เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค.14 ช่วงเวลาค่ำๆ เราได้ไปซื้อของที่ Tops Supermarket สาขาเซ็นทรัลบางนาค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เราไปซื้อของที่แผนกเนื้อสัตว์ โดยไปกับสามีซึ่งเป็นคนต่างชาติ แต่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ โดยสามีเราได้สั่งอกไก่ลอกหนัง (ที่แช่อยู่ด้านในเคาร์เตอร์) 2 ชิ้น โดยขอให้เค้าแพคแยกใส่ถาด ถาดละ 1 ชิ้น เพื่อง่ายต่อการนำมาประกอบอาหารทีหลัง โดยมีเรายืนอธิบายอยู่ข้างๆด้วย โดย 2 ชิ้นแรก เจ้าหน้าที่ได้แพคและส่งให้ หลังจากนั้นเราเห็นว่าไม่น่าจะพอ เลยได้สั่งเพิ่มอีก 2 ชิ้น และบอกให้สามีเรายืนรอ โดยเราเดินเลยไปเลือกซื้อปลาต่อ
จากนั้นเราก็เดินกลับมาโดยสามีเราได้ของและใส่ในตะกร้าเรียบร้อย แล้วก็เดินไปเลือกซื้อสันนอกหมูต่อ เสร็จจากการซื้อของ คิดเงิน ก็ขึ้นรถขับออกมาจากเซ็นทรัล บางนาค่ะ ระหว่างทางได้หยิบบิลมาดู เลยสงสัยว่า อกไก่ลอกหนัง 4 แพค แพคละ 1 ชิ้นนั้น ทำไมกลายเป็นหมูคุโรบุตะไปได้ ซึ่งเราไม่ได้ซื้อสินค้ารายการนี้เลย ไม่รอช้า เรารีบจอดและนำสินค้าขึ้นมาดู ก็เป็นดังคาดว่า อีก 2 แพคที่เราให้สามีเรารอของนั้น พนง. ได้นำบาร์โค้ดของ หมูบดคุโรบุตะมาติดแทน ซึ่งราคา 350 บาท/kg ในขณะที่อกไก่ลอกหนังราคา 160 บาท/kg
เมื่อเห็นดังนั้นเราเลยบอกสามี ตัดสินใจที่จะเสียเวลาขับรถกลับไปค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินไม่มาก อาจจะไม่คุ้มกับค่าวนรถที่กลับไปด้วยซ้ำ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอแบบนี้ พอกลับไปแจ้งที่เคาร์เตอร์ ก็เหมือนเดิมคือ ทางเราจะคืนเงินให้ค่ะ แต่สิ่งที่เราสงสัยคือ
1. พนง.ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าหรือไม่
2. เราสั่งทั้งหมด 4 ชิ้น แต่ 2 ชิ้นแรกที่เรายืนรออยู่ด้วย บาร์โค้ดไม่ผิด แต่ทำไม 2 ชิ้นหลังที่เราให้สามีเรายืนรอกลับติดบาร์โค้ดผิด ทั้งๆที่เป็นพนง.ขายคนเดียวกัน (ชื่อสินค้าบนบาร์โค้ดมีแต่ภาษาไทยค่ะ) เราเลยเชื่อว่าพนง.จงใจกดผิดมากกว่าเกิดจากความประมาท เลินเล่อ
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆคอยตรวจเช็คบิลทุกครั้ง เวลาซื้อของที่ Tops น่ะค่ะ เพราะเราเคยเจอเคสแบบนี้ที่ Tops เองมา 2-3 ครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ ซึ่งครั้งแรกเราก็คิดว่าช่างเถอะ กลับไปเสียเวลาเปล่าๆ พอรอบที่ 2 ก็ขอโทษและคืนเงินตามระเบียบ จนมารอบนี้เราเลยคิดว่าคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ถึงแม้จะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
อย่าลืมเช็คใบเสร็จทุกครั้งเวลาไปซื้อของที่ Tops นะคะ ไม่งั้นอาจเจอแบบเรา
จากนั้นเราก็เดินกลับมาโดยสามีเราได้ของและใส่ในตะกร้าเรียบร้อย แล้วก็เดินไปเลือกซื้อสันนอกหมูต่อ เสร็จจากการซื้อของ คิดเงิน ก็ขึ้นรถขับออกมาจากเซ็นทรัล บางนาค่ะ ระหว่างทางได้หยิบบิลมาดู เลยสงสัยว่า อกไก่ลอกหนัง 4 แพค แพคละ 1 ชิ้นนั้น ทำไมกลายเป็นหมูคุโรบุตะไปได้ ซึ่งเราไม่ได้ซื้อสินค้ารายการนี้เลย ไม่รอช้า เรารีบจอดและนำสินค้าขึ้นมาดู ก็เป็นดังคาดว่า อีก 2 แพคที่เราให้สามีเรารอของนั้น พนง. ได้นำบาร์โค้ดของ หมูบดคุโรบุตะมาติดแทน ซึ่งราคา 350 บาท/kg ในขณะที่อกไก่ลอกหนังราคา 160 บาท/kg
เมื่อเห็นดังนั้นเราเลยบอกสามี ตัดสินใจที่จะเสียเวลาขับรถกลับไปค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินไม่มาก อาจจะไม่คุ้มกับค่าวนรถที่กลับไปด้วยซ้ำ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอแบบนี้ พอกลับไปแจ้งที่เคาร์เตอร์ ก็เหมือนเดิมคือ ทางเราจะคืนเงินให้ค่ะ แต่สิ่งที่เราสงสัยคือ
1. พนง.ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าหรือไม่
2. เราสั่งทั้งหมด 4 ชิ้น แต่ 2 ชิ้นแรกที่เรายืนรออยู่ด้วย บาร์โค้ดไม่ผิด แต่ทำไม 2 ชิ้นหลังที่เราให้สามีเรายืนรอกลับติดบาร์โค้ดผิด ทั้งๆที่เป็นพนง.ขายคนเดียวกัน (ชื่อสินค้าบนบาร์โค้ดมีแต่ภาษาไทยค่ะ) เราเลยเชื่อว่าพนง.จงใจกดผิดมากกว่าเกิดจากความประมาท เลินเล่อ
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆคอยตรวจเช็คบิลทุกครั้ง เวลาซื้อของที่ Tops น่ะค่ะ เพราะเราเคยเจอเคสแบบนี้ที่ Tops เองมา 2-3 ครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ ซึ่งครั้งแรกเราก็คิดว่าช่างเถอะ กลับไปเสียเวลาเปล่าๆ พอรอบที่ 2 ก็ขอโทษและคืนเงินตามระเบียบ จนมารอบนี้เราเลยคิดว่าคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ถึงแม้จะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม