ทยา ทีปสุวรรณ ยุติบทบาทร่วมม็อบ หลังถูกคุกคามกระทบครอบครัว รายงาน มติชนออนไลน์
มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 8 มีนาคม 2557
ประกาศลั่น "เว้นวรรคทางการเมือง" เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ "อีฟ" ทยา ทีปสุวรรณ หนึ่งในแกนนำ
คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือ กปปส. โดยประกาศผ่านการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว
"Taya Teepsuwan" ซึ่งมีข้อความระบุว่า
"จากเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ด้วยอาวุธสงครามที่บ้านเขาใหญ่ของคุณแม่ ที่บ้านพักและการคุกคาม
โรงเรียนศรีวิกรม์ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการกระทำของดิฉัน ดิฉันเสียใจ
ต่อผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด และมีความกังวลใจต่อความปลอดภัยของบุคคลรอบข้างเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ได้ใช้เวลาทบทวนทุกอย่างแล้ว จึงขอตัดสินใจที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการเว้นวรรค
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการปกป้องคุณแม่และบุคคลรอบข้าง
โดยเฉพาะเด็กนักเรียนจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้"
อย่างไรก็ตาม นางทยาปฏิเสธการให้สัมภาษณ์และไม่มีข้อชี้แจงกับสื่อแต่อย่างใด โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า
ตนตัดสินใจแล้วตามที่ได้โพสต์ข้อความและชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก
อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุที่เกิดการคุกคามดังกล่าวขึ้นนั้น เริ่มจากการที่นางทยา พร้อมด้วยสามีคือ
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.ได้เป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท โดยมีการ
เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวผ่านทางสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แม้ว่า "คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์" มารดาของนางทยา จะยกหูต่อสายตรงไปยังคุณหญิงพจมาน ทันทีที่
เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพื่อขอโทษกับการกระทำของลูกสาวตนเอง และได้ตำหนินางทยาและ
นายณัฏฐพลไปแล้วว่า การกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม
แม้ว่าคุณหญิงพจมานจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็ยังมิวายเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในเวลากลางดึกของ
วันที่ 1 มีนาคม เมื่อมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
ใช้อาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปในบ้านพักของคุณหญิงศศิมากว่า 100 นัด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะคล้ายกัน โดยมีคนร้ายปาระเบิดไปป์ใส่บ้านของนางทยา
ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นการถูกคุกคามอย่างหนักและต่อเนื่องสำหรับแกนนำ กปปส.
ขณะที่นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ผู้เป็นพี่ชายของทยาเอง ออกมาเปิดเผยว่า
ตนไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของน้องสาวและน้องเขยเท่าไรนัก และได้เคยตักเตือนน้องสาวก่อนที่ กปปส.จะเริ่ม
เคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง โดยตักเตือนนางทยา เพราะเห็นว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อน
เกรงจะเป็นเหยื่อการเมือง แต่นางทยาและสามีไม่ฟังใคร จึงมาเป็นแกนนำ กปปส.เต็มตัว จากนั้นนายพิมลก็
ไม่ได้คุยกับนางทยาอีกเลย
หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่บ้านพักของคุณหญิงศศิมา นางทยาก็ยังคงเคลื่อนไหวในฐานะแกนนำ กปปส.
เช่นเดิม โดยมีการให้กำลังใจจากมวลชนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่แกนนำด้วยกันเองอย่าง "ตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร"
ที่ประสบภาวะปัญหาเช่นเดียวกันกับนางทยา โดย น.ส.จิตภัสร์ได้มีการถามไถ่และให้กำลังใจกับนางทยาด้วย
ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของผู้ถูกกระทำซึ่งทางนางทยาเองก็ยอมรับว่า สภาพร่างกายและจิตใจ
ตอนนี้ของตนยังไหวอยู่ คนรอบข้างทุกคนเข้าใจตนเองดี ยกเว้นแต่พี่ชายคือนายพิมลเท่านั้น!
จะเห็นได้ชัดเจนว่าความเห็นต่างทางการเมืองของสองพี่น้องซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันนั้น ไม่จำเป็นต้องมีจุดยืน
ทางการเมืองเช่นเดียวกัน ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่าง "พุทธิพงษ์-ดนุพร ปุณณกันต์" เป็นต้น
แต่การถูกคุกคามด้วยความรุนแรงยังไม่จบสิ้น เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา มีคนร้ายปาระเบิดเอ็ม
79 และเอ 2 เข้าในบ้านพักเขตคลองเตยที่บ้านของนางทยาและนายณัฏฐพลอีกครั้ง แต่โชคดีที่บ้านของนางทยา
ได้มีการนำตาข่ายมากั้นเอาไว้ ทำให้ระเบิดนั้นไม่สามรถเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สันนิษฐาน
ในเบื้องต้นว่าเป็นการข่มขู่ของคนร้าย และสาเหตุอาจมาจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของทั้งสองคน
ซึ่งโดยรวมแล้วมีเหตุการณ์ความรุนแรง 2 ครั้ง ที่ตัวของนางทยาถูกคุกคามเอง และคนในครอบครัวผู้ใกล้ชิดของ
นางทยา คือคุณหญิงศศิมาถูกคุกคามอีก 1 ครั้ง รวมเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหมด 3 ครั้ง ที่เกิดขึ้นกับนางทยา
จนเป็นเหตุให้นางทยาต้องออกมาประกาศ "เว้นวรรคทางการเมือง" ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้นางทยา
ระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุดครั้งหนึ่ง
"เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุดค่ะ แต่ชีวิตไม่ได้เป็นของเราคนเดียว หากคุณแม่หรือเด็กๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องถูก
ทำร้ายเพราะเราเป็นต้นเหตุ เราคงให้อภัยตัวเองไม่ได้เหมือนกัน กราบขอโทษมวลมหาประชาชน และนักสู้ทุกคน
คุณณัฏฐพลยังคงถวายชีวิตต่อการต่อสู้ครั้งนี้ ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ลุงกำนัน แกนนำทุกคน และมวลมหาประชาชน
ทุกชีวิตนำชัยชนะมาให้ประเทศชาติให้จงได้ ดีใจและภูมิใจที่สุดในชีวิตที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ค่ะ"
และประโยคล่าสุดที่ทยาโพสต์ อีกครั้งโดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอโทษหากทำให้หลายคน
ต้องผิดหวังจากการตัดสินใจครั้งนี้
เป็นอีกข้อความหนึ่งของนางทยาได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว และยังมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้
กำลังใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของนางทยาเป็นจำนวนมาก
หากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกันในระดับแกนนำ กปปส.อย่าง "ตั๊น จิตภัสร์" และ "อีฟ ทยา"
ซึ่งทาง น.ส.จิตภัสร์เองก็ถูกคุกความด้วยความรุนแรงเช่นเดียวกับนางทยา แต่ น.ส.จิตภัสร์ก็ยังเลือกที่จะเดินหน้า
เคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป ต่างจากนางทยาที่กลับเลือกการ "เว้นวรรคทางการเมือง" เพื่อความปลอดภัยของ
เด็กนักเรียนในโรงเรียนศรีวิกรม์ที่อาจจะตกเป็นเป้าหมายความรุนแรงทางการเมือง และเลือกที่จะเว้นวรรคเพื่อ
ความปลอดภัยของคนในครอบครัว
แต่นี่ก็เป็นแค่การเว้นวรรคการทางการเมืองเท่านั้น มิใช่การ "ยุติบทบาททางการเมือง" แต่อย่างใด ในวันข้างหน้า
เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อาจเห็นนางทยากลับมาอีกครั้งในบทบาท "ผู้หญิงทางการเมือง"
อีกครั้ง
ร่วมคลิกไลค์แฟนเพจมติชนออนไลน์ได้ที่ http://www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394269715&grpid=&catid=02&subcatid=0200
บทบาทของ คุณทยา ... สำหรับการเป่านกหวีด ไล่ล่า คุณหญิงพจมาน ถือว่าก้าวร้าว
ล่วงละเมิดสิทธิมนุษย์ชนค่ะ ไม่บ้าเลือด ไม่มีใครเขาทำกันหรอก
คุณเธอ ... จึงถูกโต้ตอบ ด้วย ลูกระเบิด ก่อนหน้านี้ คนก็ไม่ค่อยจะรู้จัก คุณเธอ สักเท่าไหร่
ขนาด คนไม่ค่อย รู้จัก พี่ชาย ก็เตือนแล้ว เมื่อทำตัวเองให้ดัง ผลลัพธ์ จีงทำให้ต้องเว้นวรรค
หาก อยากจะดัง จริงๆ ต้องลุยไปข้างหน้า ไม่ยึดติดกับญาติ พี่น้อง ค่ะ ทำแบบนี้ ยังไม่แน่จริง..
หยุดไปเลยดีกว่า ... อย่าแค่เว้นวรรค เพราะทีทำไป ก็ไม่ได้น่าสรรเสริญ ถือว่า วุฒิภาวะ
ทางอารมณ์ ไม่ถึงขั้นนะ ....
อ้อ ...แกนนำใหญ่ แบบ "เทพเทือก" คุยโว .....
"ขณะเดียวกัน นายสุเทพ ยังได้กล่าวถึง กรณี นางทยา ทีปสุวรรณ ที่ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวกับ กปปส.
ว่า เรื่องนี้ขอบอกว่า ตนเป็นคนให้คำปรึกษากับนางทยาเอง ว่าให้ยุติบทบาท เพราะหลังจาก นางทยา ไปเป่านกหวีด
ไล่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ก็ได้ถูกคุกคามมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ ตนจึงแนะนำให้หยุดบทบาท เพราะนางทยา
ต้องดูแลลูกอีก 3 คน."
http://www.thairath.co.th/content/pol/408584
จะยกให้เป็น "วีระสตรี" กันหรือเปล่า ถามแฟนคลับ กปปส. สถานะการณ์แบบนี้
ใครจะยกย่อง บ้าง "ใจกล้า หน้า .... " เป่านกหวีด ไล่ล่า กระทั่ง คุณแม่ต้อง
ออกมาขอโทษ ... คนดี เขาทำกันแบบนี้ นี่เอง
ทยา ทีปสุวรรณ ยุติบทบาทร่วมม็อบ หลังถูกคุกคามกระทบครอบครัว รายงาน มติชนออนไลน์
มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 8 มีนาคม 2557
ประกาศลั่น "เว้นวรรคทางการเมือง" เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ "อีฟ" ทยา ทีปสุวรรณ หนึ่งในแกนนำ
คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือ กปปส. โดยประกาศผ่านการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว
"Taya Teepsuwan" ซึ่งมีข้อความระบุว่า
"จากเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ด้วยอาวุธสงครามที่บ้านเขาใหญ่ของคุณแม่ ที่บ้านพักและการคุกคาม
โรงเรียนศรีวิกรม์ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการกระทำของดิฉัน ดิฉันเสียใจ
ต่อผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด และมีความกังวลใจต่อความปลอดภัยของบุคคลรอบข้างเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ได้ใช้เวลาทบทวนทุกอย่างแล้ว จึงขอตัดสินใจที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการเว้นวรรค
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการปกป้องคุณแม่และบุคคลรอบข้าง
โดยเฉพาะเด็กนักเรียนจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้"
อย่างไรก็ตาม นางทยาปฏิเสธการให้สัมภาษณ์และไม่มีข้อชี้แจงกับสื่อแต่อย่างใด โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า
ตนตัดสินใจแล้วตามที่ได้โพสต์ข้อความและชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก
อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุที่เกิดการคุกคามดังกล่าวขึ้นนั้น เริ่มจากการที่นางทยา พร้อมด้วยสามีคือ
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส.ได้เป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท โดยมีการ
เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวผ่านทางสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แม้ว่า "คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์" มารดาของนางทยา จะยกหูต่อสายตรงไปยังคุณหญิงพจมาน ทันทีที่
เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพื่อขอโทษกับการกระทำของลูกสาวตนเอง และได้ตำหนินางทยาและ
นายณัฏฐพลไปแล้วว่า การกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม
แม้ว่าคุณหญิงพจมานจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็ยังมิวายเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในเวลากลางดึกของ
วันที่ 1 มีนาคม เมื่อมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
ใช้อาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปในบ้านพักของคุณหญิงศศิมากว่า 100 นัด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะคล้ายกัน โดยมีคนร้ายปาระเบิดไปป์ใส่บ้านของนางทยา
ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นการถูกคุกคามอย่างหนักและต่อเนื่องสำหรับแกนนำ กปปส.
ขณะที่นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ผู้เป็นพี่ชายของทยาเอง ออกมาเปิดเผยว่า
ตนไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของน้องสาวและน้องเขยเท่าไรนัก และได้เคยตักเตือนน้องสาวก่อนที่ กปปส.จะเริ่ม
เคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง โดยตักเตือนนางทยา เพราะเห็นว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อน
เกรงจะเป็นเหยื่อการเมือง แต่นางทยาและสามีไม่ฟังใคร จึงมาเป็นแกนนำ กปปส.เต็มตัว จากนั้นนายพิมลก็
ไม่ได้คุยกับนางทยาอีกเลย
หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่บ้านพักของคุณหญิงศศิมา นางทยาก็ยังคงเคลื่อนไหวในฐานะแกนนำ กปปส.
เช่นเดิม โดยมีการให้กำลังใจจากมวลชนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่แกนนำด้วยกันเองอย่าง "ตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร"
ที่ประสบภาวะปัญหาเช่นเดียวกันกับนางทยา โดย น.ส.จิตภัสร์ได้มีการถามไถ่และให้กำลังใจกับนางทยาด้วย
ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของผู้ถูกกระทำซึ่งทางนางทยาเองก็ยอมรับว่า สภาพร่างกายและจิตใจ
ตอนนี้ของตนยังไหวอยู่ คนรอบข้างทุกคนเข้าใจตนเองดี ยกเว้นแต่พี่ชายคือนายพิมลเท่านั้น!
จะเห็นได้ชัดเจนว่าความเห็นต่างทางการเมืองของสองพี่น้องซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันนั้น ไม่จำเป็นต้องมีจุดยืน
ทางการเมืองเช่นเดียวกัน ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่าง "พุทธิพงษ์-ดนุพร ปุณณกันต์" เป็นต้น
แต่การถูกคุกคามด้วยความรุนแรงยังไม่จบสิ้น เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา มีคนร้ายปาระเบิดเอ็ม
79 และเอ 2 เข้าในบ้านพักเขตคลองเตยที่บ้านของนางทยาและนายณัฏฐพลอีกครั้ง แต่โชคดีที่บ้านของนางทยา
ได้มีการนำตาข่ายมากั้นเอาไว้ ทำให้ระเบิดนั้นไม่สามรถเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สันนิษฐาน
ในเบื้องต้นว่าเป็นการข่มขู่ของคนร้าย และสาเหตุอาจมาจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของทั้งสองคน
ซึ่งโดยรวมแล้วมีเหตุการณ์ความรุนแรง 2 ครั้ง ที่ตัวของนางทยาถูกคุกคามเอง และคนในครอบครัวผู้ใกล้ชิดของ
นางทยา คือคุณหญิงศศิมาถูกคุกคามอีก 1 ครั้ง รวมเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหมด 3 ครั้ง ที่เกิดขึ้นกับนางทยา
จนเป็นเหตุให้นางทยาต้องออกมาประกาศ "เว้นวรรคทางการเมือง" ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้นางทยา
ระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุดครั้งหนึ่ง
"เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุดค่ะ แต่ชีวิตไม่ได้เป็นของเราคนเดียว หากคุณแม่หรือเด็กๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องถูก
ทำร้ายเพราะเราเป็นต้นเหตุ เราคงให้อภัยตัวเองไม่ได้เหมือนกัน กราบขอโทษมวลมหาประชาชน และนักสู้ทุกคน
คุณณัฏฐพลยังคงถวายชีวิตต่อการต่อสู้ครั้งนี้ ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ลุงกำนัน แกนนำทุกคน และมวลมหาประชาชน
ทุกชีวิตนำชัยชนะมาให้ประเทศชาติให้จงได้ ดีใจและภูมิใจที่สุดในชีวิตที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ค่ะ"
และประโยคล่าสุดที่ทยาโพสต์ อีกครั้งโดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอโทษหากทำให้หลายคน
ต้องผิดหวังจากการตัดสินใจครั้งนี้
เป็นอีกข้อความหนึ่งของนางทยาได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว และยังมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้
กำลังใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของนางทยาเป็นจำนวนมาก
หากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายกันในระดับแกนนำ กปปส.อย่าง "ตั๊น จิตภัสร์" และ "อีฟ ทยา"
ซึ่งทาง น.ส.จิตภัสร์เองก็ถูกคุกความด้วยความรุนแรงเช่นเดียวกับนางทยา แต่ น.ส.จิตภัสร์ก็ยังเลือกที่จะเดินหน้า
เคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป ต่างจากนางทยาที่กลับเลือกการ "เว้นวรรคทางการเมือง" เพื่อความปลอดภัยของ
เด็กนักเรียนในโรงเรียนศรีวิกรม์ที่อาจจะตกเป็นเป้าหมายความรุนแรงทางการเมือง และเลือกที่จะเว้นวรรคเพื่อ
ความปลอดภัยของคนในครอบครัว
แต่นี่ก็เป็นแค่การเว้นวรรคการทางการเมืองเท่านั้น มิใช่การ "ยุติบทบาททางการเมือง" แต่อย่างใด ในวันข้างหน้า
เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อาจเห็นนางทยากลับมาอีกครั้งในบทบาท "ผู้หญิงทางการเมือง"
อีกครั้ง
ร่วมคลิกไลค์แฟนเพจมติชนออนไลน์ได้ที่ http://www.facebook.com/MatichonOnline
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394269715&grpid=&catid=02&subcatid=0200
บทบาทของ คุณทยา ... สำหรับการเป่านกหวีด ไล่ล่า คุณหญิงพจมาน ถือว่าก้าวร้าว
ล่วงละเมิดสิทธิมนุษย์ชนค่ะ ไม่บ้าเลือด ไม่มีใครเขาทำกันหรอก
คุณเธอ ... จึงถูกโต้ตอบ ด้วย ลูกระเบิด ก่อนหน้านี้ คนก็ไม่ค่อยจะรู้จัก คุณเธอ สักเท่าไหร่
ขนาด คนไม่ค่อย รู้จัก พี่ชาย ก็เตือนแล้ว เมื่อทำตัวเองให้ดัง ผลลัพธ์ จีงทำให้ต้องเว้นวรรค
หาก อยากจะดัง จริงๆ ต้องลุยไปข้างหน้า ไม่ยึดติดกับญาติ พี่น้อง ค่ะ ทำแบบนี้ ยังไม่แน่จริง..
หยุดไปเลยดีกว่า ... อย่าแค่เว้นวรรค เพราะทีทำไป ก็ไม่ได้น่าสรรเสริญ ถือว่า วุฒิภาวะ
ทางอารมณ์ ไม่ถึงขั้นนะ ....
อ้อ ...แกนนำใหญ่ แบบ "เทพเทือก" คุยโว .....
"ขณะเดียวกัน นายสุเทพ ยังได้กล่าวถึง กรณี นางทยา ทีปสุวรรณ ที่ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวกับ กปปส.
ว่า เรื่องนี้ขอบอกว่า ตนเป็นคนให้คำปรึกษากับนางทยาเอง ว่าให้ยุติบทบาท เพราะหลังจาก นางทยา ไปเป่านกหวีด
ไล่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ก็ได้ถูกคุกคามมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ ตนจึงแนะนำให้หยุดบทบาท เพราะนางทยา
ต้องดูแลลูกอีก 3 คน."
http://www.thairath.co.th/content/pol/408584
จะยกให้เป็น "วีระสตรี" กันหรือเปล่า ถามแฟนคลับ กปปส. สถานะการณ์แบบนี้
ใครจะยกย่อง บ้าง "ใจกล้า หน้า .... " เป่านกหวีด ไล่ล่า กระทั่ง คุณแม่ต้อง
ออกมาขอโทษ ... คนดี เขาทำกันแบบนี้ นี่เอง