" ก.ล.ต. เร่งประสานงาน ตลท. ให้ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น IPO บริษัทลูก หวั่นซ้ำรอย AI ชี้ปันผลได้ แต่กระทบฐานะการเงิน "
นายธวัชชัย เกียรติกวานกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับบัญชีตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าสำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเร่งประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน เกี่ยวกับการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นบริษัทลูก ซึ่งต้องบันทึกในส่วนของผู้ถือหุ้น ไม่ใช่งบกำไรขาดทุน หลังจากมีกรณีของบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) (AI) ที่บันทึกบัญชีผิด ซึ่ง ก.ล.ต.เชื่อว่าบริษัทไม่ได้ตั้งใจ และได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว
ส่วนกรณีการจ่ายปันผลพิเศษหุ้นละ 2 บาท ซึ่ง AI เคยประกาศออกไปนั้น บริษัทฯสามารถจ่ายจากกำไรสะสมได้ แต่หากพิจารณาจากงบการเงินที่แก้ไขล่าสุด ในส่วนของงบรวม บริษัทฯมีกำไรสะสมอยู่เพียง 118 ล้านบาท ส่วนงบเดี่ยวมีกำไรสะสมประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้ว่าตามกฎหมายจะสามารถจ่ายปันผลจากกำไรสะสมในงบเดี่ยวได้ แต่ในแง่ของผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุน จะดูในส่วนของงบรวมเป็นหลัก ซึ่งในกรณีนี้จะทำให้ในงบรวมพลิกเป็นขาดทุนสะสม และกินส่วนทุน ถือว่ากระทบต่อฐานะของบริษัทฯในงบการเงิน ซึ่งผู้บริหารต้องชั่งน้ำหนักว่า จะยังคงการจ่ายปันผลหรือไม่
"การจ่ายปันผลสามารถทำได้ เพราะบริษัทฯได้เงินจากการขายหุ้น AIE เข้ามาจริง แต่ผู้บริหารก็ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะหากเอากำไรสะสมมาจ่าย ก็จะกระทบต่อฐานะการเงินในงบการเงินรวม ที่ต้องพลิกเป็นขาดทุนสะสม และกินในส่วนของผู้ถือหุ้น ตรงนี้จะสามารถตอบคำถามผู้ลงทุนได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบ้างที่บริษัทจดทะเบียนลงบัญชีผิด แต่กรณี AI ถือเป็นเคสแรก ที่มีการประกาศจ่ายปันผลพิเศษ ซึ่งในส่วนนี้ ก.ล.ต. จะเร่งประสานงานกับ ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้ข้อมูลกับบริษัทจดทะเบียนในการบันทึกชีให้ถูกต้อง และไม่สร้างความสับสนให้กับนักลงทุน" นายธวัชชัยกล่าว
ทั้งนี้ AI มีจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด 500 ล้านหุ้น ซึ่งหากจ่ายปันผลหุ้นละ 2 บาท ต้องใช้เงิน 1,000 ล้านบาท ขณะที่ในงบการเงินปี 2556 ฉบับแก้ไข ในส่วนของงบการเงินรวม บริษัทฯมีกำไรสะสมจำนวน 117.99 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 3,673.92 ล้านบาท ส่วนงบเดี่ยว มีกำไรสะสม 1,119.29 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้น 2,572.06 ล้านบาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -6 มี.ค. 57
AI ดอยอีกแล้ว
นายธวัชชัย เกียรติกวานกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับบัญชีตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าสำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเร่งประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน เกี่ยวกับการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นบริษัทลูก ซึ่งต้องบันทึกในส่วนของผู้ถือหุ้น ไม่ใช่งบกำไรขาดทุน หลังจากมีกรณีของบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) (AI) ที่บันทึกบัญชีผิด ซึ่ง ก.ล.ต.เชื่อว่าบริษัทไม่ได้ตั้งใจ และได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว
ส่วนกรณีการจ่ายปันผลพิเศษหุ้นละ 2 บาท ซึ่ง AI เคยประกาศออกไปนั้น บริษัทฯสามารถจ่ายจากกำไรสะสมได้ แต่หากพิจารณาจากงบการเงินที่แก้ไขล่าสุด ในส่วนของงบรวม บริษัทฯมีกำไรสะสมอยู่เพียง 118 ล้านบาท ส่วนงบเดี่ยวมีกำไรสะสมประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้ว่าตามกฎหมายจะสามารถจ่ายปันผลจากกำไรสะสมในงบเดี่ยวได้ แต่ในแง่ของผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุน จะดูในส่วนของงบรวมเป็นหลัก ซึ่งในกรณีนี้จะทำให้ในงบรวมพลิกเป็นขาดทุนสะสม และกินส่วนทุน ถือว่ากระทบต่อฐานะของบริษัทฯในงบการเงิน ซึ่งผู้บริหารต้องชั่งน้ำหนักว่า จะยังคงการจ่ายปันผลหรือไม่
"การจ่ายปันผลสามารถทำได้ เพราะบริษัทฯได้เงินจากการขายหุ้น AIE เข้ามาจริง แต่ผู้บริหารก็ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะหากเอากำไรสะสมมาจ่าย ก็จะกระทบต่อฐานะการเงินในงบการเงินรวม ที่ต้องพลิกเป็นขาดทุนสะสม และกินในส่วนของผู้ถือหุ้น ตรงนี้จะสามารถตอบคำถามผู้ลงทุนได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบ้างที่บริษัทจดทะเบียนลงบัญชีผิด แต่กรณี AI ถือเป็นเคสแรก ที่มีการประกาศจ่ายปันผลพิเศษ ซึ่งในส่วนนี้ ก.ล.ต. จะเร่งประสานงานกับ ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้ข้อมูลกับบริษัทจดทะเบียนในการบันทึกชีให้ถูกต้อง และไม่สร้างความสับสนให้กับนักลงทุน" นายธวัชชัยกล่าว
ทั้งนี้ AI มีจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด 500 ล้านหุ้น ซึ่งหากจ่ายปันผลหุ้นละ 2 บาท ต้องใช้เงิน 1,000 ล้านบาท ขณะที่ในงบการเงินปี 2556 ฉบับแก้ไข ในส่วนของงบการเงินรวม บริษัทฯมีกำไรสะสมจำนวน 117.99 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 3,673.92 ล้านบาท ส่วนงบเดี่ยว มีกำไรสะสม 1,119.29 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้น 2,572.06 ล้านบาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -6 มี.ค. 57