เบอร์โทรเข้ามาเมื่อหลายวันก่อน เนื่องจากตอนนั้นคิดว่าเราไม่ได้ยื่นจริงจะทำอะไรเราได้ แต่พอมานั่งนึกๆดูประกอบกับส่วนตัวอ่านพันทิฟค่อนข้างบ่อย
ก็ได้เห็นหลายๆเคสที่โดนหลอกหรือโดนโกงเงินไม่ว่าจากมิจฉาชีพหรือสถาบันการเงินด้วยหลายๆวิธี จึงเริ่มรู้สึกกลัวโดนต้มเหมือนกัน
แต่จำไม่ได้ว่ากี่วันแล้ว จึงหาเบอร์นั้นที่โทรเข้ามาไม่ได้เพราะมีเบอร์ไม่รู้จักหลายเบอร์ทีเดียว เผลอให้ไปผิดจะไม่ดีซะมากกว่า
เข้าเรื่อง
หลังรับสายแล้วเป็นเสียงที่เป็นการอัดเทปไว้เหมือนพวกโทรมาโฆษณาโปรโมรชั่นแต่เนื้อหาคือ "เงินกู้สองแสนบาทที่ท่านได้ทำการยื่นกู้ไว้กับธนาคารกสิกรได้ทำการอนุมัติเรียบร้อยแล้วค่ะ ต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่กด 2(สมมุติเพราะจำไม่ค่อยได้ว่าเลขอะไร)"
ทั้งๆที่ส่วนตัวมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่เคยยื่นกู้ใดๆทั้งสิ้น และไม่เคยมีเอกสารจากทาง kbank ส่งมาที่บ้านเลยแม้แต่ฉบับเดียวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
และที่สำคัญที่สุดคือผมได้ทำการปิดบัญชีของทางธนาคารกสิกรไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน และถึงตอนยังใช้อยู่ก็ไม่ได้ทำธุรกรรมการเงินอะไรมาก เพราะโดยหลักจะใช้อีกธนาคารซะมากกว่า
กลัวเหมือนกันว่าจะมีเคสคนเอาบัตรประชาชนปลอมแปลงอะไรทำนองนั้นไปเปิดบัญชีแล้วยื่นกู้ เพราะขนาดเคส scb โดน hack เงินผ่านเน็ทขณะที่เจ้าของบัญชีท่านนั้นก็ระวังตัวมากขนาดนั้น และจากที่ผมอ่านในกระทู้นั้นก็ทราบความว่าต่อให้ไม่เปิด scb easy net ก็อาจโดนยื่นเรื่องไปเปิดได้ เพราะฉะนั้นก็มีสิทธิคนอื่นแอบอ้างตัวเราไปเปิดบัญชีได้เช่นกัน
หลายท่านอาจคิดว่าผมระแวงมากไป แต่อาจเพราะมีความรู้สึกที่อคติต่อกสิกรอยู่เป็นทุนเดิมก็เป็นได้และเป็นสาเหตุที่ผมขอลาขาด เพราะได้เห็นญาติหรือคนรู้จักบางคนไปทำการถอนเงินและโอนเงินแทนเจ้าของบัญชีได้โดยไม่ต้องทำการมอบอำนาจฉันทะใดๆทั้งสิ้น(เรื่องจริงครับ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เป็นสิบเป็นร้อยครั้ง จำนวนเงินก็ไม่ใช่ไม่กี่หมื่น บางทีล้านขึ้นก็มี) โดยที่ต้นเหตุมีเพียงแค่คนๆนั้นที่มาทำการโอนแทนเคยถูกเจ้าของบัญชีพามาหลายๆครั้งและสนิทสนมกับพนักงาน ประกอบกับเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ธนาคารต่างสาขาต้องเอาอกเอาใจ แต่ผมคิดว่านี่ไม่ควรเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นเลย จากนั้นผมก็คิดว่าแล้วถ้าวันหนึ่งคนที่ไปโอนแทนต้องการฉกเงินจากเจ้าของบัญชีก็สามารถทำได้ง่ายๆแบบไม่เสียแรงเลยสิ จึงเป็นที่มาของอคติของผม และเป็นสาเหตุของความระแวงของผมในวันนี้ จึงโปรดทุกท่านเข้าใจตัวผมด้วย
ขอเพิ่มเติมว่าผมไม่ได้มีอะไรได้เสียและเจตนากล่าวร้ายต่อกสิกร เพียงแต่มีความกังวลมาเล่าสู้กันฟัง
และหากสิ่งที่ผมกล่าวมาไม่ใช่เจตนาของทางธนาคาร ก็จะได้ถือเป็นการที่ให้ธนาคารได้ทราบถึงมีผู้แอบอ้างชื่อของธนาคารไปทำสิ่งที่ไม่ดี
มีเบอร์โทรเข้ามาบอกว่า"เงินกู้สองแสนบาทที่ยื่นขอได้อนุมัติแล้ว"
ก็ได้เห็นหลายๆเคสที่โดนหลอกหรือโดนโกงเงินไม่ว่าจากมิจฉาชีพหรือสถาบันการเงินด้วยหลายๆวิธี จึงเริ่มรู้สึกกลัวโดนต้มเหมือนกัน
แต่จำไม่ได้ว่ากี่วันแล้ว จึงหาเบอร์นั้นที่โทรเข้ามาไม่ได้เพราะมีเบอร์ไม่รู้จักหลายเบอร์ทีเดียว เผลอให้ไปผิดจะไม่ดีซะมากกว่า
เข้าเรื่อง
หลังรับสายแล้วเป็นเสียงที่เป็นการอัดเทปไว้เหมือนพวกโทรมาโฆษณาโปรโมรชั่นแต่เนื้อหาคือ "เงินกู้สองแสนบาทที่ท่านได้ทำการยื่นกู้ไว้กับธนาคารกสิกรได้ทำการอนุมัติเรียบร้อยแล้วค่ะ ต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่กด 2(สมมุติเพราะจำไม่ค่อยได้ว่าเลขอะไร)"
ทั้งๆที่ส่วนตัวมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่เคยยื่นกู้ใดๆทั้งสิ้น และไม่เคยมีเอกสารจากทาง kbank ส่งมาที่บ้านเลยแม้แต่ฉบับเดียวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
และที่สำคัญที่สุดคือผมได้ทำการปิดบัญชีของทางธนาคารกสิกรไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน และถึงตอนยังใช้อยู่ก็ไม่ได้ทำธุรกรรมการเงินอะไรมาก เพราะโดยหลักจะใช้อีกธนาคารซะมากกว่า
กลัวเหมือนกันว่าจะมีเคสคนเอาบัตรประชาชนปลอมแปลงอะไรทำนองนั้นไปเปิดบัญชีแล้วยื่นกู้ เพราะขนาดเคส scb โดน hack เงินผ่านเน็ทขณะที่เจ้าของบัญชีท่านนั้นก็ระวังตัวมากขนาดนั้น และจากที่ผมอ่านในกระทู้นั้นก็ทราบความว่าต่อให้ไม่เปิด scb easy net ก็อาจโดนยื่นเรื่องไปเปิดได้ เพราะฉะนั้นก็มีสิทธิคนอื่นแอบอ้างตัวเราไปเปิดบัญชีได้เช่นกัน
หลายท่านอาจคิดว่าผมระแวงมากไป แต่อาจเพราะมีความรู้สึกที่อคติต่อกสิกรอยู่เป็นทุนเดิมก็เป็นได้และเป็นสาเหตุที่ผมขอลาขาด เพราะได้เห็นญาติหรือคนรู้จักบางคนไปทำการถอนเงินและโอนเงินแทนเจ้าของบัญชีได้โดยไม่ต้องทำการมอบอำนาจฉันทะใดๆทั้งสิ้น(เรื่องจริงครับ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เป็นสิบเป็นร้อยครั้ง จำนวนเงินก็ไม่ใช่ไม่กี่หมื่น บางทีล้านขึ้นก็มี) โดยที่ต้นเหตุมีเพียงแค่คนๆนั้นที่มาทำการโอนแทนเคยถูกเจ้าของบัญชีพามาหลายๆครั้งและสนิทสนมกับพนักงาน ประกอบกับเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ธนาคารต่างสาขาต้องเอาอกเอาใจ แต่ผมคิดว่านี่ไม่ควรเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นเลย จากนั้นผมก็คิดว่าแล้วถ้าวันหนึ่งคนที่ไปโอนแทนต้องการฉกเงินจากเจ้าของบัญชีก็สามารถทำได้ง่ายๆแบบไม่เสียแรงเลยสิ จึงเป็นที่มาของอคติของผม และเป็นสาเหตุของความระแวงของผมในวันนี้ จึงโปรดทุกท่านเข้าใจตัวผมด้วย
ขอเพิ่มเติมว่าผมไม่ได้มีอะไรได้เสียและเจตนากล่าวร้ายต่อกสิกร เพียงแต่มีความกังวลมาเล่าสู้กันฟัง
และหากสิ่งที่ผมกล่าวมาไม่ใช่เจตนาของทางธนาคาร ก็จะได้ถือเป็นการที่ให้ธนาคารได้ทราบถึงมีผู้แอบอ้างชื่อของธนาคารไปทำสิ่งที่ไม่ดี