี่ของศตวรรษ
รัสเซียยังนำหน้ากองทัพหุ่นยนต์ในระดับโลก
แม้ว่าจะไม่ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
หรือได้ระบุว่าเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์หลัก
แต่ทั้งโซเวียตรัสเซียกับประเทศบริวารเดิม
ต่างหยุดยั้งการพัฒนาระบบอาวุธภาคพื้นดิน
และหุ่นยนต์รบบังคับทางอากาศ(วิทยุสื่อสาร)
แม้แต่ในช่วงปี พ.ศ.2551
ช่วงที่รัสเซียมีความขัดแย้งกับจอร์เจีย
ในการรบรัสเซียไม่ได้ใช้รถถังไร้คนขับแต่อย่างใด
แต่ใช้อากาศยานในการรบเป็นหลัก
ทั้ง ๆ ที่สงครามครั้งนั้น
เป็นสงครามที่ปกปิดจากโลกภายนอก
แต่ในตอนนี้ ผู้ผลิตเครื่องยนต์เรือบินรายหนึ่ง
ได้เป็นผู้ชนะในการทำสัญญาเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
ในการสร้างอาวุธสงครามไร้คนขับ
ประกอบด้วยรถถังขนาดเบารุ่น 5 ตันรุ่นดั้งเดิม
ที่มีการทดสอบในปีนี้
และรถถังขนาดหนักรุ่น 20 ตัน
คาดว่าจะเริ่มทดสอบได้ในปี 2561
เจ้าหน้าที่ทหารคาดว่ารถถังไร้คนขับ
จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2563
ภาพวาดรถถัง MRK-27 BT
ที่มาของภาพ http://goo.gl/nEScCb
แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานว่า
รัสเซียจะมีอาวุธทำสงครามภาคพื้นดินไร้คนขับ
แต่รถถังขนาดหนัก MRK-27 BT
โทรรถถัง(รถถังไร้คนขับ) จะเป็นหนึ่งในหุ่นยนต์อาวุธสงคราม
ที่ไม่เหมือนต้นฉบับแบบดั้งเดิม หรือไม่
ถ้าโชคดี คือ ใบอนุญาตให้ฆ่าศัตรูได้ทุกรูปแบบ
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/QEkaP3 (http://www.popsci.com)
http://en.wikipedia.org/wiki/T-26_tank
ในที่สุด พลขับรถถังทหารผ่านศึกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้พบกับรถถังคันที่เขาเคยขับ วางเป็นที่ระลึกในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของรัสเซีย
ที่มา https://goo.gl/aPBE1h