ทิ้งท้ายไว้ที่กระทู้เมื่อวานว่า ได้เนื้อปลายกรายขูดมาโลครึ่ง เขาทำเป็นถุงละครึ่งโล ๆ
มือหนึ่งเห็นขอแบ่งไปถุงหนึ่ง บอกว่าอยากทำทอดมันกิน เป็นอย่างนี้ใครจะกล้าขัด
เหลือ 2 ถุง 1 โล ยังไม่รู้จะทำอะไรกินดี แต่เพื่อรักษาความสดก็เลยคิดว่าทำเป็นลูกชิ้นไว้ก่อน
นี่ไงครับ 2 ถุง 1 โล
จัดการนวดกับน้ำเกลือ น้ำแข็งป่น จนปวดมือ เมื่อยมือ นวดเสร็จเอามาตี มาฟาด เพื่อให้
เนื้อปลาเข้ากันอย่างมาก ๆ ได้เท่านี้แหละ
ใส่กระป๋องเข้าฟรีซต่ออีก ครึ่งชั่วโมง แล้วเอามาปั้น (มือบีบ) ลงในน้ำร้อนไม่เดือด
บีบปล่อย ๆ ลูกไหนสุกมันจะลอยขึ้นมา ก็ช้อนออกลงแช่น้ำเย็น
ด้วยความใจเย็น ได้ลูกชิ้นลูกไม่สวยเท่าไหร่ อย่างนี้แหละที่เขาเรียก "ปั้นมากับมือ"
จบขั้นตอนการทำปลาสดให้เป็นปลาสุก ไม่ได้ชั่งน.น.ดูว่าเนื้อปลาสด 1 โล ทำลูกชิ้น
ได้เท่าไหร่ สรุปว่าลูกชิ้นที่เห็นทั้งหมดราคา 150 บาท ไม่รู้ถูกไปหรือแพงไป
ตื่นเช้ามาลงไปทำกับข้าวตามคำสั่งที่ได้รับตั้งแต่ตอนกลางคืน หมูอบพะโล้ ได้ซี่โครงอบ
1 หม้อ
ระหว่างรอหมูเปื่อย นึกอยากจะเอาลูกชิ้นมาทำอะไรสักอย่าง ถ้าเป็นลูกชิ้นปลากราย
แกงที่แว๊บขึ้นมาเป็นอันดับแรก หรือจะเรียกว่าแกงสิ้นคิดก็ว่าได้ก็คือแกงเขียวหวาน
เปิดตู้เย็นสำรวจของจำเป็นใช้ มีของครับ พอจะทำแกงได้ 1 หม้อ
เตรียมน้ำพริกเลยครับ ทั้งของในตู้เย็นและของที่ปลูกไว้ข้างบ้าน หลังบ้าน
แกงอย่างง่าย เห็นน้ำพริกตัวเองแล้วในใจนึกว่าแกงวันสีคงสดสวยเอามาก ๆ
แป๊บเดียว ได้แกง 1 หม้อ
ข้าวไม่หุงแล้ว ซี่โครงหมูอบ ขอเก็บไว้เป็นมื้อเย็น
สำเร็จรูปแล้วกลายเป็นอย่างนี้ครับ
มีแกงเขียวหวานแล้ว สิ่งที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แบบว่าสิ้นคิด ก็คือหาขนมจีนด่วนเลย
คู่ขวัญ
รางวัลตัวเอง
เอามาเล่าสู่กันฟังครับ ถ้าถามว่าอร่อยไหม จริง ๆ แล้วต้องตอบว่าจะเอาอะไรนักหนากับผู้ชาย
คนเมืองมาทำกับข้าวไทย ๆ แต่พอดีผมเป็นคนขี้โม้ก็เลยต้องตอบว่า สุดยอดเลยครับมื้อนี้
สวัสดีครับ
ป.ล.ลูกชิ้นเพิ่งใช้ไป 1 ใน 3 ของที่ทำไว้ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำไรต่อเลยครับ
มีหนมจีนเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย แบบว่านวดเอง บีบเอง มาให้ชมครับ
มือหนึ่งเห็นขอแบ่งไปถุงหนึ่ง บอกว่าอยากทำทอดมันกิน เป็นอย่างนี้ใครจะกล้าขัด
เหลือ 2 ถุง 1 โล ยังไม่รู้จะทำอะไรกินดี แต่เพื่อรักษาความสดก็เลยคิดว่าทำเป็นลูกชิ้นไว้ก่อน
นี่ไงครับ 2 ถุง 1 โล
จัดการนวดกับน้ำเกลือ น้ำแข็งป่น จนปวดมือ เมื่อยมือ นวดเสร็จเอามาตี มาฟาด เพื่อให้
เนื้อปลาเข้ากันอย่างมาก ๆ ได้เท่านี้แหละ
ใส่กระป๋องเข้าฟรีซต่ออีก ครึ่งชั่วโมง แล้วเอามาปั้น (มือบีบ) ลงในน้ำร้อนไม่เดือด
บีบปล่อย ๆ ลูกไหนสุกมันจะลอยขึ้นมา ก็ช้อนออกลงแช่น้ำเย็น
ด้วยความใจเย็น ได้ลูกชิ้นลูกไม่สวยเท่าไหร่ อย่างนี้แหละที่เขาเรียก "ปั้นมากับมือ"
จบขั้นตอนการทำปลาสดให้เป็นปลาสุก ไม่ได้ชั่งน.น.ดูว่าเนื้อปลาสด 1 โล ทำลูกชิ้น
ได้เท่าไหร่ สรุปว่าลูกชิ้นที่เห็นทั้งหมดราคา 150 บาท ไม่รู้ถูกไปหรือแพงไป
ตื่นเช้ามาลงไปทำกับข้าวตามคำสั่งที่ได้รับตั้งแต่ตอนกลางคืน หมูอบพะโล้ ได้ซี่โครงอบ
1 หม้อ
ระหว่างรอหมูเปื่อย นึกอยากจะเอาลูกชิ้นมาทำอะไรสักอย่าง ถ้าเป็นลูกชิ้นปลากราย
แกงที่แว๊บขึ้นมาเป็นอันดับแรก หรือจะเรียกว่าแกงสิ้นคิดก็ว่าได้ก็คือแกงเขียวหวาน
เปิดตู้เย็นสำรวจของจำเป็นใช้ มีของครับ พอจะทำแกงได้ 1 หม้อ
เตรียมน้ำพริกเลยครับ ทั้งของในตู้เย็นและของที่ปลูกไว้ข้างบ้าน หลังบ้าน
แกงอย่างง่าย เห็นน้ำพริกตัวเองแล้วในใจนึกว่าแกงวันสีคงสดสวยเอามาก ๆ
แป๊บเดียว ได้แกง 1 หม้อ
ข้าวไม่หุงแล้ว ซี่โครงหมูอบ ขอเก็บไว้เป็นมื้อเย็น
สำเร็จรูปแล้วกลายเป็นอย่างนี้ครับ
มีแกงเขียวหวานแล้ว สิ่งที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แบบว่าสิ้นคิด ก็คือหาขนมจีนด่วนเลย
คู่ขวัญ
รางวัลตัวเอง
เอามาเล่าสู่กันฟังครับ ถ้าถามว่าอร่อยไหม จริง ๆ แล้วต้องตอบว่าจะเอาอะไรนักหนากับผู้ชาย
คนเมืองมาทำกับข้าวไทย ๆ แต่พอดีผมเป็นคนขี้โม้ก็เลยต้องตอบว่า สุดยอดเลยครับมื้อนี้
สวัสดีครับ
ป.ล.ลูกชิ้นเพิ่งใช้ไป 1 ใน 3 ของที่ทำไว้ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำไรต่อเลยครับ