การแต่งงานนั้น แน่นอนหลายคนก็จะต้องใช้เวลาในการทำใจกับเรื่องนี้เพราะการแต่งงานถือเป็นบททดสอบของชีวิตของผู้ชายและผู้หญิงที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน แต่ก็มีหลายคนก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองพร้อมที่จะแต่งงานเมื่อไร และนี่คือ 10 อันดับสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาที่เราจะต้องแต่งงานแล้ว

10.เรากับเขา/เธอมีเวลาอยู่ด้วยกัน

เมื่อเรากับเขาหรือเธอมองเห็นว่าถึงเวลาต้องแต่งงานแล้ว ก็จะต้องมีเวลาอยู่กันพร้อมหน้า พร้อมตาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างต่อเนื่อง หากเห็นว่าเรากับเขาหรือเธอยังไม่มีเวลามากพอ ก็จะต้องเลื่อนเวลาแต่งงานออกไป

9.เรากับเขา/เธอเป็นเพื่อนกันมานานมากพอแล้ว

การแต่งงานจะต้องมีความสัมพันธ์มากพอจนเรียกได้ว่ารู้เขา รู้เรากันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าระดับความสัมพันธ์แบบเพื่อนถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่จะทำให้เราเห็นถึงนิสัย ใจคอได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นว่าเราเป็นแฟนกับเขาหรือเธอเท่านั้น ถึงจะแต่งงานได้ แต่หากเรากับเขาหรือเธอเป็นเพื่อนกันมานานจนรู้นิสัย ใจคอแล้ว ถึงเวลาพร้อมแต่งงานเมื่อไรก็บอกได้เลย เพราะเชื่อว่ายังไงเขาหรือเธอก็ต้องคิดกับเราแบบนี้บ้างอยู่แล้ว

8.เรากับเขา/เธอมีความสามารถในการแก้ปัญหาความขัดแย้งได้

การแต่งงานบางครั้งก็จะต้องเจอกับความขัดแย้งเรื่องต่างๆบ้างเป็นธรรมดา บางคู่ก็อาจจะถึงมีปากเสียงทะเลาะกัน จนทำให้ปัญหาบานปลาย แต่หากเรากับเขาหรือเธอมีความสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ การแต่งงานก็พร้อมเมื่อไรก็ได้ตามที่เราต้องการ

7.เรากับเขา/เธอมีผลประโยชน์ร่วมกัน

การแต่งงานก็คงไม่แปลกหากเรากับเขาหรือเธอจะมีผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน เช่น การทำงาน การเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างมองว่าเป็นเรื่องดีสำหรับทั้งสองฝ่าย การแต่งงานก็สามารถทำได้ทันที

6.เรากับเขา/เธอมองอนาคตไปในทิศทางเดียวกัน

การแต่งงานจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่เห็นตรงกันทั้งสองฝ่าย หากฝ่ายไหนเห็นไม่ตรงกันกับอีกฝ่ายหนึ่ง ก็แสดงว่ายังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน แต่หากว่าเห็นตรงกัน การแต่งงานก็พร้อมได้ทุกเมื่อที่เรากับเขาหรือเธอต้องการ

5.เรากับเขา/เธอมีความเข้าใจในความผูกพันธ์ในระยะยาว

การแต่งงานจะต้องระลึกไว้เสมอว่าจะมีข้อผูกมัดระยะยาวต่างๆหลายอย่าง ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องจดจำข้อผูกมัดนี้ให้ดีๆ หากใครก็ตามที่ไม่สามารถผูกมัดได้ ก็คงยากที่จะแต่งงานอยู่ร่วมกันได้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ดีๆ

4.เรากับเขา/เธอมองว่าแต่งงานไปแล้วทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป

การแต่งงานแน่นอนทั้งสองฝ่ายต่างก็ปรารถนาเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นไปจากเดิม หากแย่ลงก็คงไม่แต่งงานแน่นอน จึงต้องพิจารณาตรวจสอบปัญหารอบด้านทั้งสองฝ่ายให้ดีว่า การแต่งงานจะเปลี่ยนชีวิตไปทางด้านบวกหรือลบ

3.เรากับเขา/เธอวางเป้าหมายเหมือนกัน

สิ่งที่สำคัญมากในการแต่งงานก็คือจะต้องมีเป้าหมายชีวิตที่เหมือนกัน อย่างเช่น ทั้งสองฝ่ายปรารถนาจะสร้างครอบครัวและมีลูกด้วยกัน วางเป้าหมายด้านการเงินเอาไว้ว่าจะต้องเก็บเงินเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ต้องแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเดียวกันให้ได้

2.เรากับเขา/เธอพร้อมแล้วที่จะอยู่กินด้วยกันตลอดชีวิต

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการแต่งงานก็คือ พร้อมที่จะอยู่กินด้วยกันตลอดชีวิต ซึ่งการคิดแบบนี้ทั้งสองฝ่ายจะต้องยึดมั่นในเรื่องสัจจะ ความซื่อสัตย์ การให้เกียร์ติกับอีกฝ่ายหนึ่งไม่ว่าเขาหรือเธอจะเป็นอย่างไร ก็จะต้องดูแลกันไปตลอดชีวิต

1.เรากับเขา/เธอคิดลึกยิ่งกว่าเรื่องแต่งงาน

เรื่องนี้ถือว่ามีความลึกซึ้งมากที่สุดในการแต่งงาน เพราะการแต่งงานทั้งสองฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่มีเรื่องจำเป็นมากกว่าแต่งงานก็คือ การดำรงชีวิตให้ตัวเองอยู่รอด การดำรงสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้อยู่รอดต่อไป การแข่งขันกับมนุษย์คนอื่นด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นว่าเรากับเขาหรือเธอจะพูดแค่คำว่าขอแต่งงานอย่างเดียว แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนสามารถตอบสนองได้ตามสัญชาตญาณตัวเองได้เลยว่ามีความพร้อมตอนไหน โดยที่ไม่ต้องใช้คำว่าแต่งงานแต่อย่างใด แต่ขอให้ทั้งสองฝ่ายพร้อมก็พอ




ผู้เขียน Mr.lawrence10