คือเราพึ่งมีลูกค่ะ แล้วเราก็รู้สึกอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากที่เป็นอยู่เพื่อยกระดับฐานะ
ประมาณว่าพอมีลูก ก็อยากให้ลูกอยู่ดีกินดี ไม่ใช่มีลูกแล้วต้องลำบากกันทั้งครอบครัว
เราเลยมองหาอาชีพเสริม พอดีเห็นที่นึงเขาเปิดคอร์สสอนเปิดร้านกาแฟ ราคาแค่หลักร้อย แต่เรียนวันธรรมดา 1วัน (อีก1เดือนข้างหน้า) ต้องหยุดงานประจำเพื่อไปเรียน
เราอยากเรียนมาก เพราะเราอยากชงเครื่องดื่มเป็น และอยากได้มุมมองใหม่ๆในการหาอาชีพเสริม
ไม่ใช่ว่าจะเปิดร้านเป็นอาชีพหลักนะคะ คือเหมือนเราอยากจุดประกายอะไรสักอย่าง เลยเริ่มหาการเปลี่ยนแปลงด้วยการไปลองเรียนดู
เราเลยขอลาพักร้อน 1 วันล่วงหน้า1เดือน ตั้งใจไปเตรียมตัวเต็มที่ บริษัทกับหัวหน้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะที่เราลา1วัน แต่เราไม่ได้บอกว่าเราลาไปทำอะไร เพราะเราลาพักร้อน มันสิทธิ์ของเราที่จะทำอะไรในวันนั้นก็ได้
พอถึงเวลา เราก็ไปเรียนค่ะ วิทยากรดีมากๆ ตั้งใจให้ความรู้เรื่องการลงทุนเปิดร้านกาแฟเต็มที่ เหมือนเราซื้อความรู้ของผู้มีประสบการณ์ 30ปีด้วยเงินไม่ถึงพัน
เรียนเสร็จเราก็ได้ขนเครื่องดื่มที่เราชงใส่ขวดกลับบ้านมาค่ะ
เรื่องมันเริ่มก็ตรงที่
แม่เราเห็นว่าเราขนขวดมาเต็มไปหมด ถามว่าไปซื้อทำไมมาเยอะแยะ เราก็บอกว่า วันนี้เราไปเรียนเปิดร้านกาแฟมา ได้เรียนชงกาแฟเลยเอากลับมาให้ชิมฝีมือกัน
แม่ก็นึกว่าวันนี้เราไปทำงานค่ะ เลยต่อว่าเราใหญ่เลยว่า ลางานไปเรียนเนี่ยนะ
เราก็บอกว่าใช่ ลาพักร้อนไปเรียน ทำไมหรอ
แม่ก็บอกว่ามันไม่ดี ไม่ควรทำ มันดูไม่ดีลางานไปทำอะไรแบบนี้
เราก็งงค่ะว่ามันผิด หรือไม่ดียังไง เราก็บอกว่าอยากเปิดมุมมองใหม่ๆ อยากรวย ไม่ได้ลาออกไปเปิดร้านกาแฟ แค่อยากลองหาอาชีพเสริมหรือลองหาอะไรลงทุนดู
แล้วเราก็ลาล่วงหน้าเป็นเดือนค่ะ บริษัทรับรู้ คนที่จะเดือดร้อนเพราะเราลาน่าจะเป็นบริษัท ไม่ใช่แม่ไปเดือดร้อนแทน
แม่ก็พูดอยู่นั่นแหละค่ะว่ามันดูไม่ดี เอาวันหยุดมาทำแบบนี้ ลาพาลูกไปหาหมอ หรือลาไปเที่ยวก็ว่าไปอย่าง
แบบนี้ไม่ดีต่อบริษัท หรืออะไรจำไม่ได้ค่ะประมาณว่าไม่ภักดีต่อบริษัท เขาจะมองเราไม่ดี ทำให้บริษัทมองเราแย่
เราอธิบายจนเราเริ่มโมโหจนทะเลาะกับแม่ใหญ่โตเลยค่ะ เราบอกว่ามันผิดตรงไหนที่เอาวันลาไปเรียนชงกาแฟเนี่ย
ถึงเราบอกบริษัทว่า เราลาไปเรียนชงกาแฟ แล้วเราผิดในสายตาบริษัทไหมคะ เราก็คิดว่าไม่ เพราะวันหยุดเรา เราจะทำอะไรก็ได้ มันสิทธิ์ฃองเรานี่
แล้วเรียนชงกาแฟมันเสียหายกับบริษัทยังไง เราทำงานเกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ค่ะ ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวกับชากาแฟทั้งสิ้น
เราก็เถียงกับแม่ประมาณนี้ค่ะ วนไปวนมา จนแม่บอกว่า กลับไปคิดให้ดีๆ เราก็เถียงค่ะว่า ก็นี่ไงคิดดีแล้วถึงวางแผนลาไปเรียน ไม่ใช่อยู่ๆก็ลาป่วยไปเรียนสักหน่อย
คือเราคิดว่ายังไงเราก็ไม่ผิดค่ะ เราเลยเถียงกึ่งอธิบายว่ายังไงเราก็ไม่ผิด จนแม่เดินหนีเราไปเลยค่ะ
เราก็เถียงจนบ่อน้ำตาแตกเลย คือตราบใดที่เรามีงานประจำนี่มิควรหาอาชีพเสริม เพราะบริษัทกลัวจะไปลดทอนการทำงานของงานประจำหรอคะ ความจริงเราก็ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรจริงจังเลยนะคะ แค่ลาไปเรียนวันเดียวเท่านั้น แล้วถ้าเราทำจริง เราก็คงทำนอกเวลางานค่ะ หรือจ้างคนอื่นทำ เราแค่ลงทุนเม็ดเงินเริ่มต้นเท่านั้น(ที่คิดไว้นะคะ แต่ย้ำว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้นค่ะ กาแฟมันก็ชงขายเวลางานได้ที่ไหน)
แล้วการลาหยุดไปเรียนอาชีพเสริม บริษัทเขามองว่าไม่ดีหรอคะ ที่ถามนี่เพราะเรามีมุมมองแค่ว่า วันหยุดฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้เท่านั้นเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครทั้งสิ้น
ลางานเพื่อไปเรียนอาชีพเสริมมันผิดรึเปล่าคะ?
ประมาณว่าพอมีลูก ก็อยากให้ลูกอยู่ดีกินดี ไม่ใช่มีลูกแล้วต้องลำบากกันทั้งครอบครัว
เราเลยมองหาอาชีพเสริม พอดีเห็นที่นึงเขาเปิดคอร์สสอนเปิดร้านกาแฟ ราคาแค่หลักร้อย แต่เรียนวันธรรมดา 1วัน (อีก1เดือนข้างหน้า) ต้องหยุดงานประจำเพื่อไปเรียน
เราอยากเรียนมาก เพราะเราอยากชงเครื่องดื่มเป็น และอยากได้มุมมองใหม่ๆในการหาอาชีพเสริม
ไม่ใช่ว่าจะเปิดร้านเป็นอาชีพหลักนะคะ คือเหมือนเราอยากจุดประกายอะไรสักอย่าง เลยเริ่มหาการเปลี่ยนแปลงด้วยการไปลองเรียนดู
เราเลยขอลาพักร้อน 1 วันล่วงหน้า1เดือน ตั้งใจไปเตรียมตัวเต็มที่ บริษัทกับหัวหน้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะที่เราลา1วัน แต่เราไม่ได้บอกว่าเราลาไปทำอะไร เพราะเราลาพักร้อน มันสิทธิ์ของเราที่จะทำอะไรในวันนั้นก็ได้
พอถึงเวลา เราก็ไปเรียนค่ะ วิทยากรดีมากๆ ตั้งใจให้ความรู้เรื่องการลงทุนเปิดร้านกาแฟเต็มที่ เหมือนเราซื้อความรู้ของผู้มีประสบการณ์ 30ปีด้วยเงินไม่ถึงพัน
เรียนเสร็จเราก็ได้ขนเครื่องดื่มที่เราชงใส่ขวดกลับบ้านมาค่ะ
เรื่องมันเริ่มก็ตรงที่
แม่เราเห็นว่าเราขนขวดมาเต็มไปหมด ถามว่าไปซื้อทำไมมาเยอะแยะ เราก็บอกว่า วันนี้เราไปเรียนเปิดร้านกาแฟมา ได้เรียนชงกาแฟเลยเอากลับมาให้ชิมฝีมือกัน
แม่ก็นึกว่าวันนี้เราไปทำงานค่ะ เลยต่อว่าเราใหญ่เลยว่า ลางานไปเรียนเนี่ยนะ
เราก็บอกว่าใช่ ลาพักร้อนไปเรียน ทำไมหรอ
แม่ก็บอกว่ามันไม่ดี ไม่ควรทำ มันดูไม่ดีลางานไปทำอะไรแบบนี้
เราก็งงค่ะว่ามันผิด หรือไม่ดียังไง เราก็บอกว่าอยากเปิดมุมมองใหม่ๆ อยากรวย ไม่ได้ลาออกไปเปิดร้านกาแฟ แค่อยากลองหาอาชีพเสริมหรือลองหาอะไรลงทุนดู
แล้วเราก็ลาล่วงหน้าเป็นเดือนค่ะ บริษัทรับรู้ คนที่จะเดือดร้อนเพราะเราลาน่าจะเป็นบริษัท ไม่ใช่แม่ไปเดือดร้อนแทน
แม่ก็พูดอยู่นั่นแหละค่ะว่ามันดูไม่ดี เอาวันหยุดมาทำแบบนี้ ลาพาลูกไปหาหมอ หรือลาไปเที่ยวก็ว่าไปอย่าง
แบบนี้ไม่ดีต่อบริษัท หรืออะไรจำไม่ได้ค่ะประมาณว่าไม่ภักดีต่อบริษัท เขาจะมองเราไม่ดี ทำให้บริษัทมองเราแย่
เราอธิบายจนเราเริ่มโมโหจนทะเลาะกับแม่ใหญ่โตเลยค่ะ เราบอกว่ามันผิดตรงไหนที่เอาวันลาไปเรียนชงกาแฟเนี่ย
ถึงเราบอกบริษัทว่า เราลาไปเรียนชงกาแฟ แล้วเราผิดในสายตาบริษัทไหมคะ เราก็คิดว่าไม่ เพราะวันหยุดเรา เราจะทำอะไรก็ได้ มันสิทธิ์ฃองเรานี่
แล้วเรียนชงกาแฟมันเสียหายกับบริษัทยังไง เราทำงานเกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ค่ะ ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวกับชากาแฟทั้งสิ้น
เราก็เถียงกับแม่ประมาณนี้ค่ะ วนไปวนมา จนแม่บอกว่า กลับไปคิดให้ดีๆ เราก็เถียงค่ะว่า ก็นี่ไงคิดดีแล้วถึงวางแผนลาไปเรียน ไม่ใช่อยู่ๆก็ลาป่วยไปเรียนสักหน่อย
คือเราคิดว่ายังไงเราก็ไม่ผิดค่ะ เราเลยเถียงกึ่งอธิบายว่ายังไงเราก็ไม่ผิด จนแม่เดินหนีเราไปเลยค่ะ
เราก็เถียงจนบ่อน้ำตาแตกเลย คือตราบใดที่เรามีงานประจำนี่มิควรหาอาชีพเสริม เพราะบริษัทกลัวจะไปลดทอนการทำงานของงานประจำหรอคะ ความจริงเราก็ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรจริงจังเลยนะคะ แค่ลาไปเรียนวันเดียวเท่านั้น แล้วถ้าเราทำจริง เราก็คงทำนอกเวลางานค่ะ หรือจ้างคนอื่นทำ เราแค่ลงทุนเม็ดเงินเริ่มต้นเท่านั้น(ที่คิดไว้นะคะ แต่ย้ำว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้นค่ะ กาแฟมันก็ชงขายเวลางานได้ที่ไหน)
แล้วการลาหยุดไปเรียนอาชีพเสริม บริษัทเขามองว่าไม่ดีหรอคะ ที่ถามนี่เพราะเรามีมุมมองแค่ว่า วันหยุดฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้เท่านั้นเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครทั้งสิ้น