สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2557 09:18:56 น.
นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชียน อินซูเลเตอร์(AI) ชี้แจง การแก้ไขกำไรสุทธิสำหรับงบการเงินรวม ที่ลดลงจาก 1,121 ล้านบาท คงเหลือ 260 ล้านบาท เนื่องจากในระหว่างปี 2556 บริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนในบมจ. เอไอ เอนเนอร์จี (AIE) (บริษัทย่อย เดิมถือหุ้นจำนวน 948,354,060 หุ้นคิดเป็น 98% ภายหลังการขายหุ้น AIE ทำให้การถือหุ้นคงเหลือจำนวน 673,354,060 หุ้น คิดเป็น 59.59%) โดยเสนอขายหุ้นในวันที่ 19-24 ธันวาคม 2556 ทั้งหมด 275 ล้านหุ้นประกอบด้วยการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Pre-emptive Right) 250 ล้านหุ้น และประชาชนทั่วไป 25 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.75 บาท ทำให้บริษัทได้รับเงินหลังหักค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน 1,265 ล้านบาท เมื่อเทียบกับราคาทุนแล้วมีกำไรจากการขายเท่ากับ 861 ล้านบาท และรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย จำนวน 861 ล้านบาท ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556
งบการเงินรวมดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากบริษัท สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัดและออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่27 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ รายการการเปลี่ยนแปลงส่วนได้เสียของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ในบริษัทย่อย โดยที่ไม่ได้ทำให้บริษัทใหญ่สูญเสียอำนาจในการควบคุม
หน่วยงานราชการได้หารือกับบริษัทว่าควรบันทึกรายการดังกล่าวเป็นรายการในส่วนของผู้ถือหุ้นดังนั้นบริษัทจึงได้หารือกับผู้สอบบัญชีและปรับปรุงรายการกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยไปรับรู้ในส่วนของผุ้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ สำหรับงบการเงินรวม
ทั้งนี้การปรับปรุงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท และบริษัทยังคงจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบกิจการของบริษัท ในวันที่ 17 มีนาคม 2557 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท
AI แจงกำไรปี 56 ลดลงจากการขายเงินลงทุนบางส่วนใน AIE, ยังปันผล 2 บ./หุ้น
นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชียน อินซูเลเตอร์(AI) ชี้แจง การแก้ไขกำไรสุทธิสำหรับงบการเงินรวม ที่ลดลงจาก 1,121 ล้านบาท คงเหลือ 260 ล้านบาท เนื่องจากในระหว่างปี 2556 บริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนในบมจ. เอไอ เอนเนอร์จี (AIE) (บริษัทย่อย เดิมถือหุ้นจำนวน 948,354,060 หุ้นคิดเป็น 98% ภายหลังการขายหุ้น AIE ทำให้การถือหุ้นคงเหลือจำนวน 673,354,060 หุ้น คิดเป็น 59.59%) โดยเสนอขายหุ้นในวันที่ 19-24 ธันวาคม 2556 ทั้งหมด 275 ล้านหุ้นประกอบด้วยการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Pre-emptive Right) 250 ล้านหุ้น และประชาชนทั่วไป 25 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.75 บาท ทำให้บริษัทได้รับเงินหลังหักค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน 1,265 ล้านบาท เมื่อเทียบกับราคาทุนแล้วมีกำไรจากการขายเท่ากับ 861 ล้านบาท และรับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย จำนวน 861 ล้านบาท ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556
งบการเงินรวมดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากบริษัท สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัดและออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่27 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ รายการการเปลี่ยนแปลงส่วนได้เสียของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ในบริษัทย่อย โดยที่ไม่ได้ทำให้บริษัทใหญ่สูญเสียอำนาจในการควบคุม
หน่วยงานราชการได้หารือกับบริษัทว่าควรบันทึกรายการดังกล่าวเป็นรายการในส่วนของผู้ถือหุ้นดังนั้นบริษัทจึงได้หารือกับผู้สอบบัญชีและปรับปรุงรายการกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยไปรับรู้ในส่วนของผุ้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ สำหรับงบการเงินรวม
ทั้งนี้การปรับปรุงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท และบริษัทยังคงจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบกิจการของบริษัท ในวันที่ 17 มีนาคม 2557 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท