งานณาปนกิจ หลวงปู่เห็นชอบ สตตธโน  วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗



              หลวงปู่เห็นชอบ สตฺตธโน  ได้เมตตาเล่าให้นิตยสารโลกทิพย์ฟังว่า ท่านเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือที่วัดไร่หลักทอง รับใช้พระเณร ได้เรียนตั้งแต่ กอ ขอ กอ กา และเรียนต่อที่โรงเรียนประชาบาลวัดหลวงพรหมามาวาส จนจบชั้นประถม ๕ ก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหารแล้ว ก็คัดเลือกทหารได้ ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านรับราชการเป็นทหารเรือนาวิกโยธินประจำกองทัพเรือสัตหีบ ถูกส่งมาอยู่ที่บางพระ หลังจากรับใช้ชาติและปลดประจำการจากทหารเรือแล้ว ก็ได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา ครั้งแรกตั้งใจจะบวชสัก ๒ พรรษาแต่เมื่อได้รู้จักเพื่อนสหธรรมิก ได้ไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์ตามสถานที่ต่างๆ เลยไม่มีจิตคิดจะสึกและอยู่ในเพศบรรพชิตมาจนถึงปัจจุบันนี้


            หลวงปู่เห็นชอบได้รู้จักหลวงปู่ใช่และพระอาจารย์เช้ามาตั้งแต่สมัยเด็ก เพราะอยู่ในตำบลเดียวกัน พระครูวิสุทธิสังวร(หลวงปู่ใช่ สุชีโว) และพระอาจารย์เช้า จันทสีโล ได้ชวนหลวงปู่ชอบไปตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เขาฉลาก(บางพระ) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  หลวงปู่ชอบได้ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ใช่ จนเกิดความสงบในจิตใจ อยากไปจำพรรษาที่เขาวัง แต่โยมชั้นยอด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเขาฉลากอยากให้มาอยู่ที่เขาฉลาก โยมชั้นยอดได้นิมนต์ให้มาอยู่ที่เขาฉลากและได้จัดตั้งเป็นธุดงคสถานชั้นยอด หลวงปู่ใช่ได้ยับยั้งไม่ให้ลาสิกขา จึงมีความคิดที่จะออกธุดงค์ จึงไปอยู่ที่เขาวัง ราชบุรี






            
        หลวงปู่เห็นชอบได้ศึกษาธรรมกับหลวงพ่อสาลี วัดเขาวัง จ.ราชบุรี แล้วได้ออกธุดงค์ไปทางใต้  เพื่อจำพรรษาที่วัดแหลมกุ่ม ต.นาหูกวางอ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ประมาณ ๑ พรรษา แล้วได้ออกธุดงค์ไปที่วัดสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ของหลวงพ่อพุทธทาส(พระธรรมโกศาจารย์) ได้ศึกษาธรรมและได้พบกับผู้ใหญ่ทวี พูนผล ซึ่งบรรพชาอยู่ที่วัดสวนโมกข์ ท่านได้ชวนหลวงปู่ชอบไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์บ่อม่วง(เกาะแตน)







       ปี ๒๕๐๐ หลวงปู่เห็นชอบได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์บ่อม่วง(เกาะแตน)  หมู่ ๒ ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ห่างจากเกาะสมุยไปทางใต้ราว ๒กิโลเมตรได้พัฒนาปรับปรุง บูรณะให้เป็นวัดที่ร่มรื่นสวยงาม ประกอบกับในช่วงที่ท่านมาจำนำพรรษา ก็เกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติไต้ฝุ่นพริกที่แหลมตะลุมพุก เมื่อมาจำพรรษาที่เกาะแตน ท่านได้รับการอุปัฏฐากจากนายชุ่มพล พูนผล พ่อของผู้ใหญ่ทวี พูนผลมาตลอดจนนายชุ่มเสียชีวิตลง ก็มีผู้ใหญ่ทวี ลูกชายมาดูแล หลังจากผู้ใหญ่ทวี คุณขนบ -คุณระเบียบ วิริยานนท์ได้เสียชีวิตลง ก็มีคุณสุรพงษ์ วิริยานนท์ และนายแพทย์ที วิริยานนท์เป็นผู้ดูแลปรนนิบัติหลวงปู่เห็นชอบมาโดยตลอด



                 หลวงปู่เห็นชอบได้พยายามพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งปฏิบัติธรรมและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ท่านได้สร้างกุฏิไว้ ๗-๘หลัง สร้างศาลา หอฉัน หอสมุด และศิษยานุศิษย์ของท่านยังได้ร่วมมือร่วมใจกันสร้างถังเก็บน้ำฝน นำไก่ป่ามาปล่อยในบริเวณเกาะให้เป็นธรรมชาติ มีศิษย์จากชลบุรี กรุงเทพฯและเกาะสมุยต่างมาเยี่ยมเยียน จัดกฐิน ผ้าป่ามาทอดเป็นประจำทุกปี อาทิ คุณนิยม ใจซื่อ คุณลออ บุญสา เสธทวี จุลทรัพย์ พลเอกธีรเดช มีเพียร และยังมีนักศึกษาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยมาปฏิบัติธรรมทุกปี คณะละ ๔๐ คน

                 ขณะที่หลวงปู่เห็นชอบ สตฺตธโน เป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ่อม่วง(เกาะแตน) นั้น ท่านได้เข้ามารักษาการเจ้าอาวาสวัดหน้าถ้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี วัดแหลมเขาเล บริเวณบ้านทะเลและวัดแหลมสอ อ.เกาะสมุย ก็ไปมาอยู่บ้าง ท่านได้เผยแผ่ธรรมะ โดยเทศน์ให้พุทธศาสนิกชนชาวเกาะสมุยฟังอยู่เป็นประจำ

           ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๐-๒๕๔๙ เป็นระยะเวลา ๔๙ ปี ที่หลวงปู่เห็นชอบจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์บ่อม่วง(เกาะแตน) ด้วยสภาวะร่างกายของท่านไม่แข็งแรงอายุมากขึ้น ญาติโยมและศิษยานุศิษย์อยากให้ท่านกลับมาจำนำพรรษาที่บ้านเกิด จังหวัดชลบุรี









  
          ช่วงก่อนเข้าพรรษา ปีพ.ศ. ๒๕๔๙ ท่านได้เดินทางกลับมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ธุดงคสถานชั้นยอด สาขาวัดปาลิไลยวัน ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยการอุปัฏฐากจากญาติโยมและศิษยานุศิษย์อย่างใกล้ชิด ท่านเป็นพระป่าสายปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มีความมุ่งมั่นเคร่งครัดพระธรรมวินัยยิ่ง ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนและมีปณิธานแน่วแน่ว่า “ไม่สึก บวชจนตลอด ถือศีลอย่างเคร่งครัด ฉันมื้อเดียวตลอด”