สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
สวนสยามเนี้ยเป็นแหล่งรวมมิจฉาชีพเลยนะ
เราเคยเจอ เมื่อก่อน แต่โชคดีที่รู้ตัวก่อน เลยระวังตัวทัน
โดนเดินตาม แล้วตอนนั้นสวนสยามใกล้ปิดแล้ว ไม่ค่อยมีคน
แต่เราสังเกตทัน ว่าทำไมมีผู้ชายสองคน มาดอมๆมองๆ ไม่ยอมกลับไปซักที
คือตอนนั้นแทบไม่มีคนแล้ว กลุ่มเราไปมีแต่เด็กๆ(แถมเป็นผู้หญิงด้วย)อ่ะ แล้วเราก็ลองสังเกตว่าตอนเราจะกลับ สองคนนั้นก็เดินตามมาเรื่อยๆ
แล้วเราเอาชุดว่ายน้ำไปคืน ก็ใช้เวลานิดนึง ออกมายังเจอสองคนนั้นเฝ้าอยู่ เลยยิ่งชัดเลยว่าต้องเป็นมิจฉาชีพแน่ๆ คือเราแอบถ่วงเวลาตอนคืนชุด เพื่อที่เช็กให้ชัวร์ว่าโดนตามจริงรึป่าว (แล้วท่าทางก็มีพิรุจอ่ะ เอาแต่มองตามกลุ่มเรา)
แล้วเราก็สังเกตว่าหนึ่งในสองคนนั้นจะถือกระเป๋าใบนึง เป็นแบบกระเป๋าถือ กอดไว้แนบตัวตลอด แล้วระหว่างนั้นก็เดินตามพวกเราไปด้วย
เราเลยรีบเดินไปรวมกลุ่มกับคนที่กำลังกลับ พอใกล้ถึงทางออก ตอนนั้นเองก็มีผู้ชายอีกคนเดินมาสบทบ
แต่เห็นชัดเลยว่าคนที่เข้ามาใหม่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกับสองคนก่อนหน้า แต่เราเห็นเค้าเอากระเป๋าถือที่ว่าส่งต่อให้กัน
เราคิดว่าในกระเป๋านั้นต้องมีอะไรสักอย่าง อาจเป็นอาวุธ O_O เรารีบเดินหนีเลย แล้วเหมือนเค้าก็พยายามรีบเดินตามอ่ะ พยายามมาเดินข้างๆ แต่ก็ไม่ได้ใกล้ไป ให้ผิดสังเกต (แต่เรารู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วมั้ย เหอเหอ)
แล้วพอออกประตูมาแล้วรีบเลี้ยวไปทางตรงข้ามเลย แต่แบบเดินหนีชัดเจน ไปทางที่มีรถจอดเยอะ แบบหลบอ่ะ
แล้วด้วยความอยากรู้อยากเห็นตอนนั้น 555 เลยแอบชะโงกหน้าไปดู (มีรถจอดบังให้อยู่) ก็เห็นกลุ่มนั้น พยายามชะโงกมองหากลุ่มเราเหมือนกัน เหอเหอ
เลยรีบกลับบ้านเลย หลังจากนั้นก็ไม่กล้าไปสวนสยามอีกอ่ะ กลัว แล้วตอนนั้นก็ไป่กล้าขอความช่วยเหลือใครด้วย โชคดีที่ไม่เกิดอะไร เรื่องแบบนี้ต้องระวังตัวเอง แบบไปไหนต้องช่างสังเกตตลอดอ่ะ
แล้วก็อีกเรื่องที่เราเจอ วันเดียวกันนั้นแหละ คือสวนสยามมันจะมีห้องอาบน้ำที่นึง ที่มีจะมีตึกอพาร์ทเม้นอยู่ตรงข้ามอ่ะ ที่เป็นส่วนข้างนอกสวนสยาม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้เค้าปรับปรุงรึยังนะ (คือไม่กลับไปอีกแล้วอ่ะ) พอเราจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก็มีผู้ชาย(ประมาณสองสามคน)ออกมาที่ระเบียงตึกอ่ะ เหมือนมาดูผู้หญิงอาบน้ำอ่ะ มีการส่งเสียงแซวด้วยนะ ซึ่งดูจากพฤติกรรมแล้วน่าจะทำแบบนี้ประจำ เราต้องไปหาที่หลบมุมเปลี่ยนเสื้อ ไม่รู้ว่าโดนมองเห็นอะไรรึป่าว แบบเขาอยู่กันบนตึกแล้วมองลงมาทะลุห้องน้ำอ่ะ (อย่างที่บอกว่าตอนนั้นเด็กไม่กล้าทำอะไรมาก)
พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จ ยังมามิจฉาชีพเดินตามอีก เลยพอกัน ไม่ไปอีกแล้ว รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แถมแลดูสวนสยามก็ไม่ได้มีมาตรการคุ้มครอง หรือทำให้รู้สึกปลอดภัยเลย เหอเหอ
เราเคยเจอ เมื่อก่อน แต่โชคดีที่รู้ตัวก่อน เลยระวังตัวทัน
โดนเดินตาม แล้วตอนนั้นสวนสยามใกล้ปิดแล้ว ไม่ค่อยมีคน
แต่เราสังเกตทัน ว่าทำไมมีผู้ชายสองคน มาดอมๆมองๆ ไม่ยอมกลับไปซักที
คือตอนนั้นแทบไม่มีคนแล้ว กลุ่มเราไปมีแต่เด็กๆ(แถมเป็นผู้หญิงด้วย)อ่ะ แล้วเราก็ลองสังเกตว่าตอนเราจะกลับ สองคนนั้นก็เดินตามมาเรื่อยๆ
แล้วเราเอาชุดว่ายน้ำไปคืน ก็ใช้เวลานิดนึง ออกมายังเจอสองคนนั้นเฝ้าอยู่ เลยยิ่งชัดเลยว่าต้องเป็นมิจฉาชีพแน่ๆ คือเราแอบถ่วงเวลาตอนคืนชุด เพื่อที่เช็กให้ชัวร์ว่าโดนตามจริงรึป่าว (แล้วท่าทางก็มีพิรุจอ่ะ เอาแต่มองตามกลุ่มเรา)
แล้วเราก็สังเกตว่าหนึ่งในสองคนนั้นจะถือกระเป๋าใบนึง เป็นแบบกระเป๋าถือ กอดไว้แนบตัวตลอด แล้วระหว่างนั้นก็เดินตามพวกเราไปด้วย
เราเลยรีบเดินไปรวมกลุ่มกับคนที่กำลังกลับ พอใกล้ถึงทางออก ตอนนั้นเองก็มีผู้ชายอีกคนเดินมาสบทบ
แต่เห็นชัดเลยว่าคนที่เข้ามาใหม่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกับสองคนก่อนหน้า แต่เราเห็นเค้าเอากระเป๋าถือที่ว่าส่งต่อให้กัน
เราคิดว่าในกระเป๋านั้นต้องมีอะไรสักอย่าง อาจเป็นอาวุธ O_O เรารีบเดินหนีเลย แล้วเหมือนเค้าก็พยายามรีบเดินตามอ่ะ พยายามมาเดินข้างๆ แต่ก็ไม่ได้ใกล้ไป ให้ผิดสังเกต (แต่เรารู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วมั้ย เหอเหอ)
แล้วพอออกประตูมาแล้วรีบเลี้ยวไปทางตรงข้ามเลย แต่แบบเดินหนีชัดเจน ไปทางที่มีรถจอดเยอะ แบบหลบอ่ะ
แล้วด้วยความอยากรู้อยากเห็นตอนนั้น 555 เลยแอบชะโงกหน้าไปดู (มีรถจอดบังให้อยู่) ก็เห็นกลุ่มนั้น พยายามชะโงกมองหากลุ่มเราเหมือนกัน เหอเหอ
เลยรีบกลับบ้านเลย หลังจากนั้นก็ไม่กล้าไปสวนสยามอีกอ่ะ กลัว แล้วตอนนั้นก็ไป่กล้าขอความช่วยเหลือใครด้วย โชคดีที่ไม่เกิดอะไร เรื่องแบบนี้ต้องระวังตัวเอง แบบไปไหนต้องช่างสังเกตตลอดอ่ะ
แล้วก็อีกเรื่องที่เราเจอ วันเดียวกันนั้นแหละ คือสวนสยามมันจะมีห้องอาบน้ำที่นึง ที่มีจะมีตึกอพาร์ทเม้นอยู่ตรงข้ามอ่ะ ที่เป็นส่วนข้างนอกสวนสยาม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้เค้าปรับปรุงรึยังนะ (คือไม่กลับไปอีกแล้วอ่ะ) พอเราจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก็มีผู้ชาย(ประมาณสองสามคน)ออกมาที่ระเบียงตึกอ่ะ เหมือนมาดูผู้หญิงอาบน้ำอ่ะ มีการส่งเสียงแซวด้วยนะ ซึ่งดูจากพฤติกรรมแล้วน่าจะทำแบบนี้ประจำ เราต้องไปหาที่หลบมุมเปลี่ยนเสื้อ ไม่รู้ว่าโดนมองเห็นอะไรรึป่าว แบบเขาอยู่กันบนตึกแล้วมองลงมาทะลุห้องน้ำอ่ะ (อย่างที่บอกว่าตอนนั้นเด็กไม่กล้าทำอะไรมาก)
พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จ ยังมามิจฉาชีพเดินตามอีก เลยพอกัน ไม่ไปอีกแล้ว รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แถมแลดูสวนสยามก็ไม่ได้มีมาตรการคุ้มครอง หรือทำให้รู้สึกปลอดภัยเลย เหอเหอ
ความคิดเห็นที่ 47
เอามาจากคอมเมนต์ในเฟซบุ๊คของจ่าครับ
มันเป็นการเลี่ยงกฎหมายที่อาศัยความไม่รู้กฎหมายของลูกค้าครับกรณีนี้ (กวนตีนมากครับ) เชื่อว่าถ้าจะเอาผิดคงสู้ถึงชั้นฎีกานู่ล่ะครับ ศาลล่างคงไม่สามารถเขียนเหตุผลกลับหลักหรือยกเว้นหลักได้ (ถ้าจะฟ้องตามสัญญาเช่า ยืม ฝาก ของไว้ในล็อคเกอร์)
กล่าวคือ เงินหรือค่าตอบที่ทางนั้นเรียกรับ เป็นเงินจากการขายลูกกุญแจ ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขาย ไม่ใช่เงินจากการให้เช่าล็อคเกอร์ ดังนั้น เมื่อลูกกุญแจซึ่งซื้อมา(กรรมสิทธิ์เป็นของคุณแล้ว)ใช้คล้องล็อคเกอร์ซึ่งเป็นการบริการฟรี ทางนั้นไม่นิติสัมพันธ์หรือหน้าที่ต้องรับผิดทางกฎหมาย ดังนั้นจะเรียกร้องให้รับผิดตามสัญญาเช่าหรือการบริการล็อคเกอร์ไม่ได้
หรือมีอีกทางหนึ่งคือ เก็บกุญแจตัวนั้นไว้ ประกอบหลักฐานว่าที่ทางนั้นมีการบริการขายกุญแจจริง แล้วเอาไปฟ้องในข้อหาความชำรุดบกพร่องตามสัญญาซื้อขาย (ภาษาชาวบ้านคือ ขายของไม่มีคุณภาพให้) และเรียกค่าเสียหายอันเนื่องมาจากความชำรุดบกพร่องนั้น กล่าวคือ กุญแจที่นำมาขายไม่มีคุณภาพบวกกับมีราคาแพงเกินท้องตลาด ทำให้ผู้ขายย่อมมีหน้าที่ตรวจเช็คสินค้าให้เข้มงวดกว่าปกติทั่วไป เมื่อผู้ซื้อนำไปใช้ แล้วเกิดความเสียหายขึ้นทางผู้ขายต้องรับผิดชอบ (ชำรุดบกพร่อง+ละเมิด)
ถ้าไม่จ้างทนายฟ้องเอง ก็ไปขอหนังสือร้องเรียน สคบ. ที่เซเว่นได้ครับ(ฟรี) มันมีแบบฟอร์ม+จ่าหน้าซองเรียบร้อย เราเอามากรอก แล้วติดสแตมป์ก็จบเลย เดี๋ยวทาง สคบ. จะแจ้งให้เราไปนัดไกล่เกลี่ยกับทางนั้น และถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ ทางนั้นจะฟ้องให้โดยที่เราไม่ต้องจ้างค่าทนาย
แนะนำนะครับว่า ตอนเขียนก็เล่าไปตามปกติ แต่อธิบายชัดๆว่าทางนั้นมีการ "ขายกุญแจ" ที่ไม่มีคุณภาพจนเกิดเหตุการนี้ขึ้น เพราะทางเราไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก สัญญาเช่า ให้ยืม หรือฝากของในล็อคเกอร์ได้ ไม่ก็ก่อนเขียนลองโทรไปที่สายด่วนเพื่อขอคำปรึกษาแนวการตั้งประเด็นร้องเรียนก็ได้ครับ เบอร์ 1166
cr.Sipentric Ciz Musdenz
มันเป็นการเลี่ยงกฎหมายที่อาศัยความไม่รู้กฎหมายของลูกค้าครับกรณีนี้ (กวนตีนมากครับ) เชื่อว่าถ้าจะเอาผิดคงสู้ถึงชั้นฎีกานู่ล่ะครับ ศาลล่างคงไม่สามารถเขียนเหตุผลกลับหลักหรือยกเว้นหลักได้ (ถ้าจะฟ้องตามสัญญาเช่า ยืม ฝาก ของไว้ในล็อคเกอร์)
กล่าวคือ เงินหรือค่าตอบที่ทางนั้นเรียกรับ เป็นเงินจากการขายลูกกุญแจ ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขาย ไม่ใช่เงินจากการให้เช่าล็อคเกอร์ ดังนั้น เมื่อลูกกุญแจซึ่งซื้อมา(กรรมสิทธิ์เป็นของคุณแล้ว)ใช้คล้องล็อคเกอร์ซึ่งเป็นการบริการฟรี ทางนั้นไม่นิติสัมพันธ์หรือหน้าที่ต้องรับผิดทางกฎหมาย ดังนั้นจะเรียกร้องให้รับผิดตามสัญญาเช่าหรือการบริการล็อคเกอร์ไม่ได้
หรือมีอีกทางหนึ่งคือ เก็บกุญแจตัวนั้นไว้ ประกอบหลักฐานว่าที่ทางนั้นมีการบริการขายกุญแจจริง แล้วเอาไปฟ้องในข้อหาความชำรุดบกพร่องตามสัญญาซื้อขาย (ภาษาชาวบ้านคือ ขายของไม่มีคุณภาพให้) และเรียกค่าเสียหายอันเนื่องมาจากความชำรุดบกพร่องนั้น กล่าวคือ กุญแจที่นำมาขายไม่มีคุณภาพบวกกับมีราคาแพงเกินท้องตลาด ทำให้ผู้ขายย่อมมีหน้าที่ตรวจเช็คสินค้าให้เข้มงวดกว่าปกติทั่วไป เมื่อผู้ซื้อนำไปใช้ แล้วเกิดความเสียหายขึ้นทางผู้ขายต้องรับผิดชอบ (ชำรุดบกพร่อง+ละเมิด)
ถ้าไม่จ้างทนายฟ้องเอง ก็ไปขอหนังสือร้องเรียน สคบ. ที่เซเว่นได้ครับ(ฟรี) มันมีแบบฟอร์ม+จ่าหน้าซองเรียบร้อย เราเอามากรอก แล้วติดสแตมป์ก็จบเลย เดี๋ยวทาง สคบ. จะแจ้งให้เราไปนัดไกล่เกลี่ยกับทางนั้น และถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ ทางนั้นจะฟ้องให้โดยที่เราไม่ต้องจ้างค่าทนาย
แนะนำนะครับว่า ตอนเขียนก็เล่าไปตามปกติ แต่อธิบายชัดๆว่าทางนั้นมีการ "ขายกุญแจ" ที่ไม่มีคุณภาพจนเกิดเหตุการนี้ขึ้น เพราะทางเราไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก สัญญาเช่า ให้ยืม หรือฝากของในล็อคเกอร์ได้ ไม่ก็ก่อนเขียนลองโทรไปที่สายด่วนเพื่อขอคำปรึกษาแนวการตั้งประเด็นร้องเรียนก็ได้ครับ เบอร์ 1166
cr.Sipentric Ciz Musdenz
แสดงความคิดเห็น
โดนโจรขโมยของในตู้ล็อคเกอร์ ในสวนสยามทะเลกรุงเทพ คิดว่าทางสวนสยามจะชดใช้เปล่าครับ
เหตุเกิดประมาณ 16.50 น.- 17.16 น. ของวันที่ 1 มีนาคม 2557
นี้คือเหตุการณ์
ผมและเพื่อนได้ไปใช้งานสวนน้ำ ในสวนสยามทะเลกรุงเทพ เพิ่งเคยไปครั้งแรกช่วงบ่าย
ก็เล่นเครื่องเล่นของที่สวนสยาม พอตกเย็น คือเกือบจะ 17.00 น. สวนน้ำมันจะปิด 18.00น.
เลยรีบๆไปเล่น
พอไปถึงถามว่าเราจะฝากของยังไง เค้าก็บอกให้ซื้อกุญแจแล้วไปล็อคที่ตู้ล็อคเกอร์ที่มีอยู่
แล้วก็ให้ใบไปรับกุญแจ แล้วคิดตังผม 80 บาท ผมเห็นกุญแจ โหหาซื้อ 20 บาทยังได้เลย
แต่ไม่ได้สังเหตุ หรือ พนักงานไม่ได้แนะนำอะไร ผมเห็น ล็อคเกอร์ใกล้ๆกับที่เปลี่ยนเสื้อผ้า
เลยเดินไปเลือกตู้ เลข 110 ช่อง ด้านบนจะเป็นเลข 109 ซึ่งว่างอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้สังเกตรอบข้างเลย
หยิบกล้องใส่ไว้ในกระเป๋า และ มือถือไอโฟนมาถ่ายรูป แล้วเก็บใส่กระเป๋า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า กับ เพื่อน
กลับมา ของยังคงอยู่ ก็นำเสื้อผ้า ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้สีแดง ของเพื่อนหญิง จะเป็นกระเป๋าอีกใบสีดำ
ล็อคไว้ เมื่อเสร็จก็ไปเล่นน้ำ พอเสร็จสัก 20 นาทีได้ เพื่อนให้มาหยิบกล้องไปถ่ายรูปเล่นกัน
พอมาถึงใช้กุญแจเปิดแต่เปิดไม่ได้ ใช้มันทุกดอกเลย แต่ก็ไม่ได้ผมเลยใช้แรงดึง
เอ้าออก!! แล้วก็เปิด หาาา!! กระเป๋าผมกับของเพื่อนหายไป เลยรีบไปบอกเจ้าหน้าที่ตรงเคาเตอร์
ว่าของผมหาย ขอดูกล้องวงจรปิดหน่อย รอสักพักมีฝรั่งมา ถามนู้นถามนี้ เค้าก็พูดภาษาอังกฤษ
ผมก็รีบบอกให้ไปที่ตู้ 110 เค้าก็ช้าๆ เลยบอกเจ้าหน้าที่อีกคนที่เป็นคนไทยพาผมไปดูกล้อง
โจรมันย้ายตู้ไปย้ายตู้มา สักพักมองหาเหยื่ออยู่แล้วก่อนที่ผมกับเพื่อนจะมา พอผมมา
มันก็มองผมตั้งนาน (ในกล้องวงจรปิด) คือถ้ามีคนดูกล้องวงจรปิดมันผิดสังเกตุตั้งนานแล้วคนนี้
ช่วงที่ผมไปเล่นน้ำ มันได้ย้ายของมาไว้เหนือตู้ของผม แล้วก็ออกไปไหนสักพักไม่แน่ใจว่า
ตามพวกผมไปดูหรือเปล่า มันก็ไขตู้ของมันกับตู้ของผมสักพัก แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าของมัน แล้วเดินออกไป
กลับมาไขตู้ผมอีกที แล้วก็เอากระเป๋าของผมกับเพื่อนไป แถมล็อคตู้ไว้เหมือนเดิมด้วย ผ่านไปสัก 3 นาที
ผมกลับมา ของก็หายไปแล้ว ช่วงเวลาที่เสียเวลาดูกล้องวงจรปิด ผ่านไป 15 กว่านาที เพิ่งจะแจ้งบอกว่า
โจรใส่เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงยีนน้ำเงิน รองเท้าสีขาว ถือกระเป๋าเป้สีแดง ให้ดักที่หน้าทางเข้าออก สุดท้าย จน
หกโมงเย็นกว่าๆ ก็เงียบไม่มีความคืบหน้า เค้าก็ให้พาพวกผมไปโรงพัก ขณะนั้นผมมีแค่ กางเกงว่ายน้ำ แต่ดีหน่อย
เพื่อนผู้หญิงยังมีเสื้อผ้าใส่ไว้ในถุงเลยยังมีให้เปลี่ยน แต่ของผมไปหมด เจ้าหน้าทีให้เสื้อมาตัวแล้วก็ไปแจ้งความ
ถ้าเอาจริงๆนะ เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ว่าของหาย ก็ให้รีบแจ้งว่า ที่หน้าประตูใครถือกระเป๋าเป้สีแดง ให้ตรวจค้น หรือ
ควบคุมตัวไว้ก่อน มั่วแต่เสียเวลาคุยกับฝรั่งไม่รู้เรื่อง แล้วมีคนบอกฝรั่งนั้นอะ คุยภาษาไทยได้แต่ดันไม่คุย มาดูกล้อง
หน้าประตู โจรมันออกไปตอน 17.38 น. โดนเอาของไป 17.15 ผมแจ้ง 17.19 มันเดินไปหน้าประตู 9 นาที เอง หรือ
อาจนั่งรถไป
ของที่หายหลักๆ ที่อยากได้คือก็ ไอโฟน4 กับ ไอโฟน5 แถม หูฟัง เครื่องชาร์ต ครบเช็ต
กล้องถ่ายรูปโซนี่ แต่แค่นี้ก็ได้ไปเกือบ 4 หมื่นแล้ว เอกสารเงินสดในกระเป๋าตัง ก็รวมกับเพื่อน 2500 บาท
พวกคุณคิดว่า ทางสวนสยามจะยอมชดใช้ให้หรือไม่ กล้อง ก็จออยู่ตั้ง 4 ตัว คนดูกล้องมันไม่สังเกตเลยหรือไง
แต่ เห็นว่าในตู้เค้าบอกของหายจะไม่รับผิดชอบ แล้วงี้คนเค้าจะกล้าฝากของกันหรือ ขายกุญแจกระจอกๆ ให้อีก ใครๆ
ก็อยากจะฝากของไว้ในที่ปลอดภัย แล้วลงไปเล่นน้ำ ไปกัน 2 คน จะให้ดูของอีกคนอีกคนลงไปเล่นน้ำหรือไง
ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ เสียชื่อสวนสยามแน่ๆ ถ้าไม่ยอมชดใช้ เศร้า