สวัสดีค่า.... กลับมาอีกแล้วสำหรับการรีวิวละครญี่ปุ่น หลังจากหายหน้าหายตาไม่นาน สำหรับการรีวิวละครญี่ปุ่นฤดูหนาวนี้ขอประเดิมเรื่องแรกด้วยเรื่องนี้ค่ะ “Kinkyu Torishirabeshitsu” (ชื่อยาวจัง) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Emergency Interrogation Room” ส่วนชื่อภาษาไทยก็มีเหมือนกัน เป็นชื่อเรื่องที่บ้าน Dark-Dramas ได้ตั้งให้ว่า “ห้องสอบสวนด่วนพิเศษ” ค่ะ


รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่คอละครญี่ปุ่นไม่ค่อยพูดถึงมากเท่าไร แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบเรื่องนี้มากที่สุดในบรรดาละครของ Season นี้เลยทีเดียว เรตติ้งก็ไม่ธรรมดาค่ะ ถ้าไม่นับรวมละครยาวต่อเนื่องเรื่อง “Aibou Season 12” กับละครไทกะเรื่อง “Gunshi Kanbei” ละครเรื่องนี้มีเรตติ้งเฉลี่ย 12.76% อยู่ลำดับที่ 3 ค่ะ รองลงมาจากเรื่อง “ S -Saigo no Keikan” และ “Ashita, Mama ga Inai” ตามลำดับ วันนี้ก็เลยอยากจะมาแนะนำซีรี่ส์เรื่องนี้มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ



เรื่องย่อ
“Kinkyu Torishirabeshitsu” เป็นเรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นจาก Makabe Yukiko  (Amami Yuki)  นักเจรจาแห่ง SIT (ทีมสืบสวนพิเศษ) แต่วันดีคืนดีกลับถูกส่งตัวย้ายไปอยู่แผนกใหม่ ซึ่งก็คือ แผนกตรวจสอบเร่งด่วน (Emergency Interrogation Department) เป็นหน่วยสืบสวนพิเศษที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันการให้การเท็จ และการทำร้ายร่างกายจากตำรวจที่มักจะใช้กำลังข่มขู่ผู้ต้องสงสัย ภายในห้องก็จะเต็มไปตรวจกล้องวงจรผิด ตำรวจไม่สามารถใช้กำลังทำร้ายผู้ต้องสงสัยได้ และคำให้การที่เคยให้ไว้ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกในชั้นศาล ในหน่วยงานนี้เพื่อนร่วมงานของ Makabe Yukiko   ล้วนเป็นผู้ชายกันหมด แต่ละคนมีเอกลักษณ์และความสามารถเฉพาะตัว งานของพวกเขาคือการใช้ความสามารถทางจิตวิทยา เพื่อเค้นความลับบางอย่างจากผู้ต้องสงสัย นำไปสู่การคลี่คลายคดีปริศนาในแต่ละคดี

เข้าเรื่องกันดีกว่า

เรื่องนี้เปิดฉากมาโดยตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งก็คือ จาก Makabe Yukiko  (Amami Yuki) ที่กำลังเจรจากับคนร้ายที่จับผู้โดยสารบนรถเมล์เป็นตัวประกัน ขอกบอกว่าฉากเปิดตัวนี่เป็นอะไรที่เท่มากๆ ตาสไตล์ผู้หญิงแกร่งตามฉบับ Amami Yuki การดำเนินเรื่องใช้เวลานำเข้าสู่ประเด็นการย้ายเข้าสู่แผนกสืบสวนใหม่ไม่มาก ถือเป็นคุณลักษณะเด่นอีกข้อที่เราเห็นกันได้ทั่วไปในซีรี่ส์ญี่ปุ่น พอเจ๊เขาเข้ามาในหน่วยสืบสวนนี่แล้ว จุดเริ่มต้นของเรื่องต่างๆ ก็เริ่มขึ้น...

มาทำความรู้จักกับตัวละครกันสักหน่อย


Makabe Yukiko รับบทโดย Amami Yuki
ตำรวจหญิงที่มีความสามารถในด้านการเจรจา และด้านจิตวิทยา เธอเป็นแม่ม่ายลูก 2 หญิงแกร่ง ผู้ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด บ้างาน เลยไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็ขอใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อลูกทั้ง 2 และค้นหาความลับการตายของสามีผู้ล่วงลับ


แก๊งสี่ใบเถา เพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ (?) ของ Makabe ได้แก่
มาที่คนแรก Kajiyama Katsutoshi รับบทโดย Tanaka Tetsushi (คนที่ 2 นับจากด้านซ้าย) คนนี้คือหัวหน้าของหนวดนี้ค่ะ
เป็นผู้ที่เรียกร้องให้ Makabe Yukiko   มาประจำหน่วยของตัวเองโดยเฉพาะ

คนที่ 2 Hishimoto Susumu รับบทโดย Denden (คนที่ถือหนังสือพิมพ์อยู่)
คนที่ 3 Nakata Zenjiro รับบทโดย Osugi Ren  (คนที่ยืนอยู่ข้างลุงถือหนังสือพิมพ์)
คนสุดท้าย Koishikawa Haruo รับบทโดย Kohinata Fumiyo (คนซ้ายสุด)
ซึ่งแต่ละคนก็จะมีบุคลิกและเอกลักษณ์ในการทำงานเฉพาะตัว ไม่อยากบอกว่าใครเจ๋งกว่าใคร เพราะทุกคนล้วนมากฝีมือในแบบของตัวเอง !

คู่ป่วนกวนโอ๊ย
สำหรับตัวละครฝ่ายปฏิปักษ์ของเรื่องนี้ก็คือ 2 คนนี้ค่ะ


Watanabe Tetsuji รับบทโดย Hayami Mokomichi หนุ่มหล่อ (หนุ่มจริงๆ) ที่พอจะมาเรียกเสียงกรี๊ดของสาวๆ ได้บ้าง
มาพร้อมกับคู่หูดูโอ้ ขวัญใจคนดูจาก Liar Game ซึ่งก็คือ Kenmotsu Daijiro รับบทโดย Suzuki Kosuke นั่นเอง
เป็นตัวละครปฏิปักษ์ที่ไม่ได้มีพิษสงร้ายแรงอะไร พวกเขาแค่ไม่ถูกกับหน่วยสืบสวนของ Makabe  
ความฮาก็จะอยู่ที่ Suzuki Kosuke ค่ะ ที่ชอบแหกปากโวยวายกับทุกสิ่ง และพฤติกรรมที่ดูตลกๆ ตามสไตล์เขาแหละค่ะ







ตัวละครคนต่อไป คือ Gouhara Masanao รับบทโดย Kusakari Masao บอสใหญ่ของกรมตำรวจนี้ค่ะ ผู้ที่สุขุมนุ่มลึก
แต่ดูเหมือนเขาเป็นคนที่คิดกำลังบางอย่างอยู่ตลอดเวลา Makabe  เหมือนเป็นคนที่เขากำลังจับจ้องอยู่
และรู้เรื่องการตายของสามีเธอเป็นอย่างดี

สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้
-    ละครสืบสวนแนวใหม่ของญี่ปุ่น ที่เน้นการดำเนินเรื่องอยู่แค่ภายในห้องสืบสวนห้องเดียว


ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกจากเรื่องอื่นๆ เลยนะคะ ที่เรื่องนี้เลือกนำเสนอเรื่องราวสืบสวนสอบสวนอยู่ในห้องสืบสวน ตอนแรกคิดว่ามันจะน่าเบื่อหรือเปล่า อยู่แค่ในห้องแคบๆ ห้องหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ไม่ถึงขนาดว่าน่าเบื่อเลยนะคะ และก็ทั้งเรื่องไม่ได้อยู่แค่ในห้องๆ นี้เพียงห้องเดียว ก็มีการออกไปสืบข้างนอกบ้างอะไรบ้าง แต่จุดไคลแม็กซ์ในแต่ละตอนจะเป็นเรื่องราวที่เน้นเฉพาะในห้องสืบสวนนี้ค่ะ ซึ่งในห้องสืบสวนก็จะเป็นอะไรที่น่าจดจ้องสุดๆ  คิดว่าเจ๊ Amami Yuki  แกเอาอยู่จริงๆ ตอนแรกของเรื่องนี้อาจจะดูซอฟ์ทๆ ไปหน่อยนึง แต่พอตอนต่อไปนี่มันสุดๆ เค้นอารมณ์กันแบบว่าให้ตายไปข้างเลย บวกกับเสียง Soundtrack ที่เปิดคลอไปด้วยในช่วงไคลแม็กซ์ดึงอารมณ์ได้มากๆ เลยค่ะ พอดูเรื่องนี้แล้วทำให้รู้ว่า...

การสอบสวนไม่ใช่แค่สืบให้รู้ว่าเวลานี้ใครทำอะไร ที่ไหน มีหลักฐานอะไรที่เราเห็นๆ กันได้ แต่มันคือการมองหาความจริงอะไรบางอย่างที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตา แต่เป็นความลับบางอย่างที่มีเพียงคนที่อยู่ตรงหน้าผู้สืบสวนเท่านั้นที่รู้

-    เรื่องของ “จิตวิทยา”


สิ่งที่ดึงดูดคนดูให้สามารถทนนั่งดูได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในห้องแคบๆ เล็กๆ แบบนี้ก็คือ “จิตวิทยา” ค่ะ บางคนอาจจะรู้สึกว่า อะไรกัน นั่งคุยกันไปมา สืบสวนกันไปมา มันจะสนุกอะไร แต่พอได้ดูก็รู้สึกว่ามันเจ๋งนะ ทำอย่างไรที่จะให้ผู้ต้องสงสัยที่เราเองก็ไม่ได้รู้จักเขาดี แต่เราต้องโน้มน้าวเขาให้คายความลับอะไรบางอย่างออกมา เช่น ตอนที่ 1 ที่ตัวเอกของเราพยายามจะเค้นให้ผู้ต้องสงสัยบอกมาว่าเอาตำรวจ 2 คน ไปซ่อนไว้ที่ไหน และวางระเบิดไว้ที่ไหน พวกเขาก็เล่นจิตวิทยาต่อกันค่ะว่า “ฉันจะบอกเธอนะ แต่ฉันจะใบ้ให้จากการตอบคำถาม 3 ข้อของเธอ” ซึ่งคำถาม 3 ข้อที่ว่าคนถามก็ต้องคิดค่ะว่าต้องถามแบบไหน ถึงจะรู้สิ่งที่เขาซ่อน รวมไปถึงพื้นหลังชีวิตของคนๆ นั้นด้วย  ส่วนในตอนอื่นๆ ก็จะออกแนวใช้จิตวิเคราะห์แบบนี้แหละค่ะ สังเกตพฤติกรรม การพูด ลักษณะการตอบคำถามอื่นๆ ว่าสื่อให้เห็นความจริงอะไรที่ซ่อนไว้ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบละครแนวจิตวิทยาค่ะ

-    “ความป่วง” ของผู้ต้องหา


ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนมาจำกัดลักษณะของผู้ต้องหาเหล่านั้นนี้ นอกจากคำว่า “ป่วง” ค่ะ เป็นศัพท์ที่มาจากคำว่า “ป่วย” ผสมกับคำว่า “งง” คือผู้ต้องหาแต่ละคนก็จะดูจิตๆ ดูเหมือนมีปัญหาทางจิตเบาๆ (เป็นธรรมดาของคนที่ก่อเหตุอาชญากรรมมา)  แต่ในขณะเดียวกันก็ดูมีสติดี พูดจารู้เรื่อง มีเหตุมีผล

บางทีก็ดูอึนๆ งงๆ กับอะไรบางอย่าง คือดูแล้วฉันไม่เข้าใจแกกกกกก

-    ความซับซ้อนของคดี
ส่วนตัวคิดว่าเดาไม่ง่ายเกินไปค่ะ บางตอนออกจะพลิกล็อคด้วยซ้ำ บางทีก็ทำให้เราเข้าใจว่าต้องเป็นคนนี้ แต่เอาจริงบทกลับหักมุมเป็นอีกคนแทนค่ะ ส่วนบางตอนที่รู้แน่ๆ ว่าเป็นใคร แต่จะหักมุมที่เหตุผลของการก่อเหตุอาชญากรรม ถือว่าพล็อตคดีก็ถือว่าเจ๋งใช้ได้เลยค่ะ

-    ปริศนาลับ
เรื่องนี้ก็จะมีปริศนาลับอันหนึ่งที่ทิ้งปมให้ติดตามไว้ตั้งแต่ตอนแรก ก็คือปริศนาของชายคนนี้ค่ะ

เขาคือสามีของ Makabe Yukiko  ที่ได้เสียชีวิตไปในขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่การตายของเขายังคงเป็นเงื่อนงำ
เธอจึงต้องคอยสืบหาความจริงที่ถูกซ่อนเอาไว้

จุดด้อย
มีหลายเสียงบอกมาว่าไม่มันส์เท่าเรื่อง BOSS แต่เราดูแล้ว รู้สึกว่ามันส์กันคนละแบบค่ะ BOSS จะมีเรื่องของบู๊มาผสมด้วย เน้นการออกสืบนอกสถานที่ Alert ตลอดเวลา แต่พอมาเรื่องนี้จะรู้สึกค่ะว่ามันนิ่งๆ นะ และเรื่องส่วนใหญ่ก็จะวนมาในฉากแต่ห้องสืบสวนสอบสวน
บางคนก็อาจจะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อที่อยู่แต่ที่เดิมๆ มีแต่ตัวละครโต้ตอบไปมา แต่เราว่าจุดเด็ดมันอยู่ตรงนี้แหละค่ะ
โชว์ความรู้ด้านจิตวิทยาแบบเต็มที่

ส่วนเจ๊ Amami ขอบอกเลยว่า...เอาอยู่ค่ะ! แต่แอบรู้สึกว่าตอนแรกของเรื่องนี้ออกจะเบาๆ ไปหน่อย
แต่พอดูไปเรื่อยๆ มันเข้มข้นขึ้นแฮะ มีอยู่ตอนหนึ่งเรตติ้งสูงขึ้นไปถึง 16% เลยทีเดียว บางตอนดูไปแล้วร้องไห้ไปด้วยค่ะ
มันซึ้ง มันทำให้เข้าใจว่า ผลสุดท้ายแล้วเหตุอาชญากรรมไม่ได้ทำให้ใครมีความสุข ถึงแม้จะได้ฆ่าคนที่เกลียด
แต่คนที่ต้องมีคนอีกหลายคน คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต้องเจ็บปวก และที่สำคัญคนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือผู้กระทำผิดค่ะ



การที่เรื่องนี้เลือกนำเสนอการสืบสวนภายในห้อง และใช้จิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง ข้อดีก็คือ มันขุดความเป็นมนุษย์ออกมาค่ะ
พอเราดูแล้วก็จะเข้าใจมุมมองของมนุษย์คนอื่นๆ มากขึ้น และที่สำคัญได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิต หรือการกระทำบางอย่าง
ที่ตอนแรกเราอาจจะไม่เข้าใจ


เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจค่ะ ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ทั้งความเศร้า ความเจ็บปวด  การสูญเสีย ความขัดแย้ง
หรือแม้แต่ความเข้าใจของมนุษย์ที่เกิดขึ้นภายในห้องแห่งนี้...

ปล. เพลงประกอบละครเพราะค่ะ ชอบบบ ชื่อเพลง "DOOR" ของ JUJU ค่ะ
http://www.dailymotion.com/video/x1cak88_juju-door_music

สุดท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราววาไรตี้เกี่ยวกับซีรี่ส์ญี่ปุ่นต่อได้ที่>>>https://www.facebook.com/sakuradramas
ขอขอบคุณซับไทยจากเพจ Dark-Dramas >>>https://www.facebook.com/FC.DarkDramas
และซับไทยจากเพจ Amami Yuki Thailand Fanclub >>>https://www.facebook.com/amamiyukithaifans