Life เป็นเรื่องราวของช่างภาพของนิตยสาร Life ชื่อว่า เดนนิส สต็อก(โรเบิร์ต แพททินสัน)
ซึ่งเขาต้องติดตามถ่าย เจมส์ ดีน(เดฮาน) เพื่อลงนิตยสาร จนทำให้เกิดมิตรภาพอันแน่นเฟ้น
ซึ่งชื่อหนังก็ได้มาจากชื่อนิตยสาร Life นั้นเอง
หนังจะมีฉากเป็นยุค 50 สต็อกเป็นช่างภาพหนุ่มได้รับมอบหมายงานจากแม็กนัม อเจนซี
ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือตามถ่ายภาพชีวิตของเจมส์ ดีน
นักแสดงหนุ่มผู้มีจิตใจเสรี ทั้งคู่เดินทางไปด้วยกันจากแอลเอ ไปนิวยอร์ก และอินเดียนา
และสต็อกได้ถ่ายภาพมากมายของดีนที่ตอนหลังกลายเป็นภาพอันโด่งดัง
ในตอนนั้น ดีนยังไม่ได้เป็นดาราดังจนกระทั่ง East of Eden ออกฉายในปี 1955
ดีนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน
และเพียงไม่กี่เดือนก่อน Rebel Without A Cause หนังที่โด่งดังที่สุดของเขาจะออกฉาย
ผู้กำกับคอร์บินเผยการตัดสินใจที่เลือกทั้งคู่มารับบทในนิตยสาร EW ว่า “
ตอนที่ผมเห็นร็อบ ผมเห็นอารมณ์สับสนภายในที่เหมาะสมแก่บท
และเดนก็น่าสนใจมาก เขามีใบหน้าที่สวย แต่เป็นใบหน้าที่เข้าใจความรู้สึกยาก
มันยากมากที่จะเดาอารมณ์ของเดนบนจอในบางครั้ง เช่นเดียวกับเจมส์ ดีน“
หนังมีเอียน แคนนิ่ง และเอมิล เชอร์แมน ผู้อยู่เบื้องหลังหนังออสการ์ The King’s Speech
มารับหน้าที่อำนวยการสร้างครับ
ที่มา :: Jediyuth
ภาพของทั้งสอง
เดน เดฮาน(Dane Dehan) รับบท เจมส์ ดีน ใน Life
ซึ่งเขาต้องติดตามถ่าย เจมส์ ดีน(เดฮาน) เพื่อลงนิตยสาร จนทำให้เกิดมิตรภาพอันแน่นเฟ้น
ซึ่งชื่อหนังก็ได้มาจากชื่อนิตยสาร Life นั้นเอง
หนังจะมีฉากเป็นยุค 50 สต็อกเป็นช่างภาพหนุ่มได้รับมอบหมายงานจากแม็กนัม อเจนซี
ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือตามถ่ายภาพชีวิตของเจมส์ ดีน
นักแสดงหนุ่มผู้มีจิตใจเสรี ทั้งคู่เดินทางไปด้วยกันจากแอลเอ ไปนิวยอร์ก และอินเดียนา
และสต็อกได้ถ่ายภาพมากมายของดีนที่ตอนหลังกลายเป็นภาพอันโด่งดัง
ในตอนนั้น ดีนยังไม่ได้เป็นดาราดังจนกระทั่ง East of Eden ออกฉายในปี 1955
ดีนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน
และเพียงไม่กี่เดือนก่อน Rebel Without A Cause หนังที่โด่งดังที่สุดของเขาจะออกฉาย
ผู้กำกับคอร์บินเผยการตัดสินใจที่เลือกทั้งคู่มารับบทในนิตยสาร EW ว่า “
ตอนที่ผมเห็นร็อบ ผมเห็นอารมณ์สับสนภายในที่เหมาะสมแก่บท
และเดนก็น่าสนใจมาก เขามีใบหน้าที่สวย แต่เป็นใบหน้าที่เข้าใจความรู้สึกยาก
มันยากมากที่จะเดาอารมณ์ของเดนบนจอในบางครั้ง เช่นเดียวกับเจมส์ ดีน“
หนังมีเอียน แคนนิ่ง และเอมิล เชอร์แมน ผู้อยู่เบื้องหลังหนังออสการ์ The King’s Speech
มารับหน้าที่อำนวยการสร้างครับ
ที่มา :: Jediyuth
ภาพของทั้งสอง