สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่าไม่เคยเขียนบล็อคนานมากแล้ว จนมาวันนึงต้องหาข้อมูลเพื่อพาคุณแม่ไปรักษาข้อเข่าเลื่อม จึงได้เริ่มค้นหาในinternetแต่ก็ยังไม่มีข้อมูลที่กระจ่างนัก เราจึงมาเขียนประสบการณ์ตรงเพื่อแชร์ให้เพื่อนๆเผื่อว่าใครมีคุณพ่อ คุณแม่หรือญาติๆที่กำลังจะผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
คุณแม่เราอายุ69ปีแล้ว เป็นคนตัวไม่ใหญ่ ไม่สูง แต่ตอนสาวๆทำงานหนักเดินมาก ทำให้ขาจะโก่งทั้ง2ข้างจนเห็นได้ชัดและข้อเข่าเสื่อม เราก็เลยเช็ครพ.อยู่หลายที่ ทั้งมีเพื่อนแนะนำให้และหาเอง เช่น รพ.ธรรมศาสตร์ ศุนย์รังสิต, รพ.จุฬา, รพ.ศิริราชและ รพ.เลิดสิน
เราเลือกรพ.เลิดสิน ซึ่งเป็นคลินิคนอกเวลา4โมง-2ทุ่ม เลือกพบอาจารย์ปิยะ(หมอกระดูก)เพราะได้ข่าวว่าอาจารย์เค้าเก่งมาก อีกอย่างที่เลือกที่นี่เพราะไม่ไกลจากบ้านมากนัก บ้านเราอยู่พระราม2ส่วนรพ.อยู่แถวๆสีลม จะง่ายต้องการมาเยี่ยมหรือมาตรวจครั้งต่อๆไป
กว่าจะได้ผ่าก็ต้องให้อ.ตรวจก่อน ไปหามา4-5รอบและกว่าจะได้คิวผ่าขอบอกว่ารอคิวอยู่3-4เดือน คุณแม่เข้ารพ.ตั้งแต่วันที่6-19มค.(รวม9วัน) ได้ผ่าวันที่10มค.2557
เตรียมตัวก่อนผ่า
- คุณหมอเค้าจะเอ๊กซเรย์ข้างทั้ง2ข้าง ทั้งด้านหน้าตรง ดานข้าง เพื่อตรวจดูรูปทรงกระดูก
- มีการตรวจเลือด เช็คสุขภาพทุกอย่างเผื่อเตรียมความพร้อม
- คุณแม่เราเข้าไปนอน(เล่น)ในรพ.เฉยๆ 4วันเต็มๆกว่าจะได้ผ่าก็วันที่5โน่น ก็ถามคุณหมอนะว่าทำไมต้องนอนรอนานจัง คุณหมอบอกว่าที่นี่เป็น รพ.รัฐบาลกลัวว่าเตียงผู้ป่วยจะไม่มี เลยให้มาเตรียมตัว อีกอย่างคนสูงอายุต้องเตรียมตัวนานหน่อย
- วันที่นัดผ่า คุณแม่เข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่8โมงเช้า ออกมาอีกทีก็บ่ายโมง ออกมาก็อ้วกยกใหญ่เพราะแพ้ยา คุณแม่เล่าให้ฟังว่าตอนผ่าท่านยังรู้ตัวอยู่ได้ยินเสียงหมอเอาเลื่อยไฟฟ้ามาจี้ๆ ตอกโป๊กๆๆแรงมากๆ เหมือนกะไม่ได้ใช้ยาสลบ แต่เป็นบล็อกหลัง
ผ่าออกมาแล้วจะเห็นว่ามีอุปกรณ์อยุ่ข้างในฟิล์มเอ็กซเรย์
- เช้าวันต่อมา ก็ยังอ้วกอยู่ อันนี้แล้วแต่คนนะว่าแพ้ยาหรือป่าว คุณป้าเตียงข้างๆผ่าออกมาไม่เห็นเป็นไรนะคะ ถามอาการคุณแม่หลังผ่ามาสดท่านบอกว่าไม่เจ็บ ไม่ปวดเลย อันนี้ก็แล้วแต่คนอีกแหละ บางคนก็ปวดมาก ปวดน้อย
- วันที่2และ3หลังผ่าตัด คุณหมอให้ลงมาหัดเดิน ด้วยwalkerเลย(ที่เป็นเหล็ก4ขา) ใช้ช่วยพยุงเดิน
- วันที่4 ให้กลับบ้านแล้วไปกายภาพต่อ ก็จะมีนักกายภาพมาสอนให้เราทำตาม ต้องดัดขาให้มันตรง ทั้งงอเข้าและต้องดัดตรงด้วย
มาถึงตรงนี้อยากรู้กันแล้วล่ะสิ ว่าเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่
บอกก่อนว่า ราคาผ่าเข่าจะมีหลายราคา ขึ้นอยู่กับ 1. รพ.เอกชนหรือรัฐบาล 2. วัสดุที่เราเลือกใช้
ของคุณแม่เราเอาวัสดุอย่างดีให้ท่านเลย จะมี3ราคา คือ 3หมื่นกว่า(อันนี้จะใส่ให้กับคนใช้บัตรทอง เพราะจะถูกหน่อย), 5หมื่นกว่า และแพงสุด83,200บาท แต่จะมีค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์การแพทย์และอีกจิปาถะ สรุปแล้วทั้งหมดค่าใช้จ่ายประมาณ 120,000บาท
ตอนนี้คุณแม่ก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว เรายังคงกดขากายภาพให้เหมือนเดิม ขอบอกว่าขาตรงเชี้ยะเลยอย่างสวยอ่ะ และเดือนพค.นี้ก็จะเข้าผ่าอีกข้าง(ซ้าย) เพราะถ้าเป็นขาโก่ง ต้องผ่า2ข้าง เพราะถ้าผ่าข้างเดียวขาจะสูงต่ำไม่เท่ากันทำให้เดินเอียง ช่วยที่กายภาพเราต้องเอารองเท้าแตะไปเสริมพื้นหนาๆให้ เพื่อจะได้เดินเสมอกัน หลังผ่าแม่สูงขึ้น10เซนติเมตร
ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณพี่ๆพยาบาลชั้น18ที่ใจดีมากๆ คอยช่วยเหลือผู้ป่วยโดยไม่รังเกียจเลยค่ะ และขอขอบคุณคุณหมอปิยะ (จำนามสกุลไม่ได้ ขออภัยนะคะ)อย่างสูงค่ะ
ถึงตอนนี้คิดไม่ผิดเลยค่ะที่พาคุณแม่มาผ่าเข่าที่นี่ เพราะเปลี่ยนชีวิตท่านอย่างมากคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากๆ แต่ก่อนจะผ่าก็เถียงกันกับลูกยกใหญ่ไปหลายรอบแล้วค่ะ เพราะคุณแม่ฟังคนอื่นไว้เยอะ ว่าผ่าแล้วจะเดินไม่ได้ จะเจ็บและไม่เหมือนเดิม......จนคุณแม่เจ็บจนทนไม่ไหวถึงจะยอมไปผ่า
ทุกวันนี้นั่งนับวันอยากผ่าอีกข้างไว้ๆ ดูคนเราก็อย่างนี้ค่ะ 10ปากว่า....เอาไว้คุณแม่ผ่าอีกข้างวันที่ 15 เดือนพค. แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ บ๊ายบายค่ะ
พาคุณแม่ไปผ่าเปลี่ยนข้อเข่า ที่รพ.เลิดสินมา เมื่อวันที่10มกราคม2557
คุณแม่เราอายุ69ปีแล้ว เป็นคนตัวไม่ใหญ่ ไม่สูง แต่ตอนสาวๆทำงานหนักเดินมาก ทำให้ขาจะโก่งทั้ง2ข้างจนเห็นได้ชัดและข้อเข่าเสื่อม เราก็เลยเช็ครพ.อยู่หลายที่ ทั้งมีเพื่อนแนะนำให้และหาเอง เช่น รพ.ธรรมศาสตร์ ศุนย์รังสิต, รพ.จุฬา, รพ.ศิริราชและ รพ.เลิดสิน
เราเลือกรพ.เลิดสิน ซึ่งเป็นคลินิคนอกเวลา4โมง-2ทุ่ม เลือกพบอาจารย์ปิยะ(หมอกระดูก)เพราะได้ข่าวว่าอาจารย์เค้าเก่งมาก อีกอย่างที่เลือกที่นี่เพราะไม่ไกลจากบ้านมากนัก บ้านเราอยู่พระราม2ส่วนรพ.อยู่แถวๆสีลม จะง่ายต้องการมาเยี่ยมหรือมาตรวจครั้งต่อๆไป
กว่าจะได้ผ่าก็ต้องให้อ.ตรวจก่อน ไปหามา4-5รอบและกว่าจะได้คิวผ่าขอบอกว่ารอคิวอยู่3-4เดือน คุณแม่เข้ารพ.ตั้งแต่วันที่6-19มค.(รวม9วัน) ได้ผ่าวันที่10มค.2557
เตรียมตัวก่อนผ่า
- คุณหมอเค้าจะเอ๊กซเรย์ข้างทั้ง2ข้าง ทั้งด้านหน้าตรง ดานข้าง เพื่อตรวจดูรูปทรงกระดูก
- มีการตรวจเลือด เช็คสุขภาพทุกอย่างเผื่อเตรียมความพร้อม
- คุณแม่เราเข้าไปนอน(เล่น)ในรพ.เฉยๆ 4วันเต็มๆกว่าจะได้ผ่าก็วันที่5โน่น ก็ถามคุณหมอนะว่าทำไมต้องนอนรอนานจัง คุณหมอบอกว่าที่นี่เป็น รพ.รัฐบาลกลัวว่าเตียงผู้ป่วยจะไม่มี เลยให้มาเตรียมตัว อีกอย่างคนสูงอายุต้องเตรียมตัวนานหน่อย
- วันที่นัดผ่า คุณแม่เข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่8โมงเช้า ออกมาอีกทีก็บ่ายโมง ออกมาก็อ้วกยกใหญ่เพราะแพ้ยา คุณแม่เล่าให้ฟังว่าตอนผ่าท่านยังรู้ตัวอยู่ได้ยินเสียงหมอเอาเลื่อยไฟฟ้ามาจี้ๆ ตอกโป๊กๆๆแรงมากๆ เหมือนกะไม่ได้ใช้ยาสลบ แต่เป็นบล็อกหลัง
ผ่าออกมาแล้วจะเห็นว่ามีอุปกรณ์อยุ่ข้างในฟิล์มเอ็กซเรย์
- เช้าวันต่อมา ก็ยังอ้วกอยู่ อันนี้แล้วแต่คนนะว่าแพ้ยาหรือป่าว คุณป้าเตียงข้างๆผ่าออกมาไม่เห็นเป็นไรนะคะ ถามอาการคุณแม่หลังผ่ามาสดท่านบอกว่าไม่เจ็บ ไม่ปวดเลย อันนี้ก็แล้วแต่คนอีกแหละ บางคนก็ปวดมาก ปวดน้อย
- วันที่2และ3หลังผ่าตัด คุณหมอให้ลงมาหัดเดิน ด้วยwalkerเลย(ที่เป็นเหล็ก4ขา) ใช้ช่วยพยุงเดิน
- วันที่4 ให้กลับบ้านแล้วไปกายภาพต่อ ก็จะมีนักกายภาพมาสอนให้เราทำตาม ต้องดัดขาให้มันตรง ทั้งงอเข้าและต้องดัดตรงด้วย
มาถึงตรงนี้อยากรู้กันแล้วล่ะสิ ว่าเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่
บอกก่อนว่า ราคาผ่าเข่าจะมีหลายราคา ขึ้นอยู่กับ 1. รพ.เอกชนหรือรัฐบาล 2. วัสดุที่เราเลือกใช้
ของคุณแม่เราเอาวัสดุอย่างดีให้ท่านเลย จะมี3ราคา คือ 3หมื่นกว่า(อันนี้จะใส่ให้กับคนใช้บัตรทอง เพราะจะถูกหน่อย), 5หมื่นกว่า และแพงสุด83,200บาท แต่จะมีค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์การแพทย์และอีกจิปาถะ สรุปแล้วทั้งหมดค่าใช้จ่ายประมาณ 120,000บาท
ตอนนี้คุณแม่ก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว เรายังคงกดขากายภาพให้เหมือนเดิม ขอบอกว่าขาตรงเชี้ยะเลยอย่างสวยอ่ะ และเดือนพค.นี้ก็จะเข้าผ่าอีกข้าง(ซ้าย) เพราะถ้าเป็นขาโก่ง ต้องผ่า2ข้าง เพราะถ้าผ่าข้างเดียวขาจะสูงต่ำไม่เท่ากันทำให้เดินเอียง ช่วยที่กายภาพเราต้องเอารองเท้าแตะไปเสริมพื้นหนาๆให้ เพื่อจะได้เดินเสมอกัน หลังผ่าแม่สูงขึ้น10เซนติเมตร
ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณพี่ๆพยาบาลชั้น18ที่ใจดีมากๆ คอยช่วยเหลือผู้ป่วยโดยไม่รังเกียจเลยค่ะ และขอขอบคุณคุณหมอปิยะ (จำนามสกุลไม่ได้ ขออภัยนะคะ)อย่างสูงค่ะ
ถึงตอนนี้คิดไม่ผิดเลยค่ะที่พาคุณแม่มาผ่าเข่าที่นี่ เพราะเปลี่ยนชีวิตท่านอย่างมากคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากๆ แต่ก่อนจะผ่าก็เถียงกันกับลูกยกใหญ่ไปหลายรอบแล้วค่ะ เพราะคุณแม่ฟังคนอื่นไว้เยอะ ว่าผ่าแล้วจะเดินไม่ได้ จะเจ็บและไม่เหมือนเดิม......จนคุณแม่เจ็บจนทนไม่ไหวถึงจะยอมไปผ่า
ทุกวันนี้นั่งนับวันอยากผ่าอีกข้างไว้ๆ ดูคนเราก็อย่างนี้ค่ะ 10ปากว่า....เอาไว้คุณแม่ผ่าอีกข้างวันที่ 15 เดือนพค. แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ บ๊ายบายค่ะ