เมื่อวันที่ 26 ก.พ.57 นายวุฒิพงษ์ แปงใจ นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เริ่มรณรงค์ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลดการใช้โฟมและพลาสติกในโรงอาหาร ผ่าน
http://www.change.org/kunofoam
กล่าวว่า มีเพื่อนๆนิสิต ม.เกษตร ร่วมสนับสนุนการรณรงค์เป็นจำนวนมาก จึงได้นำรายชื่อไปยื่นให้กับฝ่ายสิ่งแวดล้อม และสำนักงานฝ่ายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย โดยสำนักงานฝ่ายทรัพย์สิน ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลโรงอาหารทั้งหมด เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และพร้อมสนับสนุน โดยได้ประกาศขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ค้าอาหารงดการใช้โฟม โดยใช้ภาชนะอื่นทดแทนซี่งต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภาพโฟมล้นถังขยะทุกวันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัดสินลุกขึ้นมารณรงค์เรื่องนี้ ร้านอาหารล้วนแต่เป็นร้านประจำ ตั้งถาวร ไม่จำเป็นต้องใช้โฟม ควรใช้จานที่สามารถล้างได้แทนที่ต่างหาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการค้นคว้าของนายวุฒิพงษ์ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่คณะวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นปริญญาเอก พบว่าการใช้โฟมเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากโฟมทำมาจากของเหลือจากการกลั่นน้ำมัน มีสารสไตรีน (Styrene) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง โดยสามารถแพร่กระจายปนเปื้อนกับอาหารได้ ถ้าได้รับความร้อน น้ำมัน หรือใช้กับอาหารที่มีรสเปรี้ยว อีกทั้งโฟมยังเป็นขยะที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่ใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 450ปี
นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.00-13.00น. ทางนิสิตของมหาวิทยาลัย จะการจัดกิจกรรมการรณรงค์การเลิกใช้โฟมอย่างเป็นทางการ โดยจะมีการจัดทำป้ายรณรงค์ พร้อมกับเดินขบวนเชิญชวนให้นิสิตนักศึกษาเห็นอันตรายของการใช้โฟม พร้อมจัดทำวิดิโอคลิปเพื่อเผยแพร่ในจอ LEDของมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากที่รณรงค์เรื่องโฟมแล้ว ตนและเพื่อนๆจะเดินหน้ารณรงค์เรื่องการเลิกใช้พลาสติกต่อ เพราะตอนนี้ในมหาวิทยาลัยมีปัญหาเรื่องขยะพลาสติกด้วยเนื่องจากมีการแก้วน้ำพลาสติกอย่างเดียว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไข เพื่อผลักดันให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอย่างแท้จริง และอยากให้เพื่อนๆในมหาวิทยาลัยอื่นๆ ร่วมกันผลักดันเรื่องเหล่านี้ในมหาวิทยาลัยของตัวเองด้วย เพราะพวกเรามีพลังและสามารถทำได้ เพื่อให้สถาบันการศึกษาเป็นต้นแบบที่ดีในการเรื่องการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/edu/406108
ชื่นชมน้องนักศึกษาท่านนี้มากเลยครับ เป็นอนาคตของชาติที่ดี
ส่วนเรื่องโฟมเคยเห็นมีการประดิษฐ์กล่องใส่อาหารแบบโฟมแต่ใช้มันสำปะหลังแทนซึ่งย่อยสลายง่ายไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ แต่ไม่เห็นมีการต่อยอดพัฒนานำออกขายในสังคมเลย รัฐบาลถ้ายอมลงทุนตรงนี้สักหน่อยทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง แม่ค้าสามารถซื้อไปใช้ได้ จะช่วยรัฐประหยัดค่าเก็บขยะรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนได้มาก
http://bit.ly/ชมรมผู้ไม่ใฝ่ใจบริโภคนิยมวัตถุนิยม
นิสิต ม.เกษตร ปลุกกระแสหยุดการใช้โฟมในโรงอาหาร
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.57 นายวุฒิพงษ์ แปงใจ นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เริ่มรณรงค์ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลดการใช้โฟมและพลาสติกในโรงอาหาร ผ่าน http://www.change.org/kunofoam
กล่าวว่า มีเพื่อนๆนิสิต ม.เกษตร ร่วมสนับสนุนการรณรงค์เป็นจำนวนมาก จึงได้นำรายชื่อไปยื่นให้กับฝ่ายสิ่งแวดล้อม และสำนักงานฝ่ายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย โดยสำนักงานฝ่ายทรัพย์สิน ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลโรงอาหารทั้งหมด เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และพร้อมสนับสนุน โดยได้ประกาศขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ค้าอาหารงดการใช้โฟม โดยใช้ภาชนะอื่นทดแทนซี่งต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภาพโฟมล้นถังขยะทุกวันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัดสินลุกขึ้นมารณรงค์เรื่องนี้ ร้านอาหารล้วนแต่เป็นร้านประจำ ตั้งถาวร ไม่จำเป็นต้องใช้โฟม ควรใช้จานที่สามารถล้างได้แทนที่ต่างหาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการค้นคว้าของนายวุฒิพงษ์ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่คณะวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นปริญญาเอก พบว่าการใช้โฟมเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากโฟมทำมาจากของเหลือจากการกลั่นน้ำมัน มีสารสไตรีน (Styrene) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง โดยสามารถแพร่กระจายปนเปื้อนกับอาหารได้ ถ้าได้รับความร้อน น้ำมัน หรือใช้กับอาหารที่มีรสเปรี้ยว อีกทั้งโฟมยังเป็นขยะที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่ใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 450ปี
นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.00-13.00น. ทางนิสิตของมหาวิทยาลัย จะการจัดกิจกรรมการรณรงค์การเลิกใช้โฟมอย่างเป็นทางการ โดยจะมีการจัดทำป้ายรณรงค์ พร้อมกับเดินขบวนเชิญชวนให้นิสิตนักศึกษาเห็นอันตรายของการใช้โฟม พร้อมจัดทำวิดิโอคลิปเพื่อเผยแพร่ในจอ LEDของมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังจากที่รณรงค์เรื่องโฟมแล้ว ตนและเพื่อนๆจะเดินหน้ารณรงค์เรื่องการเลิกใช้พลาสติกต่อ เพราะตอนนี้ในมหาวิทยาลัยมีปัญหาเรื่องขยะพลาสติกด้วยเนื่องจากมีการแก้วน้ำพลาสติกอย่างเดียว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไข เพื่อผลักดันให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอย่างแท้จริง และอยากให้เพื่อนๆในมหาวิทยาลัยอื่นๆ ร่วมกันผลักดันเรื่องเหล่านี้ในมหาวิทยาลัยของตัวเองด้วย เพราะพวกเรามีพลังและสามารถทำได้ เพื่อให้สถาบันการศึกษาเป็นต้นแบบที่ดีในการเรื่องการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/edu/406108
ชื่นชมน้องนักศึกษาท่านนี้มากเลยครับ เป็นอนาคตของชาติที่ดี
ส่วนเรื่องโฟมเคยเห็นมีการประดิษฐ์กล่องใส่อาหารแบบโฟมแต่ใช้มันสำปะหลังแทนซึ่งย่อยสลายง่ายไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ แต่ไม่เห็นมีการต่อยอดพัฒนานำออกขายในสังคมเลย รัฐบาลถ้ายอมลงทุนตรงนี้สักหน่อยทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง แม่ค้าสามารถซื้อไปใช้ได้ จะช่วยรัฐประหยัดค่าเก็บขยะรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนได้มาก
http://bit.ly/ชมรมผู้ไม่ใฝ่ใจบริโภคนิยมวัตถุนิยม