คำแถลงการณ์ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557
ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จะเกิดผลประการใด ในวันนี้ คงเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็น
ต้องกล่าวให้กระทบจิต กระเทือนใจกันอีกต่อไป
โอกาสในการแถลงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากมีการยิงระเบิดถล่มบ้านถล่มเมืองต่อเนื่องวันละหลายๆหน
จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายลงเป็นเบือ โดยเฉพาะเกิดขึ้นหลังจากเด็กน้อยไร้เดียงสา 3 คน ถูกสังหารโหด
ด้วยระเบิดและ M79 จนเป็นเรื่องสะเทือนใจทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลก
\ถึงขนาดสหประชาชาติและองค์การยูนิเซฟต้องออกหน้าประณามอาชญากรอำมหิตนั้น
\คงมีแต่สองรายการที่ออกคำแถลงชอบกลๆ รายการแรกก็คือการแถลงของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้บัญชาการทหารบก และรายการที่สองก็คือการแถลงของนายโคทม อารียา ที่มีเนื้อหาพ้องกันโดยบังเอิญว่า
ให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน
\จะหนักหนาไปหน่อยก็รายการของนายโคทม อารียา ที่เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน จนมี
ผู้คนทนไม่ไหว ต้องท้วงติงว่า
“มนุษย์ที่จำแนกผิดชอบชั่วดีได้ จะเรียกร้องให้ผู้ก่อความรุนแรงรับผิดชอบ แต่อมนุษย์ที่ไม่สามารถจำแนก
ผิดชอบชั่วดีได้ จะเรียกร้องให้นักฆ่าและผู้ถูกฆ่าร่วมกันรับผิดชอบ”
\เนื้อหาของคำแถลงของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเนื้อใหญ่ใจความอยู่ที่จะยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ
เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาเจรจากัน และระบุว่าการใช้ทหารจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และอาจ
ทำให้ประเทศชาติล่มสลายได้
\ก็ไม่ว่าอะไรกัน เพราะผู้บัญชาการทหารบกเป็นขุนนางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในแผ่นดิน ที่คนทั้งปวงหวังพึ่ง
และหวังว่าจะเป็นผู้ปกปักรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย เมื่อมีการแถลงอย่างนั้นก็ต้องรับฟังกันไว้ก่อน
\แต่ในฐานะที่เป็นข้าแผ่นดิน แม้ไม่ได้กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ย่อมมีสิทธิที่จะเอื้อนเอ่ย
ความเห็นให้ปรากฏไว้ในแผ่นดินนี้ได้ เพื่อให้พี่น้องผองไทยได้เข้าใจ ได้ทราบโดยทั่วกัน ในประการที่
สำคัญดังนี้
ประการแรก หน้าที่ของกองทัพและทหารที่จะต้องทำและปฏิบัติมีอยู่สองหน้าที่ คือหน้าที่ในฐานะที่เป็น
พลเมือง ซึ่งมาตรา 70 บัญญัติว่า “บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้” และมาตรา 71
ที่ว่า “บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมาย” หากไม่ทำ
หน้าที่ ประชาชนย่อมมีสิทธิ์ขอให้ทำหน้าที่ หรือชี้แจงเหตุผลที่ไม่ทำหน้าที่ได้
ประการที่สอง หน้าที่ของกองทัพและทหารโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ควบคู่กับหน้าที่ของรัฐด้วย
คือรัฐต้องจัดให้มีกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่เพียงพอ ซึ่งได้ใช้ภาษี
ของประชาชนไปดำเนินการจัดหาให้ได้มาแล้ว จึงบัญญัติบังคับให้กองทัพและทหารมีหน้าที่ตามที่
บัญญัติไว้ในมาตรา 77 คือ
“พิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ”
หน้าที่ทั้งสองประการของกองทัพและทหารนั้น เหนือและยิ่งกว่าหน้าที่ของประชาชน เพราะประชาชน
ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีโอกาสที่จะได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระเจ้าอยู่หัวของพวกเขา ไม่มีสิทธิ์และโอกาส
ที่จะได้ปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นทั้งมิ่งและขวัญของทหารทั้งหลาย
ดังนั้นประชาชนจึงมีสิทธิ์ที่จะสอบถามว่ากองทัพและทหารได้ทำหน้าที่เหล่านี้แล้วหรือไม่ และมีสิทธิ์ที่
จะบอกด้วยว่า บ้านเมืองกำลังเป็นกลียุค กำลังจะถูกแบ่งแยกเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ กำลังมีการประกาศ
อย่างเปิดเผยถึงการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อแยกประเทศ เพื่อบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
เพื่อบีบบังคับสถาบันศาลและองค์กรอิสระทั้งหลาย และเพื่อทำร้ายประชาชนที่มีความเห็นที่ไม่ตรงกัน
ที่เห็นกันโต้งๆทุกเมื่อเชื่อวันก็คือการนำเอากองกำลังต่างชาติและกองกำลังเถื่อนนานาชนิดมาทำร้าย
ประชาชนถึงใจกลางพระนครด้วยอาวุธสงครามร้ายแรง จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายลงเป็นเบือนั้นเป็นหน้าที่
ของใครในการป้องกันแก้ไขหรือระงับยับยั้งกันแน่?
เป็นหน้าที่ที่ประชาชนจะต้องไปทำการเจรจากับผู้กระทำการเช่นนั้น หรือว่าเป็นหน้าที่ของกองทัพและ
ทหารกันแน่?
นี่คืออำนาจและหน้าที่ที่จะต้องทำความเข้าใจกัน และหน้าที่ที่ว่านี้มิใช่หรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เคยทรงเตือนว่าขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตน ๆ บ้านเมืองก็จะอยู่รอดปลอดภัย
สิ่งที่จะต้องเข้าใจให้ตรงกันก็คือ ประชาชนไม่ได้เรียกร้องต้องการให้ใครมาปฏิวัติรัฐประหาร สิ่งที่ประชาชน
ร่ำร้องเพรียกหาในขณะนี้ก็คือ ขอให้กองทัพและทหารทำหน้าที่ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเตือน
และตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ
ความกลัวว่าหากทำหน้าที่แล้วบ้านเมืองจะล่มสลายนั้น อาจจะถูกประชาชนสอบถามได้เช่นเดียวกันว่า
หากไม่ทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ จนมีการแบ่งแยกประเทศไทย จนมีการใช้ความรุนแรงเป็น
สงครามกลางเมืองอย่างที่เป็นอยู่นี้ จะกลัวอย่างไหนมากกว่ากัน? และจะใช้ความกลัวในการตัดสินใจ
ทำหน้าที่อย่างนี้กันต่อไปหรือ?
http://www.naewna.com/politic/columnist/11226
พิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ
การจัดตั้งสภาประชาชน ที่ไม่มีในรธน. และ เว้นวรรคปชต. ถือเป็นการลัมล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยไหม ?
วันนี้ ทหารไม่ได้ทำหน้าที่จริง ... เพราะยังไม่ได้ปกป้องประชาธิปไตย ที่มีผู้พยายามล้มล้าง... ใช่หรือไม่
กปปส.กำลังขับไล่รัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ในระบอบประชาธิปไตย ทหารจะปกป้อง ใคร รัฐบาลในระบอบ
ประชาธิปไตยไหม หรือ กปปส. ที่กลังขับไล่รัฐบาล ? 
หน้าที่ของกองทัพและทหาร บ้านเกิดเมืองนอน แนวหน้าออนไลน์
ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จะเกิดผลประการใด ในวันนี้ คงเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็น
ต้องกล่าวให้กระทบจิต กระเทือนใจกันอีกต่อไป
โอกาสในการแถลงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากมีการยิงระเบิดถล่มบ้านถล่มเมืองต่อเนื่องวันละหลายๆหน
จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายลงเป็นเบือ โดยเฉพาะเกิดขึ้นหลังจากเด็กน้อยไร้เดียงสา 3 คน ถูกสังหารโหด
ด้วยระเบิดและ M79 จนเป็นเรื่องสะเทือนใจทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลก
\ถึงขนาดสหประชาชาติและองค์การยูนิเซฟต้องออกหน้าประณามอาชญากรอำมหิตนั้น
\คงมีแต่สองรายการที่ออกคำแถลงชอบกลๆ รายการแรกก็คือการแถลงของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้บัญชาการทหารบก และรายการที่สองก็คือการแถลงของนายโคทม อารียา ที่มีเนื้อหาพ้องกันโดยบังเอิญว่า
ให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน
\จะหนักหนาไปหน่อยก็รายการของนายโคทม อารียา ที่เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน จนมี
ผู้คนทนไม่ไหว ต้องท้วงติงว่า
“มนุษย์ที่จำแนกผิดชอบชั่วดีได้ จะเรียกร้องให้ผู้ก่อความรุนแรงรับผิดชอบ แต่อมนุษย์ที่ไม่สามารถจำแนก
ผิดชอบชั่วดีได้ จะเรียกร้องให้นักฆ่าและผู้ถูกฆ่าร่วมกันรับผิดชอบ”
\เนื้อหาของคำแถลงของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเนื้อใหญ่ใจความอยู่ที่จะยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ
เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาเจรจากัน และระบุว่าการใช้ทหารจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และอาจ
ทำให้ประเทศชาติล่มสลายได้
\ก็ไม่ว่าอะไรกัน เพราะผู้บัญชาการทหารบกเป็นขุนนางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในแผ่นดิน ที่คนทั้งปวงหวังพึ่ง
และหวังว่าจะเป็นผู้ปกปักรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย เมื่อมีการแถลงอย่างนั้นก็ต้องรับฟังกันไว้ก่อน
\แต่ในฐานะที่เป็นข้าแผ่นดิน แม้ไม่ได้กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ย่อมมีสิทธิที่จะเอื้อนเอ่ย
ความเห็นให้ปรากฏไว้ในแผ่นดินนี้ได้ เพื่อให้พี่น้องผองไทยได้เข้าใจ ได้ทราบโดยทั่วกัน ในประการที่
สำคัญดังนี้
ประการแรก หน้าที่ของกองทัพและทหารที่จะต้องทำและปฏิบัติมีอยู่สองหน้าที่ คือหน้าที่ในฐานะที่เป็น
พลเมือง ซึ่งมาตรา 70 บัญญัติว่า “บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้” และมาตรา 71
ที่ว่า “บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมาย” หากไม่ทำ
หน้าที่ ประชาชนย่อมมีสิทธิ์ขอให้ทำหน้าที่ หรือชี้แจงเหตุผลที่ไม่ทำหน้าที่ได้
ประการที่สอง หน้าที่ของกองทัพและทหารโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ควบคู่กับหน้าที่ของรัฐด้วย
คือรัฐต้องจัดให้มีกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่เพียงพอ ซึ่งได้ใช้ภาษี
ของประชาชนไปดำเนินการจัดหาให้ได้มาแล้ว จึงบัญญัติบังคับให้กองทัพและทหารมีหน้าที่ตามที่
บัญญัติไว้ในมาตรา 77 คือ
“พิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ”
หน้าที่ทั้งสองประการของกองทัพและทหารนั้น เหนือและยิ่งกว่าหน้าที่ของประชาชน เพราะประชาชน
ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีโอกาสที่จะได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระเจ้าอยู่หัวของพวกเขา ไม่มีสิทธิ์และโอกาส
ที่จะได้ปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นทั้งมิ่งและขวัญของทหารทั้งหลาย
ดังนั้นประชาชนจึงมีสิทธิ์ที่จะสอบถามว่ากองทัพและทหารได้ทำหน้าที่เหล่านี้แล้วหรือไม่ และมีสิทธิ์ที่
จะบอกด้วยว่า บ้านเมืองกำลังเป็นกลียุค กำลังจะถูกแบ่งแยกเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ กำลังมีการประกาศ
อย่างเปิดเผยถึงการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธเพื่อแยกประเทศ เพื่อบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
เพื่อบีบบังคับสถาบันศาลและองค์กรอิสระทั้งหลาย และเพื่อทำร้ายประชาชนที่มีความเห็นที่ไม่ตรงกัน
ที่เห็นกันโต้งๆทุกเมื่อเชื่อวันก็คือการนำเอากองกำลังต่างชาติและกองกำลังเถื่อนนานาชนิดมาทำร้าย
ประชาชนถึงใจกลางพระนครด้วยอาวุธสงครามร้ายแรง จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายลงเป็นเบือนั้นเป็นหน้าที่
ของใครในการป้องกันแก้ไขหรือระงับยับยั้งกันแน่?
เป็นหน้าที่ที่ประชาชนจะต้องไปทำการเจรจากับผู้กระทำการเช่นนั้น หรือว่าเป็นหน้าที่ของกองทัพและ
ทหารกันแน่?
นี่คืออำนาจและหน้าที่ที่จะต้องทำความเข้าใจกัน และหน้าที่ที่ว่านี้มิใช่หรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เคยทรงเตือนว่าขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตน ๆ บ้านเมืองก็จะอยู่รอดปลอดภัย
สิ่งที่จะต้องเข้าใจให้ตรงกันก็คือ ประชาชนไม่ได้เรียกร้องต้องการให้ใครมาปฏิวัติรัฐประหาร สิ่งที่ประชาชน
ร่ำร้องเพรียกหาในขณะนี้ก็คือ ขอให้กองทัพและทหารทำหน้าที่ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเตือน
และตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ
ความกลัวว่าหากทำหน้าที่แล้วบ้านเมืองจะล่มสลายนั้น อาจจะถูกประชาชนสอบถามได้เช่นเดียวกันว่า
หากไม่ทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ จนมีการแบ่งแยกประเทศไทย จนมีการใช้ความรุนแรงเป็น
สงครามกลางเมืองอย่างที่เป็นอยู่นี้ จะกลัวอย่างไหนมากกว่ากัน? และจะใช้ความกลัวในการตัดสินใจ
ทำหน้าที่อย่างนี้กันต่อไปหรือ?
http://www.naewna.com/politic/columnist/11226
พิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ
การจัดตั้งสภาประชาชน ที่ไม่มีในรธน. และ เว้นวรรคปชต. ถือเป็นการลัมล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยไหม ?
วันนี้ ทหารไม่ได้ทำหน้าที่จริง ... เพราะยังไม่ได้ปกป้องประชาธิปไตย ที่มีผู้พยายามล้มล้าง... ใช่หรือไม่
กปปส.กำลังขับไล่รัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ในระบอบประชาธิปไตย ทหารจะปกป้อง ใคร รัฐบาลในระบอบ
ประชาธิปไตยไหม หรือ กปปส. ที่กลังขับไล่รัฐบาล ?