ก่อนอื่นขอเล่าข้อมูลก่อนคะว่า ปัจจุบันเราอายุ 29 ปี และคุณสามีอายุ 36 ปี เราแต่งงานมาแล้ว 4 ปี ยังไม่มีลูก ทั้งที่ไม่เคยคุมกำเนิด ซึ่งเราทราบอยู่แล้วว่าปัญหาอยู่ที่เรา เพราะเราทราบอยู่แล้วว่าเราเป็น PCOS (ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง) เนื่องจากเราเคยไปปรึกษาหมอมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นแล้วคะ ซึ่งถามว่าสามารถมีลูกได้ตามธรรมชาติไหม ก็ต้องบอกว่ามีคะ แต่โอกาสน้อยมาก แต่ที่เรายังไม่ได้ไปปรึกษาคุณหมอเนื่องจากเรายังติดภาระกิจฟิชโช่อีกหลายสิ่งอย่าง และเมื่อกลางปี 2556 จึงตัดสินใจไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษา พบว่าปัญหาของเรานอกจากเป็น PCOS แล้ว ท่อนำไข่ของเรายังอักเสบจนไม่สามารถใช้การได้ทั้ง 2 ข้าง เราจึงตัดสินใจผ่าตัดเอาท่อนำไข่ออกทั้ง 2 ข้าง(โดยวิธีการส่องกล้อง) และพักฟื้นเพื่อเตรียมร่างกาย 6 เดือนแล้วจึงเริ่มกระบวนการ IVF เราขอเล่ากระบวนการโดยละเอียด ดังนี้คะ
• 31 ม.ค. 57 เป็นวันที่ 2 ของรอบเดือน พบคุณหมอเพื่ออุลตร้าซาวด์ดูความพร้อมของไข่และผนังมดลูก คุณหมอบอกมีไข่ตั้งต้น 16 ฟอง รับยา Gonal-F ฉีด175 IU/วัน ฉีดทุกวันเวลา 20.00 น. รับยามา 3 เข็ม (1 เข็มฉีดได้ 2 วัน) ฉีด 31 ม.ค. - 5 ก.พ. 57 ค่าใช้จ่าย 15,200.-บาท
• 5 ก.พ. 57 คุณหมอนัดเพื่ออุลตร้าซาวด์ดูขนาดของไข่ และความหนาของผนังมดลูก ซึ่งคุณหมอจะจดขนาดของไข่แต่ละใบไว้ด้วย ซึ่งวันนี้ซาวด์เจอไข่ 18 ฟอง ไข่มีขนาดตั้งแต่ 11 - 14 มม.(ขนาดรวมถุงไข่) และผนังมดลูกหนา 10 มม. ซึ่งคุณหมอมองว่ารังไข่ตอบสนองต่อยาดีมาก และอีกไม่นานไข่คงจะตกแล้ว คุณหมอเลยให้ยา Orgalutran 0.25 mg/วัน ฉีดเวลาเดียวกับยา Gonal-F รับยามาอีกสำหรับฉีด 3 วัน ฉีด 6 - 8 ก.พ. 57 ลืมบอกไปว่ายาทั้งหมดจิ้มที่พุง บริเวณใต้สะดือประมาณ 2 นิ้ว และทั้งหมดฉีดด้วยตัวเอง ค่าใช้จ่าย 12,000.-บาท
• 8 ก.พ. 57 คุณหมอนัดมาอุลตร้าซาวด์อีกรอบ วันนี้ยังเจอไข่ 18 ฟองเหมือนเดิม ขนาดตั้งแต่ 16 - 18 มม. และผนังมดลูกหนา 12 มม. คุณหมอบอกได้ที่แล้วเก็บไข่วันจันทร์ได้เลย คุณหมอให้ยามาอีก 1 เข็ม เป็นยาเร่งให้ไข่ตกตามเวลา แต่อันนี้ต้องให้คุณพยาบาลฉีดให้ และต้องตรงเวลา ค่าใช้จ่าย 9,400.-บาท
• 9 ก.พ. 57 ไปฉีดยาที่โรงพยาบาล เวลา 6.00 น. ห้ามคลาดเคลื่อนเด็ดขาด ค่าใช้จ่าย 150.-บาท
• 10 ก.พ. 57
- 9.00 น. ไปถึงโรงพยาบาล ก็ทำการตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด จองห้องพัก แล้วก็จ่ายตังค์ หลังจากนั้นก็ไปนอนรอเวลาที่ห้องพัก งดน้ำ-งดอาหาร ตั้งแต่ตอนนี้
- 16.00 น. คุณสามีเก็บน้ำเชื้อเอาไปให้เจ้าหน้าที่
- 17.30 น. มีเจ้าหน้าที่มารับไปห้องผ่าตัด เพื่อเก็บไข่เวลา 18.00 น.
ตื่นลืมตามาได้...ประโยคแรกที่ถามคือ ได้ไข่กี่ใบคะ? 20 ใบคะ ^^
• 11 ก.พ. 57 ก่อนกลับบ้านพบคุณหมอ คุณหมอบอกว่าให้มาใส่ตัวอ่อนอีก 2 วัน คือเลี้ยงตัวอ่อนเป็นระยะ Day 3 ค่าใช้จ่าย 47,238.-บาท
• 13 ก.พ. 57 มาใส่ตัวอ่อนที่โรงพยาบาล เวลา 12.00 น. ของเราไม่ตัองดื่มน้ำให้เต็มกระเพาะปัสสาวะ เนื่องจากมดลูกของเราคว่ำไปข้างหลังอยู่แล้ว โชคดีจังไม่ต้องทรมานอั้นฉี่ คุณหมอบอกว่าไข่ปฏิสนธิได้ทั้งหมด 17 ตัวอ่อน ใช้ได้แค่ 15 ตัวอ่อน แต่ไม่มีเกรด A เลยสักตัว ดีที่สุดคือ B+ ครั้งนี้ครั้งแรก อายุก็ยังน้อย หมอจะใส่ตัวอ่อนเกรด B+ ให้ 2 ตัว จริงๆเราอยากใส่ 3 ตัว เพราะกลัวไม่ติด แต่คุณหมอยืนยันว่าให้ใส่แค่ 2 ตัว เพราะเป็นการทำครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าติดยากติดง่ายยังไง ไม่ต้องกลัวเรายังมีตัวอ่อนฟรีสไว้อีกตั้ง 13 ตัว หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้ยามาทาน + เหน็บ ค่าใช้จ่าย 3,498.-บาท
• 14 - 23 ก.พ. 57 เราอยู่บ้าน บอกตรงๆว่าเบื่อและเครียดมาก เนื่องจากปกติเราเป็นคนที่แทบจะไม่อยู่นิ่งเลย นี่ต้องมานอนอยู่บ้านเฉยๆฟุ้งซ่านสุดเลยคะ
• 24 - 26 ก.พ. 57 ไปทำงานตามปกติ
• 27 ก.พ. 57 ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจเลือด ผลปรากฏว่าไม่ท้องคะ ค่าใช้จ่าย 270.-บาท
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับรอบใส่ตัวอ่อนสด 87,756.-บาท
ในวันที่ฟังผลเราไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เพราะเราก็เทสปัสสาวะไปหลายครั้งแล้วคะ ขีดเดียวทุกครั้ง แล้วหมอถามเราเกี่ยวกับอาการของเราระหว่างรอฟังผล เราบอกเรามีอาการเท้าบวมกับข้อเท้าบวม หมอบอกโชคดีแล้วที่ไม่ท้อง เพราะเป็นอาการของ OHSS อาจจะมีโอกาสน้ำท่วมปอดได้ เนื่องจากเราได้ไข่จำนวนมาก ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นอยู่แล้ว แต่วันที่ย้ายตัวอ่อนคุณหมออุลตร้าซาวด์ดูก็ไม่ได้มีน้ำในท้องมาก เนื่องจากเราทานไข่ขาววันละ 8 ฟองคะ (กลัวเป็น OHSS แล้วไม่ได้ย้ายตัวอ่อน) แต่หลังจากใส่ตัวอ่อนก็ไม่ได้ทาน เราเลยถามคุณหมอว่าแล้วคุณหมอพอจะวิเคราะห์คร่าวๆได้มั้ยคะว่าเป็นเพราะอะไร คุณหมอบอกว่า ของเรามีสิ่งไม่ดีหลายอย่าง ทั้งฮอร์โมน Progesterone สูงถึง 17.48 ng/m ซึ่งคุณหมอบอกปกติไม่ควรเกิน 10 และผนังมดลูกหนาเกินไป ความจริงผนังมดลูกต้องหนา 8 - 11 mm. ถึงจะเหมาะสม(ของเรา 12.5 mm.) อ้าว!เราก็แอบตัดพ้อหมอว่าแล้วทำไมหมอไม่บอกจั้งแต่วันนั้น เราจะได้ไม่หวังมาก คุณหมอบอกว่าบอกไปก็เครียดเปล่าๆ แต่ในมุมมองของเรา เราว่าคนไข้ควรได้รับทราบข้อมูลในการรักษาอย่างครบถ้วนคะ แอบเซ็งจิต >_< อีกอย่างเราเสียดายตัวอ่อนคะ น่าจะรอย้ายตัวอ่อนตอนมดลูกพร้อม ฮอร์โมนเหมาะสม
คุณหมอจะนัดย้ายตัวอ่อนแช่แข็งรอบต่อไปรอบเดือน เม.ย. 57 คือเว้นระยะแค่ 1 เดือน
ต่อไปเป็นคำถามคะ ผู้รู้ช่วยตอบด้วยน่ะคะ
1. ฮอร์โมน Progesterone เราลองสืบค้นดูมีแต่คนบอกยิ่งมากยิ่งดี มันช่วยเรื่องการฝังตัวของตัวอ่อน เราเลยงงๆคะ?
2. ความหนาของผนังมดลูกก็ไม่เคยมีใครเคยบอกว่าต้องไม่เกิน 11 คนอื่นเค้ามีแต่ผนังมดลูกบาง เราเลยทำตัวไม่ถูกว่าควรทำยังไง?
3. ฮอร์โมนอื่นๆที่มีผลกับความสำเร็จของเราเป็นไงบ้าง มี Estradiol 2,026 pg/m และ LH 3.95 mIU/m ใครทราบช่วยวิเคราะห์หน่อยคะ?
4. รอบหน้าเราควรเว้นระยะมากกว่า 1 เดือนมั้ยคะ เราเห็นคุณหมอบางคนให้พัก 3 เดือน?
5. ถ้าใส่ตัวอ่อนรอบแช่แข็ง เราไม่อยู่บ้าน แต่ใช้ชีวิตปกติได้มั้ยคะ เรามีความรู้สึกว่ายิ่งนอนอยู่บ้านเฉยๆไม่มีอะไรทำ เรายิ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องว่าติด - ไม่ติด - ติด - ไม่ติด แต่ก็อีกนั่นแหละ งานของเราเป็นงานวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งค่อนข้างใช้ความคิดเยอะ และเราทำงานชั้น 2 พวกอุปกรณ์สำนักงานบางอย่างอยู่ชั้น 1 ถ้าไปทำงานเลยต้องขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ เลยกังวลคะว่าจะเอายังไงดี?
6. ถามข้ามช๊อตคะ เนื่องจากตัวอ่อนของเราคุณภาพไม่ดีจากภาวะ PCOS เราเลยเกรงว่าถ้าละลายตัวอ่อนออกมาจะตายเยอะ ถ้าตัวอ่อนที่ได้รอบนี้หมด เราควรเปลี่ยนหมอดีมั้ย แล้วจะมีวิธีการช่วยให้ตัวอ่อนของเรามีคุณภาพดีขึ้นได้บ้าง (คุณภาพของอสุจิของคุณสามีปกติดีทุกอย่าง)?
แชร์ประสบการณ์ทำเด็กหลอดแก้ว(IVF) และสอบถามผู้รู้เกี่ยวกับค่าฮอร์โมน - ความหนาของผนังมดลูก
• 31 ม.ค. 57 เป็นวันที่ 2 ของรอบเดือน พบคุณหมอเพื่ออุลตร้าซาวด์ดูความพร้อมของไข่และผนังมดลูก คุณหมอบอกมีไข่ตั้งต้น 16 ฟอง รับยา Gonal-F ฉีด175 IU/วัน ฉีดทุกวันเวลา 20.00 น. รับยามา 3 เข็ม (1 เข็มฉีดได้ 2 วัน) ฉีด 31 ม.ค. - 5 ก.พ. 57 ค่าใช้จ่าย 15,200.-บาท
• 5 ก.พ. 57 คุณหมอนัดเพื่ออุลตร้าซาวด์ดูขนาดของไข่ และความหนาของผนังมดลูก ซึ่งคุณหมอจะจดขนาดของไข่แต่ละใบไว้ด้วย ซึ่งวันนี้ซาวด์เจอไข่ 18 ฟอง ไข่มีขนาดตั้งแต่ 11 - 14 มม.(ขนาดรวมถุงไข่) และผนังมดลูกหนา 10 มม. ซึ่งคุณหมอมองว่ารังไข่ตอบสนองต่อยาดีมาก และอีกไม่นานไข่คงจะตกแล้ว คุณหมอเลยให้ยา Orgalutran 0.25 mg/วัน ฉีดเวลาเดียวกับยา Gonal-F รับยามาอีกสำหรับฉีด 3 วัน ฉีด 6 - 8 ก.พ. 57 ลืมบอกไปว่ายาทั้งหมดจิ้มที่พุง บริเวณใต้สะดือประมาณ 2 นิ้ว และทั้งหมดฉีดด้วยตัวเอง ค่าใช้จ่าย 12,000.-บาท
• 8 ก.พ. 57 คุณหมอนัดมาอุลตร้าซาวด์อีกรอบ วันนี้ยังเจอไข่ 18 ฟองเหมือนเดิม ขนาดตั้งแต่ 16 - 18 มม. และผนังมดลูกหนา 12 มม. คุณหมอบอกได้ที่แล้วเก็บไข่วันจันทร์ได้เลย คุณหมอให้ยามาอีก 1 เข็ม เป็นยาเร่งให้ไข่ตกตามเวลา แต่อันนี้ต้องให้คุณพยาบาลฉีดให้ และต้องตรงเวลา ค่าใช้จ่าย 9,400.-บาท
• 9 ก.พ. 57 ไปฉีดยาที่โรงพยาบาล เวลา 6.00 น. ห้ามคลาดเคลื่อนเด็ดขาด ค่าใช้จ่าย 150.-บาท
• 10 ก.พ. 57
- 9.00 น. ไปถึงโรงพยาบาล ก็ทำการตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด จองห้องพัก แล้วก็จ่ายตังค์ หลังจากนั้นก็ไปนอนรอเวลาที่ห้องพัก งดน้ำ-งดอาหาร ตั้งแต่ตอนนี้
- 16.00 น. คุณสามีเก็บน้ำเชื้อเอาไปให้เจ้าหน้าที่
- 17.30 น. มีเจ้าหน้าที่มารับไปห้องผ่าตัด เพื่อเก็บไข่เวลา 18.00 น.
ตื่นลืมตามาได้...ประโยคแรกที่ถามคือ ได้ไข่กี่ใบคะ? 20 ใบคะ ^^
• 11 ก.พ. 57 ก่อนกลับบ้านพบคุณหมอ คุณหมอบอกว่าให้มาใส่ตัวอ่อนอีก 2 วัน คือเลี้ยงตัวอ่อนเป็นระยะ Day 3 ค่าใช้จ่าย 47,238.-บาท
• 13 ก.พ. 57 มาใส่ตัวอ่อนที่โรงพยาบาล เวลา 12.00 น. ของเราไม่ตัองดื่มน้ำให้เต็มกระเพาะปัสสาวะ เนื่องจากมดลูกของเราคว่ำไปข้างหลังอยู่แล้ว โชคดีจังไม่ต้องทรมานอั้นฉี่ คุณหมอบอกว่าไข่ปฏิสนธิได้ทั้งหมด 17 ตัวอ่อน ใช้ได้แค่ 15 ตัวอ่อน แต่ไม่มีเกรด A เลยสักตัว ดีที่สุดคือ B+ ครั้งนี้ครั้งแรก อายุก็ยังน้อย หมอจะใส่ตัวอ่อนเกรด B+ ให้ 2 ตัว จริงๆเราอยากใส่ 3 ตัว เพราะกลัวไม่ติด แต่คุณหมอยืนยันว่าให้ใส่แค่ 2 ตัว เพราะเป็นการทำครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าติดยากติดง่ายยังไง ไม่ต้องกลัวเรายังมีตัวอ่อนฟรีสไว้อีกตั้ง 13 ตัว หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้ยามาทาน + เหน็บ ค่าใช้จ่าย 3,498.-บาท
• 14 - 23 ก.พ. 57 เราอยู่บ้าน บอกตรงๆว่าเบื่อและเครียดมาก เนื่องจากปกติเราเป็นคนที่แทบจะไม่อยู่นิ่งเลย นี่ต้องมานอนอยู่บ้านเฉยๆฟุ้งซ่านสุดเลยคะ
• 24 - 26 ก.พ. 57 ไปทำงานตามปกติ
• 27 ก.พ. 57 ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจเลือด ผลปรากฏว่าไม่ท้องคะ ค่าใช้จ่าย 270.-บาท
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับรอบใส่ตัวอ่อนสด 87,756.-บาท
ในวันที่ฟังผลเราไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เพราะเราก็เทสปัสสาวะไปหลายครั้งแล้วคะ ขีดเดียวทุกครั้ง แล้วหมอถามเราเกี่ยวกับอาการของเราระหว่างรอฟังผล เราบอกเรามีอาการเท้าบวมกับข้อเท้าบวม หมอบอกโชคดีแล้วที่ไม่ท้อง เพราะเป็นอาการของ OHSS อาจจะมีโอกาสน้ำท่วมปอดได้ เนื่องจากเราได้ไข่จำนวนมาก ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นอยู่แล้ว แต่วันที่ย้ายตัวอ่อนคุณหมออุลตร้าซาวด์ดูก็ไม่ได้มีน้ำในท้องมาก เนื่องจากเราทานไข่ขาววันละ 8 ฟองคะ (กลัวเป็น OHSS แล้วไม่ได้ย้ายตัวอ่อน) แต่หลังจากใส่ตัวอ่อนก็ไม่ได้ทาน เราเลยถามคุณหมอว่าแล้วคุณหมอพอจะวิเคราะห์คร่าวๆได้มั้ยคะว่าเป็นเพราะอะไร คุณหมอบอกว่า ของเรามีสิ่งไม่ดีหลายอย่าง ทั้งฮอร์โมน Progesterone สูงถึง 17.48 ng/m ซึ่งคุณหมอบอกปกติไม่ควรเกิน 10 และผนังมดลูกหนาเกินไป ความจริงผนังมดลูกต้องหนา 8 - 11 mm. ถึงจะเหมาะสม(ของเรา 12.5 mm.) อ้าว!เราก็แอบตัดพ้อหมอว่าแล้วทำไมหมอไม่บอกจั้งแต่วันนั้น เราจะได้ไม่หวังมาก คุณหมอบอกว่าบอกไปก็เครียดเปล่าๆ แต่ในมุมมองของเรา เราว่าคนไข้ควรได้รับทราบข้อมูลในการรักษาอย่างครบถ้วนคะ แอบเซ็งจิต >_< อีกอย่างเราเสียดายตัวอ่อนคะ น่าจะรอย้ายตัวอ่อนตอนมดลูกพร้อม ฮอร์โมนเหมาะสม
คุณหมอจะนัดย้ายตัวอ่อนแช่แข็งรอบต่อไปรอบเดือน เม.ย. 57 คือเว้นระยะแค่ 1 เดือน
ต่อไปเป็นคำถามคะ ผู้รู้ช่วยตอบด้วยน่ะคะ
1. ฮอร์โมน Progesterone เราลองสืบค้นดูมีแต่คนบอกยิ่งมากยิ่งดี มันช่วยเรื่องการฝังตัวของตัวอ่อน เราเลยงงๆคะ?
2. ความหนาของผนังมดลูกก็ไม่เคยมีใครเคยบอกว่าต้องไม่เกิน 11 คนอื่นเค้ามีแต่ผนังมดลูกบาง เราเลยทำตัวไม่ถูกว่าควรทำยังไง?
3. ฮอร์โมนอื่นๆที่มีผลกับความสำเร็จของเราเป็นไงบ้าง มี Estradiol 2,026 pg/m และ LH 3.95 mIU/m ใครทราบช่วยวิเคราะห์หน่อยคะ?
4. รอบหน้าเราควรเว้นระยะมากกว่า 1 เดือนมั้ยคะ เราเห็นคุณหมอบางคนให้พัก 3 เดือน?
5. ถ้าใส่ตัวอ่อนรอบแช่แข็ง เราไม่อยู่บ้าน แต่ใช้ชีวิตปกติได้มั้ยคะ เรามีความรู้สึกว่ายิ่งนอนอยู่บ้านเฉยๆไม่มีอะไรทำ เรายิ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องว่าติด - ไม่ติด - ติด - ไม่ติด แต่ก็อีกนั่นแหละ งานของเราเป็นงานวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งค่อนข้างใช้ความคิดเยอะ และเราทำงานชั้น 2 พวกอุปกรณ์สำนักงานบางอย่างอยู่ชั้น 1 ถ้าไปทำงานเลยต้องขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ เลยกังวลคะว่าจะเอายังไงดี?
6. ถามข้ามช๊อตคะ เนื่องจากตัวอ่อนของเราคุณภาพไม่ดีจากภาวะ PCOS เราเลยเกรงว่าถ้าละลายตัวอ่อนออกมาจะตายเยอะ ถ้าตัวอ่อนที่ได้รอบนี้หมด เราควรเปลี่ยนหมอดีมั้ย แล้วจะมีวิธีการช่วยให้ตัวอ่อนของเรามีคุณภาพดีขึ้นได้บ้าง (คุณภาพของอสุจิของคุณสามีปกติดีทุกอย่าง)?