1 | “Christian Bale” (American Hustle)
เบลเข้าชิงออสการ์เป็นครั้งที่ 2 ในหนังของผู้กำกับคนเดียวกับที่ทำให้เฮียได้ออสการ์สมทบชายจาก ‘The Fighter’ ครั้งนี้ในสาขานำชาย เฮียมาในบท ‘Irving Rosenfeld’ นักต้มตุ๋นมืออาชีพที่ถูก FBI จับได้และถูกใช้ให้เข้ามาช่วยหลอกจับนักการเมืองที่โกงชาติ ไม่ขอพูดไรมากฮะ ขอแค่พูดถึงการแสดงของเบลแบบสั้นๆ ว่า...เล่นดีกว่า ‘Tom Hanks’ และ ‘Joaquin Phoenix’ ตรงส่วนไหน?? คิดแปดตลบก็ยังหาไม่เจอ

2 | “Bruce Dern” (Nebraska)
ลุงบรุซเข้าชิงจากบท ‘Woody Grant’ ตาแก่หลงๆ ลืมๆ ที่พยายามหาความหมายให้กับชีวิตอีกครั้งในวัยที่เป็นไม้ใกล้ฝั่ง ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่เท่าที่ได้ดูตัวอย่างหนังและผลงานที่ผ่านมาของผู้กำกับ Alexander Payne ก็มีความเชื่อใจในระดับนึงว่า หนังน่าจะออกมาดี และการแสดงของลุงบรุซ ก็น่าจะดีคุ่ควรกับการเข้าชิง ไม่แพ้บทพ่อของหนังเพนย์เรื่องก่อนๆ ที่ส่งให้ George Clooney เข้าชิงจาก The Descendants และลุง Jack Nicholson เข้าชิงจาก About Schmidt

3 | “Leonardo DiCaprio” (The Wolf of Wall Street)
ก่อนหน้านี้ลีโอเข้าชิงออสการ์ 3 ครั้ง เป็นบทนำสอง สมทบอีกหนึ่ง แต่ยังไม่มีครั้งไหนที่ทำให้เฮียได้ออสการ์มานอนกอดซักที สำหรับการเข้าชิงในครั้งนี้เฮียแกเลยจัดเต็มมากๆ กับบท ‘Jordan Belfort’ โบรกเกอร์ที่ร่ำรวยจากการหลอกขายหุ้นให้ชาวบ้าน ซึ่งเฮียเล่นออกมาได้บ้าบอคอแตกสุดๆ เป็นอีกบทบาทนึงที่แปลกใหม่และไม่คิดว่าจะได้เห็นจากลีโอ หลังจากที่เริ่มรู้สึกเบื่อบทบาทเครียดๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดของเฮียติดต่อกันหลายเรื่อง เปลี่ยนคาแรกเตอร์แบบนี้บ้างก็ดี

4 | “Chiwetel Ejiofor” (12 Years a Slave)
ชิวอิเทลรับบทของบุคคลที่มีอยู่จริง ‘Solomon Northup’ หนุ่มผิวสีที่เป็นไท แต่ถูกหลอกมาขายเป็นทาสถึง 12 ปี เขาจึงต้องหาทางเอาอิสรภาพของตัวเองกลับคืนมา บทนี้เป็นบทที่เข้มข้นหนักหน่วงเอามากๆ ตามเนื้อหาของหนัง ซึ่งชิวอิเทลสามารถถ่ายทอดบทโซโลมอนได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะการแสดงออกถึงความเจ็บปวดผ่านแววตา น่าเสียดายว่าเฮียสตาร์ทมาเร็วมาแรง นับตั้งแต่สถาบันของนักวิจารณ์ต่างๆ ที่เริ่มประกาศผล แต่สงสัยจะเหนื่อยเลยแผ่วปลายซะงั้น

5 | “Mathew McConaughey” (Dallas Buyers Club)
แมทธิวลงทุนลดน้ำหนักกว่า 20 กิโล เพื่อรับบท ‘Ron Woodroof’ ช่างไฟจากเท็กซัสที่ติดเชื้อเอดส์ และมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 30 วันเท่านั้น ในช่วงที่โรคนี้เริ่มแพร่ระบาดและอยู่ในช่วงวิจัยยา รอนจึงต้องหาทางลักลอบนำยารักษาโรคมาจากต่างประเทศมาประทังชีวิต บทนี้ถือว่าเป็นแนวทางที่ชื่นชอบของออสการ์เลยว่าได้ครับ ตั้งแต่การเล่นเป็นคนที่มีอยู่จริง การลงทุนแปลงโฉมตัวเอง รวมไปถึงความเข้มข้นของบท ก็นำให้เฮียกลายเป็นเต็งหนึ่งในเวลานี้ โดยมีรางวัล SAG, Golden Globe, Critics’Choice มาการันตีก่อนหน้า


สาขานี้ผมปล่อยไปตามเรื่องราวของมันล่ะครับ ไม่รู้จะเชียร์ใคร ไม่ได้โดนใจกับการแสดงของใครเป็นพิเศษ และทอม แฮงส์ กับวาคิน ฟีนิกซ์ก็ไม่ได้เข้าชิงด้วย ฮ่าๆๆ

Join us here...เบิกโรงซินีม่า  
https://www.facebook.com/BergRongCinema