อเจนซี่ส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – เมืองสิงคโปร์กลายเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปี 2013 แซงหน้ากรุงโตเกียวของญี่ปุ่นซึ่งหลุดบัลลังก์แชมป์ลงไปอยู่อันดับที่ 9 จากการจัดอันดับโดย Economist Intelligence Unit (EIU) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในเครือนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์
ผลวิจัยชิ้นนี้สรุปจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการกว่า 160 รายการใน 131 เมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น อาหาร, อุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำ, เครื่องนุ่งห่ม, ค่าจ้างแม่บ้าน, ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ
เมืองที่ค่าครองชีพสูงสุดรองจากสิงคโปร์ ได้แก่ ปารีส, ออสโล, ซูริก, ซิดนีย์, การากัส, เจนีวา, เมลเบิร์น, โตเกียว และ โคเปนเฮเกน
รายงานของ EIU ชี้ว่า การที่สิงคโปร์กลายเป็นเมืองค่าครองชีพแพงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเกาะศูนย์กลางธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่แข็งขึ้นถึง 40% ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อ ตัวอย่างเช่น ไวน์ 1 ขวดซึ่งราคา 13.25 ดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อ 10 ปีก่อน เวลานี้ราคาพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 25.04 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เพิ่มขึ้น 89%) ส่วนขนมปังแถวที่เคยราคาเพียง 0.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ขยับมาเป็น 1.73 ดอลล์สหรัฐฯ (เพิ่มขึ้น 150%)
ใบอนุญาตครอบครองรถยนต์ในสิงคโปร์ (certificate of entitlement – COE) ซึ่งราคาประมูลแพงลิบลิ่ว ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การได้ขับรถยนต์สักคันในสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่อื่นๆ และยังทำให้ค่าเดินทางในสิงคโปร์แพงกว่านิวยอร์กเกือบ 3 เท่า
ทรัพยากรที่ต้องนำเข้าจากภายนอกเกือบทั้งหมดยังส่งผลให้เกาะสิงคโปร์เป็นเมืองที่ค่าสาธารณูปโภคแพงเป็นอันดับ 3 ของโลก
“ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านบูติกที่เปิดเรียงรายบนถนนออร์ชาร์ด จะนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมยุโรปและอเมริกา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กระเป๋าหนักและมีรสนิยมตามแฟชันใหม่ๆ สิงคโปร์จึงเป็นเมืองที่คุณจะต้องจ่ายเงินมากที่สุดในการซื้อเสื้อผ้า” EIU ระบุ
ขณะที่เมืองใหญ่ๆในทวีปเอเชียมีราคาสินค้าอุปโภคบริโภคค่อนข้างสูง เช่น โตเกียว ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าอาหารแพงที่สุด แต่เมืองใหญ่ต่างๆในทวีปยุโรป กลับไปโดดเด่นเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อการสันทนาการและความบันเทิงที่มีราคาแพงมากเป็นพิเศษ
นครมุมไบของประเทศอินเดียได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก และ 3 ใน 4 เมืองใหญ่ที่ค่าครองชีพต่ำสุดล้วนตั้งอยู่ในประเทศแถบอนุทวีปอินเดียทั้งสิ้น คือ ปากีสถาน, อินเดีย และเนปาล
สงครามกลางเมืองของประเทศซีเรียที่ยืดเยื้อมานานถึง 3 ปี นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนและบั่นทอนเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อค่าเงินของซีเรีย และทำให้ กรุงดามัสกัส ติดอันดับเมืองที่ค่าครองชีพถูกเป็นอันดับ 4 ของโลก
10 เมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก ได้แก่ มุมไบ, การาจี, นิวเดลี, ดามัสกัส, กาฐมาณฑุ, แอลเจียร์, บูคาเรสต์, ปานามาซิตี้, เจดดาห์ และ ริยาด
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024751 
“สิงคโปร์” ครองแชมป์ “เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก” แห่งปี 2013 ด้านแชมป์เก่า "โตเกียว" ตกไปอยู่อันดับที่ 9
ผลวิจัยชิ้นนี้สรุปจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการกว่า 160 รายการใน 131 เมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น อาหาร, อุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำ, เครื่องนุ่งห่ม, ค่าจ้างแม่บ้าน, ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ
เมืองที่ค่าครองชีพสูงสุดรองจากสิงคโปร์ ได้แก่ ปารีส, ออสโล, ซูริก, ซิดนีย์, การากัส, เจนีวา, เมลเบิร์น, โตเกียว และ โคเปนเฮเกน
รายงานของ EIU ชี้ว่า การที่สิงคโปร์กลายเป็นเมืองค่าครองชีพแพงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเกาะศูนย์กลางธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่แข็งขึ้นถึง 40% ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อ ตัวอย่างเช่น ไวน์ 1 ขวดซึ่งราคา 13.25 ดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อ 10 ปีก่อน เวลานี้ราคาพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 25.04 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เพิ่มขึ้น 89%) ส่วนขนมปังแถวที่เคยราคาเพียง 0.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ขยับมาเป็น 1.73 ดอลล์สหรัฐฯ (เพิ่มขึ้น 150%)
ใบอนุญาตครอบครองรถยนต์ในสิงคโปร์ (certificate of entitlement – COE) ซึ่งราคาประมูลแพงลิบลิ่ว ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การได้ขับรถยนต์สักคันในสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่อื่นๆ และยังทำให้ค่าเดินทางในสิงคโปร์แพงกว่านิวยอร์กเกือบ 3 เท่า
ทรัพยากรที่ต้องนำเข้าจากภายนอกเกือบทั้งหมดยังส่งผลให้เกาะสิงคโปร์เป็นเมืองที่ค่าสาธารณูปโภคแพงเป็นอันดับ 3 ของโลก
“ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านบูติกที่เปิดเรียงรายบนถนนออร์ชาร์ด จะนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมยุโรปและอเมริกา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กระเป๋าหนักและมีรสนิยมตามแฟชันใหม่ๆ สิงคโปร์จึงเป็นเมืองที่คุณจะต้องจ่ายเงินมากที่สุดในการซื้อเสื้อผ้า” EIU ระบุ
ขณะที่เมืองใหญ่ๆในทวีปเอเชียมีราคาสินค้าอุปโภคบริโภคค่อนข้างสูง เช่น โตเกียว ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าอาหารแพงที่สุด แต่เมืองใหญ่ต่างๆในทวีปยุโรป กลับไปโดดเด่นเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อการสันทนาการและความบันเทิงที่มีราคาแพงมากเป็นพิเศษ
นครมุมไบของประเทศอินเดียได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก และ 3 ใน 4 เมืองใหญ่ที่ค่าครองชีพต่ำสุดล้วนตั้งอยู่ในประเทศแถบอนุทวีปอินเดียทั้งสิ้น คือ ปากีสถาน, อินเดีย และเนปาล
สงครามกลางเมืองของประเทศซีเรียที่ยืดเยื้อมานานถึง 3 ปี นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนและบั่นทอนเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อค่าเงินของซีเรีย และทำให้ กรุงดามัสกัส ติดอันดับเมืองที่ค่าครองชีพถูกเป็นอันดับ 4 ของโลก
10 เมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก ได้แก่ มุมไบ, การาจี, นิวเดลี, ดามัสกัส, กาฐมาณฑุ, แอลเจียร์, บูคาเรสต์, ปานามาซิตี้, เจดดาห์ และ ริยาด
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000024751