เรื่องเล่าจากคนดูแลคนป่วยที่ไม่ยอมป่วย

กระทู้สนทนา
ผมอาจจะถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือไม่เก่ง แต่ผมอยากเล่าเรื่องราวของคนคนหนึ่ง จากใจผมครับ

"เธอคนเข้มแข็ง"

ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเหมือนโชคชะตาต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจกับเธอ ก่อนหน้านี้ เธอประสบความสำเร็จทุกประการ เรียนจบปริญญาโท สอบเข้ารับราชการติดถึง 2 ตำแหน่ง ให้โอกาสเธอทุกอย่าง พูดได้ว่าได้ทุกอย่างที่สมหวัง

แต่ชีวิตการพลิกผันไปจากอุบัติเหตุในครั้งเดียว กลับเป็นวิกฤตที่ต้องเผชิญมาตลอดเกือบ 2 ปี จะมีใครสักคนไหมที่ต้องรักษาร่างกายจากอุบัติเหตุมากมายและนานขนาดนี้ ต้องทนกับความเจ็บปวด อยู่ได้ด้วยกำลังใจ รออย่างมีความหวัง

เริ่มจากประสบอุบัติเหตุตกบันได วันที่ตกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาการจะเป็นมากน้อยเพียงใด แต่ใจที่ยังตั้งใจทำงาน ก็ยังลุกขึ้นไปสอนหนังสือจนหมดวัน เธอทนกับความเจ็บปวด โดยไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าต้องเจอกับความเจ็บปวดและทรมานอะไรอีกนานแค่ไหน

จากนั้น 2 วัน พบว่าผิดปกติของตัวเองที่ไม่สามารถขยับนิ้วเท้าได้ เธอไปหาหมอเพื่อดูอาการ หมอที่คลินิกพบว่าอาจมีปัญหากับเส้นประสาทด้านที่ตกบันได ให้รีบไปโรงพยาบาลด่วน!!! เมื่อไปถึงได้รักษาทันทีที่แผนกอุบัติเหตุในคืนนั้น แต่ก็ไม่สามารถสรุปอะไรได้ ต้องมาใหม่ในตอนเช้า แล้วมาพบหมออีกในตอนเช้า เธอโดนส่งตัวสลับไปมาระหว่างแผนกออร์โธปิดิกส์กับอายุรกรรม แต่สุดท้ายก็รักษาที่แผนกออร์โธฯ

เครื่องมือที่เธอตัองเจอชิ้นแรก คือ การตรวจด้วยเครื่อง MRI เพื่อสแกนกระดูกสันหลัง ผลออกมาไม่พบความผิดปกติใดๆ

จากนั้นก็ตรวจด้วยกระแสไฟฟ้าไปที่เส้นประสาท หรือ EMG ตั้งแต่หัวเข่าลงไปถึงปลายเท้า พบว่าเส้นประสาทโดนกดทับและอักเสบ

แค่นั้นยังไม่จบ หมอที่รักษาให้ทำการตรวจด้วยเครื่อง MRI เพื่อสแกนสมอง แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่พบความผิดปกติอะไร

ต่อมาเมื่อไม่พบหมอสั่งให้ตรวจ EMG อีกครั้ง เพื่อดูเส้นประสาทขาด้านบน ตั้งแต่หัวเข่าถึงสะโพกอีก (ผมไม่รู้นะครับว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน แต่เท่าที่เห็นแล้วได้ยินเสียงร้อง คงจะเจ็บปวดมาก) เธอเป็นคนที่พิเศษมากไม่ได้มีแค่รูปถ่ายหน้าตาเท่านั้น เธอยังมีรูปภ่ายกระดูกสันหลังและสมองเป็นของตัวเอง

ในระยะแรกของการรักษาเธอต้องใส่เครื่องช่วยพยุงปลายเท้า เพื่อมีอาการปลายเท้าตกด้วย เธอทำการรักษาการอักเสบของเส้นประสาทไปเรื่อย ๆ ด้วยการกินยามากมายในแต่ละวัน เธอคงเจ็บและทรมานมาก เพราะไม่อาจหลับได้เหมือนคนทั่วไป ต้องกินยาระงับความเจ็บปวด และยาคลายกล้ามเนื้อให้หลับไป ในแต่ละวัน

ไม่เพียงแต่ต้องกินยาทุกวันเท่านั้น กิจวัตรอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ คือ การไปทำกายภาพที่โรงพยาบาล เธอน่าจะเป็นคนไข้ที่อายุน้อยที่สุด ที่ต้องไปทำกายภาพที่โรงพยาบาลเป็นประจำ

การรักษาดำเนินต่อไป เธอมีหมอที่ต้องไปหาเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน จำนวน 4 ท่าน หมอนัด 3 เดือนครั้ง แต่หมอนัดไม่ตรงกัน สรุปไปหาหมอทุกเดือน

เวลาผ่านไป 1 ปี อาการดีขึ้น เมื่ออาการดีขึ้น ก็ต้องกลับมาเจอการตรวจ EMG อีกครั้งเพื่อดูพัฒนาการการรักษาของเส้นประสาท ผลออกมาในทิศทางที่ดี ที่เส้นประสาทกลับมาแล้ว อาการที่ดีขึ้น แต่ยาที่กินไม่ได้ลดลงเลย กลับมีมาเพิ่มขึ้น

เธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากเท่าที่เคยรู้จักมา เธออดทนมาก เธอเจ็บปวด เธอทรมาน แต่เธอทนได้ ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่เธอไม่เจ็บ เธอไม่ปวด เธอเจ็บปวดตลอดเวลา แต่เธอทนด้วยความเข้มแข็ง ผมนั่งนึกคิดนะว่า ถ้าเป็นผม ผมจะเข้มแข็งได้แบบเธอไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่