ประสบการณ์ครั้งแรกกับเครื่องสำอางเคาท์เตอร์แบรนด์ที่ Central Rama 3..ถึงมีเงินก็ซื้อ.....ไม่ได้.....

  ....สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราอยากได้เครื่องสำอางค์เคาท์เตอร์แบรนด์ในเมืองไทย ปกติเราอยู่ต่างประเทศค่ะ เป็นประเทศเล็กๆ ที่เครื่องสำอางค์และน้ำหอมปลอดภาษี แต่ไม่มีแบรนด์ที่เราอยากได้ ปีนี้พอช่วงที่กลับมาเที่ยวเมืองไทย เลยอยากเข้าไปซื้อดูบ้าง

..........เริ่มเลยคือ วันนี้แต่งตัวง่ายๆ เสื้อกล้ามลายดอกอาร์ตๆ กางเกงยีนส์ขายาว กับรองเท้าผ้าใบลำลอง สะพายกระเป๋าสายยาวๆที่ไหล่ (ตอนแรกเราคิดว่าเป็นเพราะการแต่งกายเราหรือเปล่า แล้วก็คิดว่า มันเกี่ยวด้วยหรอ คนทั่วไปก็ใส่กัน หรือว่ามันดูไม่หรูพอ) ไปถึงห้างเซ็นทรัลพระรามสาม เราไปซื้อชาเขียวมะลิแก้วพลาสติกที่ชั้นใต้ดินดื่มด้วยเพราะหิวน้ำ แล้วเดินเข้าฝั่งเครื่องสำอาง เดินดูดชาเขียวไปเรื่อยๆ จนเจอแบรนด์ Laura Mercier เราอยากได้แป้งพัฟผสมรองพื้นดีๆสักตลับ เพราะพรุ่งนี้เราจะไปกินข้าวมื้อค่ำกันกับแฟนก่อนเราจะบินกลับค่ะ หาข้อมูลมาสักพัก มีคนบอกว่าแป้งของที่นี่ดี ก็เลยเดินเข้าไปหาด้วยความสนใจ เจอพี่BA ยืนอยู่ ข้างหน้า แต่คงไม่เห็นเรา เพราะเราเดินเฉียงมาข้างๆ ดูผลิตภัณฑ์รอบๆ บอกตามตรง เราอ่านในพันทิปได้ยินเรื่อง BA มาหลายกระทู้ เราก็กลัวนะ เลยพยายามค่อยๆเข้าไปดูก่อน สักพักพี่ BAหันมาเห็นเรายืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ตรงที่ตัวอย่างเครื่องสำอางต่างๆ เราก็เลยถาม
เรา : ขอโทษนะคะ แป้ง (ชี้ตรงที่ตัวอย่างแป้งต่างๆ) อัดแข็งตรงนี้ต่างกันอย่างไรบ้างคะ พี่
พี่  BA : ตัวนี้จะเป็นแป้งโปร่งใส ไม่มีสีค่ะ ให้ความรู้สึกบางเบา ส่วนตัวนี้จะผสมรองพื้นค่ะ ปกปิดและควบคุมความมันน่ะค่ะ
เรา : ขอโทษนะคะ ขอลองหน่อยได้ไหมคะ จากนั้น พี่BA บอกว่าได้ค่ะ แล้วหยิบฟองน้ำสามเหลี่ยมเล็กๆตรงถาดลอง แตะแป้งเบอร์ 03 ขึ้นมาแตะแก้มเรา (เอ๊ะ ฟองน้ำสามเหลี่ยมนี่ใช้ลงรองพื้นหรือเปล่าคะ เรางงๆที่พี่เขาเอามาแตะๆแป้งลงหน้าเรา เราความรู้เครื่องสำอางน้อย ไม่กล้าถาม ไม่เคยรู้ว่าใช้แตะแป้งมาทาด้วยได้ไหม) แล้วพี่เขาก็แตะๆทาเบอร์ 03 ให้เราครึ่งหน้าด้านขวา ตรงแก้มกะคางค่ะ โดยที่เรายืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์แบบนั้นแหละค่ะ
พี่  BA : น้องชอบแบบให้หน้าสว่างหรือเปล่าคะ งั้นก็ต้องเป็นเบอร์ 02 ทาแล้วจะขาวกว่าหน่อย แต่เบอร์ 03 จะเป็นธรรมชาติ; แล้วพี่เขาก็เอาฟองน้ำสามเหลี่ยมอันเดิม แตะแป้งเบอร์ 02 มาทาหน้าซีกซ้าย ตรงแก้มกะคางเหมือนกัน แถมตรงเหนือคิ้วฝั่งนี้หน่อยนึงเพราะผมเราเป็นหน้าม้าปัด เห็นหน้าผากหน่อยนึงฝั่งนี้
เรา : อือม พี่มีกระจกถือให้หนูส่องใกล้ๆไหมคะ (คือกระจกตรงตัวอย่างเครื่องสำอางมันแคบ มันติดระยะห่างระหว่างถาดเครื่องสำอางด้วย เรามองไม่ถนัด) พี่ BA : เดินเข้าไปส่องด้านในได้เลยค่ะ (คือข้างในมีกระจกบานใหญ่กว่าติดผนัง เราเดินเข้าไปส่องเอง โอเค ตอนนี้เราเดินเข้ามาส่องแล้ว เราชอบหน้าด้านขวาเบอร์ 03 มากกว่า)
เรา : พี่คะ หนูชอบเบอร์ 03 มากกว่า พี่ช่วยลงแป้งให้หนูทดลองทั่วๆได้ไหมคะ (คือ วันนี้เราทาแป้งพัฟผสมรองพื้น ปัดแก้มนิดนึง กับทาลิปสติกบางๆมา ไม่ได้ลงครีม รองพื้นหรืออะไรเลย เพราะคิดว่าอยากแต่งง่ายๆ เวลาไปลองแล้ว คงจะลองได้สะดวกดี แต่งได้สะดวก ง่ายต่อการเช็ดเครื่องสำอาง ซึ่งพี่เขาก็ทาแป้งทับอะไรทุกอย่างเรามาตั้งแต่แรกแล้ว เราคิดว่า มันลองแบบนี้หรอ เราไม่รู้ เราไม่เคยลองมาก่อนตอบตัวเองไม่ได้)
พี่  BA : ก็พี่ลงให้น้องดูอย่างละครึ่งหน้าก่อนน่ะค่ะ ถ้าน้องชอบอันไหน น้องค่อยบอกพี่ พี่ถึงจะค่อยลงให้ทั่วๆ
เรา : เอ่อออ..ค่ะ ๆ หนูชอบเบอร์ 03 ค่ะพี่ ; แล้วเราก็เดินออกไปยืนหน้าเคาท์เตอร์ตรงตัวอย่างเครื่องสำอางที่เดิมที่พี่เขายืนรอเราอยู่ ยืนลองแป้งเบอร์ 03 โดยที่พี่เขาเอาฟองน้ำสามเหลี่ยมอันเดิมแตะแป้งขึ้นมา ทาหน้าซีกซ้ายเรา ทับแป้งเบอร์ 02 ไม่มีการเช็ด ล้าง หรืออะไร  (เราเงิบไปนิดนึงค่ะ เรานึกว่าพี่เขาจะมีเทคนิค แนะนำในการลองอะไร ตอนแรกเราคิดว่า เราจะได้นั่งลองทาดีๆ ให้ทั่วๆ เราอาจจะเข้าใจผิดไปเอง) เรารู้สึกได้ว่า ฟองน้ำโดนแค่แก้มเราซะส่วนใหญ่ กับคาง ตรงช่วงหน้าผากเรา แตะน้อยมาก คงเพราะไม่อยากยุ่งหน้าม้าเรา เราว่าเราลงแป้งเองแบบความรู้ง่อยๆ ยังพยายามดูทั่วๆกว่าอีกนะ  

...........พอมือพี่หยุดแตะ เราก็เดินกลับเข้าไปดูกระจกด้านใน เรามองหน้าตัวเองแล้วรู้สึกเงียบๆว่า นี่หรอ คือแป้งราคาแพง มันก็เนียนนะ แต่อือมมม..เราควรจะซื้อดีไหม  เราเริ่มไม่อยากซื้อแล้ว แต่อีกใจก็บอกว่า เอาน่า พรุ่งนี้แต่งไปสวยๆเถอะ ลองแป้งใหม่ในห้างดู ในเน็ตบอกว่าแป้งเขาดีนะ เราเอามาใส่ใจลงเอง มันอาจจะดีก็ได้
พี่  BA : เป็นยังไงคะ ตัวนี้
เราา : (เราค่อยๆเดินออกมาจากกระจกด้านใน) เอาแป้งนี้อันนึงค่ะ ; แล้วเราก็ออกมายืนที่เดิมเหมือนเดิม
พี่ BA : เอาอะไรอย่างอื่นเพิ่มอีกไหมคะ เราตอบว่า ไม่ค่ะ แค่แป้งอันเดียวค่ะ
พี่  BA : มีบัตร The One Card ไหมคะ ถ้ามี 40 คะแนน จะลดได้ 10 % ค่ะ
เรา : เดี๋ยวดูก่อนนะคะ ; เราเปิดกระเป๋าดูแล้วมี ก็หยิบยื่นให้พี่เขา
พี่ BA : ต้องเดินไปแลกที่ตรงเคาท์เตอร์แลกคะแนนนะคะ เอาบัตรคะแนนมาถึงใช้ได้ (เราจึงถามพี่เขาว่าแลกตรงไหน พี่เขาบอกว่าตรงที่ขายกระเป๋า เดินเข้าไป ให้เราไปแลก แล้วค่อยกลับมา เราก็เดินเข้าไปแลกบัตรคะแนนมา เดินกลับมาให้พี่เขาที่เดิม)   พี่ BA : ทำบัตรสมาชิกของ Laura Mercier ไหมคะ
เรา : (รู้สึก ไม่อยากทำอะไรแล้ว คงจะเป็นแป้งตลับแรกและสุดท้ายจากคุณ บัตรคงไม่จำเป็นสำหรับเรา ระหว่างการบริการ เราเป็นคนตัวเล็กอยู่แล้ว ยิ่งรู้สึกตัวเล็กเข้าไปใหญ่) เอ่อ ไม่อ่... (อยากพูดว่า ไม่อ่าค่ะพี่)
พี่  BA : สมัครฟรีนะคะ ไม่ต้องเสียเงิน ไว้เก็บคะแนน
เราา : - * -""  เลยถามไปว่า มีเงื่อนไขการใช้อย่างไรคะ.. เพราะเราไม่ได้อยากรู้ค่ะว่าเสียเงินหรือไม่ ถ้าสมัครแล้วบริการคุณดี ต่อให้เสียเงิน เราก็ยอมสมัครค่ะ เงินมันไม่ได้เป็นปัญหา แล้วพี่เขาก็อธิบายว่าซื้อครบทุก 25 บาทรับคะแนน 1 คะแนน ครบ 60 แลกสิทธิ์แต่งหน้า บลาๆๆ.. เราก็ อือม สมัครก็ได้ แต่ใจคิดว่า คงไม่ได้ใช้ค่ะ แล้วพี่เขาก็ฉีกกระดาษที่สมัคร เอาปากกาวางให้เราจดข้อมูล พี่เดินออกไปเอาแป้งมาให้ระหว่างเราจด เราจดที่อยู่ที่นั่นวางไว้แบบนั้น
พี่ BA : เชิญทางนี้ค่ะ ; พี่เขาถือแป้งที่เราซื้อ เปิดกล่องให้ดู มีพัฟด้านในตลับ หันหลังให้ดูเบอร์03 เอาบัตรสมาชิกให้เรา แล้วพาเราไปจ่ายเงิน ที่เคาท์เตอร์จ่ายเงิน มีรายการจ่ายของคนอื่นอยู่ พี่เขายืนรอกับเราอยู่สักครู่ คนก่อนหน้าก็ยังไม่เสร็จ ก็บอกเราว่า รบกวนรอจ่ายเงินสักครู่นะคะ แล้วพี่เขาก็เดินกลับไปเคาท์เตอร์เลย

.......................แล้วเราก็จ่ายไปค่ะ ลดจาก 1700 เหลือ 1530 โอเย่ เดินออกจากที่จ่ายเงิน ด้วยแป้งเทพตลับเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่