ณ เวลานี้คงไม่มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจมากไปกว่าคำพูดเรื่องการแบ่งแยกการปกครองของคนเสื้อแดง และนำไปสู่การตีความเรื่อง สปป.ล้านนา
ในเวลาต่อมา และหากเราย้อนกับไปพิจารณาวลีเรื่องการแบ่งแยกการปกครอง ซึ่งก็ได้มีการพูดกันมากในสื่อออนไลน์ก่อนหน้านี้พอสมควร
เราคงพออธิบายได้ว่ามันเป็นคำพูดที่เกิดจากความคับข้อง และความคับแค้นใจ อันเนื่องมาจากไม่ได้รับความเป็นธรรมของกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกับม๊อบนายสุเทพ (คนเสื้อแดง)
ความไม่ได้รับความเป็นธรรมอันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของม๊อบที่ได้รับการรับรองจากองค์กรอิสระทั้งหลายว่าเป็นสิทธิการชุมนุมทางการเมืองที่ชอบธรรมตามกรอบรัฐธรรมนูญ (แบบค้านสายตาคนดู) ท่าทีของชนชั้นนำบางกลุ่มที่ออกมาสนับสนุนการล้มล้างรัฐบาลของพวกเค้าโดยวิถีที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย จนถึงขนาดมีการตั้งโต๊ะพูดคุยกันอย่างเปิดเผยในนามของกลุ่มรัฐบุคคล เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลรักษาการณ์ และนายกคนกลางที่มาจากการแต่งตั้งของชนชั้นนำภายใต้ความเห็นชอบของนายสุเทพ และพวก
ความไม่เป็นธรรมจากท่าที และบทบาทขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่เดินเกมส์ได้อย่างประสานสอดคล้องกับแนวความคิดเรื่องล้มรัฐบาลรักษาการณ์ในเวลานี้ของม๊อบนายสุเทพ และพวก
ดังนั้น หากเราจะพิจารณาจากเหตุผลข้างต้น สาระสำคัญของวลีการแบ่งแยกการปกครองในห้วงเวลาที่ผ่านมาจึงเป็นท่าทีและการแสดงออกเพื่อให้เห็นถึงการไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลที่มีที่มาจากการแต่งตั้งโดยม๊อบ และการสร้างกฎกติกาใหม่ภายใต้สภาประชาชนของม๊อบ
แต่หากจะใช่ทัศนคติ และอารมณ์ของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามมันเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยากเรื่องที่จะกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงต้องการแบ่งแยกดินแดน (เพราะแค่หายใจก็ผิดแล้ว) ยังไม่รวมกับที่มีคนบางกลุ่มนำเรื่องราวดังกล่าวไปผูกโยงกับหมู่บ้านของคนเสื้อแดง ก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่อยากให้สังคมนี้ไตร่ตรองให้มากคือ ความแตกแยกของสังคมในเวลานี้มันทำให้เรากล้าที่จะพูด ตัดสิน หรือกล่าวหาเพื่อผลักให้กลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกับเราเป็นพวกที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนจริงๆ (ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและไม่มีทางจะเป็นจริงได้ในโลกแห่งความจริง) ได้โดยไม่ต้องไตร่ตรองให้รอบด้านใช่หรือไม่
ถ้าใช่สังคมนี้ก็แตกแยกเกินกว่าจะเยียวยา เพราะการกล่าวหาครั้งนี้มันเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว
ตัดสินจากเหตุและผลหรือทัศนคติและอารมณ์
ในเวลาต่อมา และหากเราย้อนกับไปพิจารณาวลีเรื่องการแบ่งแยกการปกครอง ซึ่งก็ได้มีการพูดกันมากในสื่อออนไลน์ก่อนหน้านี้พอสมควร
เราคงพออธิบายได้ว่ามันเป็นคำพูดที่เกิดจากความคับข้อง และความคับแค้นใจ อันเนื่องมาจากไม่ได้รับความเป็นธรรมของกลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกับม๊อบนายสุเทพ (คนเสื้อแดง)
ความไม่ได้รับความเป็นธรรมอันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของม๊อบที่ได้รับการรับรองจากองค์กรอิสระทั้งหลายว่าเป็นสิทธิการชุมนุมทางการเมืองที่ชอบธรรมตามกรอบรัฐธรรมนูญ (แบบค้านสายตาคนดู) ท่าทีของชนชั้นนำบางกลุ่มที่ออกมาสนับสนุนการล้มล้างรัฐบาลของพวกเค้าโดยวิถีที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย จนถึงขนาดมีการตั้งโต๊ะพูดคุยกันอย่างเปิดเผยในนามของกลุ่มรัฐบุคคล เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลรักษาการณ์ และนายกคนกลางที่มาจากการแต่งตั้งของชนชั้นนำภายใต้ความเห็นชอบของนายสุเทพ และพวก
ความไม่เป็นธรรมจากท่าที และบทบาทขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่เดินเกมส์ได้อย่างประสานสอดคล้องกับแนวความคิดเรื่องล้มรัฐบาลรักษาการณ์ในเวลานี้ของม๊อบนายสุเทพ และพวก
ดังนั้น หากเราจะพิจารณาจากเหตุผลข้างต้น สาระสำคัญของวลีการแบ่งแยกการปกครองในห้วงเวลาที่ผ่านมาจึงเป็นท่าทีและการแสดงออกเพื่อให้เห็นถึงการไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลที่มีที่มาจากการแต่งตั้งโดยม๊อบ และการสร้างกฎกติกาใหม่ภายใต้สภาประชาชนของม๊อบ
แต่หากจะใช่ทัศนคติ และอารมณ์ของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามมันเป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยากเรื่องที่จะกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงต้องการแบ่งแยกดินแดน (เพราะแค่หายใจก็ผิดแล้ว) ยังไม่รวมกับที่มีคนบางกลุ่มนำเรื่องราวดังกล่าวไปผูกโยงกับหมู่บ้านของคนเสื้อแดง ก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่อยากให้สังคมนี้ไตร่ตรองให้มากคือ ความแตกแยกของสังคมในเวลานี้มันทำให้เรากล้าที่จะพูด ตัดสิน หรือกล่าวหาเพื่อผลักให้กลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกับเราเป็นพวกที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนจริงๆ (ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและไม่มีทางจะเป็นจริงได้ในโลกแห่งความจริง) ได้โดยไม่ต้องไตร่ตรองให้รอบด้านใช่หรือไม่
ถ้าใช่สังคมนี้ก็แตกแยกเกินกว่าจะเยียวยา เพราะการกล่าวหาครั้งนี้มันเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว