มเหนทรา ซิเรการ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงทุนของอินโดนีเซีย
อินโดนีเซียหวังเดินหน้าชักชวนบริษัทญี่ปุ่นและยุโรป “ทิ้งการลงทุนในไทย” หนีวิกฤตความวุ่นวายทางการเมือง หวังผลักดันเศรษฐกิจแดนอิเหนาก้าวสู่ระดับโลก
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า คณะกรรมการประสานงานด้านการลงทุนของอินโดนีเซีย (ไอไอซีบี) ภายใต้การนำของมเหนทรา ซิเรการ์ เตรียมจัดคณะผู้แทนชุดใหญ่เดินสายเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน สหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรป เพื่อโปรโมท “เขตอุตสาหกรรมใหม่” ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางและทางตะวันออกของเกาะชวา ที่ทางการแดนอิเหนาหวังจะใช้รองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการหนีความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศไทย
ประธานบอร์ดไอไอซีบีของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทหลายแห่งของญี่ปุ่น กำลังมีแผนย้ายฐานการผลิตมายังอินโดนีเซีย หลังจากต้องเผชิญความเสี่ยงจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองในไทย โดยระบุ ทางรัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน เตรียมชู “จุดขาย” เรื่องความมีเสถียรภาพทางการเมืองของแดนอิเหนา เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้ “หันหลัง” ให้กับไทย และตบเท้าเข้ามาลงทุนในอินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นดินแดนที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในอินโดนีเซีย สอดคล้องผลสำรวจที่จัดทำโดยธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JBIC) ที่ระบุว่า ในขณะนี้ อินโดนีเซียได้ก้าวแซงหน้าจีนและอินเดียไปแล้ว ในฐานะดินแดนที่น่าลงทุนที่สุดสำหรับบริษัทแดนปลาดิบ
ขณะที่เวลลิอัน วิรันโต นักเศรษฐศาสตร์แห่ง “Oversea-Chinese Banking Corp” ซึ่งเคยทำงานให้กับธนาคารกลางของสิงคโปร์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ให้ความเห็นว่า แม้อินโดนีเซียเองจะมีภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองอยู่บ้าง โดยเฉพาะในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมปีนี้ แต่ความไม่แน่นอนในอินโดนีเซียนั้น เทียบไม่ได้เลยกับ “ละครการเมือง” ที่กำลังดำเนินอยู่บนท้องถนนกลางกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ในขณะนี้ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 23 รายนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000025467
(จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ โปรดพิจารณากันเอาเอง..)
กระทู้นี้คงไม่ได้ถามเพียงว่า "ท่านคิดเช่นไรกับข่าวที่ว่าข้างบน"
แต่จะขอเรียนถามว่า "ท่านเชื่อหรือไม่ว่า เมื่อเห็นข่าวแบบนี้ที่ไหน เดี๊ยวก็จะมีการทะเลาะกันในที่นั้นอีก"
*ขอแถมท้ายด้วยคำอวยพรสักเล็กน้อย... "ผู้มีปัญญา มักเห็นวิกฤตเป็นโอกาส และย่อมเอาตัวรอดได้อยู่เสมอ"
ท่านรู้สึกเช่นไรกับข่าว"อินโดนีเซียประกาศชวนต่างชาติ“หันหลังให้ไทย” ใช้อิเหนาเป็นฐานลงทุน อ้างเหตุผลการเมืองไม่วุ่นวาย"
มเหนทรา ซิเรการ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงทุนของอินโดนีเซีย
อินโดนีเซียหวังเดินหน้าชักชวนบริษัทญี่ปุ่นและยุโรป “ทิ้งการลงทุนในไทย” หนีวิกฤตความวุ่นวายทางการเมือง หวังผลักดันเศรษฐกิจแดนอิเหนาก้าวสู่ระดับโลก
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า คณะกรรมการประสานงานด้านการลงทุนของอินโดนีเซีย (ไอไอซีบี) ภายใต้การนำของมเหนทรา ซิเรการ์ เตรียมจัดคณะผู้แทนชุดใหญ่เดินสายเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน สหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรป เพื่อโปรโมท “เขตอุตสาหกรรมใหม่” ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางและทางตะวันออกของเกาะชวา ที่ทางการแดนอิเหนาหวังจะใช้รองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการหนีความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศไทย
ประธานบอร์ดไอไอซีบีของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทหลายแห่งของญี่ปุ่น กำลังมีแผนย้ายฐานการผลิตมายังอินโดนีเซีย หลังจากต้องเผชิญความเสี่ยงจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองในไทย โดยระบุ ทางรัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน เตรียมชู “จุดขาย” เรื่องความมีเสถียรภาพทางการเมืองของแดนอิเหนา เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้ “หันหลัง” ให้กับไทย และตบเท้าเข้ามาลงทุนในอินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นดินแดนที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในอินโดนีเซีย สอดคล้องผลสำรวจที่จัดทำโดยธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JBIC) ที่ระบุว่า ในขณะนี้ อินโดนีเซียได้ก้าวแซงหน้าจีนและอินเดียไปแล้ว ในฐานะดินแดนที่น่าลงทุนที่สุดสำหรับบริษัทแดนปลาดิบ
ขณะที่เวลลิอัน วิรันโต นักเศรษฐศาสตร์แห่ง “Oversea-Chinese Banking Corp” ซึ่งเคยทำงานให้กับธนาคารกลางของสิงคโปร์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ให้ความเห็นว่า แม้อินโดนีเซียเองจะมีภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองอยู่บ้าง โดยเฉพาะในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมปีนี้ แต่ความไม่แน่นอนในอินโดนีเซียนั้น เทียบไม่ได้เลยกับ “ละครการเมือง” ที่กำลังดำเนินอยู่บนท้องถนนกลางกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ในขณะนี้ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 23 รายนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้