ทุกข์ครั้งนี้ จะผ่านมันไปยังไงดี

ตอนนี้ เรื่องราวปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตรัก ไม่ใช่ปัญหาระหว่างคนสองคน สามี ภรรยาอีกต่อไป เพราะยังมี แม่สามี พี่สาวของสามี เข้ามาร่วมสร้างสีสันให้ปัญหา มันหนักขึ้น

เรื่องราว มันมีอยู่เรื่องเดียว “เงิน”  ปัจจุบันเรากะสามี ทำงานบริษัททั้งคู่ สามีเราเป็นคนไม่ดีนัก เรารู้อยู่แก่ใจ แต่ก็เลิกกันไม่ได้ เพราะรัก และผูกพันธ์ รวมทั้งยังมีลูก ๆ ที่เราไม่อยากให้เขาเสียใจต่อการกระทำที่พ่อกับแม่เลือก เราจึงยอมทน และพยายามปรับตัว ต่อปัญหา ในทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา

สามีเรามักจะก่อหนี้สินจากการพนัน อยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้ (ในปี 56 ที่ผ่านมา) มันเป็นครั้งที่รุนแรงกว่า ครั้งไหน ๆ ที่เคยเจอมาเลย เขาก่อหนี้ร่วมสองแสน สุดท้ายเรานั่งคุยกันถึงสาเหตุและวิธีแก้ปัญหา  เขาก็สัญญาว่าจะเลิกทำตัวแย่ ๆ อีก
ปัจจุบัน เราแก้ปัญหากันแบบนี้ค่ะ ด้านครอบครัว หมายถึง ค่าเช่าบ้าน หรือ ค่าใช้จ่ายที่ส่งเสียให้ลูก ตอนนี้ เรารับผิดชอบคนเดียว ส่วนสามีก็รับผิดชอบในหนี้สินที่เขาก่อขึ้น เขาไม่เคยเหลือเงินจ่ายบัตรเครดิตเลยต้องยืมเงินจากบัตรเราไปจ่ายตลอด ซึ่งวงเงินก็ใกล้เต็มแล้ว เราช่วยเขามาตลอด

ย้อนไปเมื่อปลายปี 56 สามีได้โบนัสมาก้อนนึง รวมเงินเดือนก็เกือบ ๆ แสน แต่ตอนที่กลับบ้านปีใหม่ ไม่ได้ให้เงินแม่ใช้เลยสักบาท  แม่เขาจึงเคือง ๆ เพราะหลังปีใหม่ เราโทรไปหาก็ไม่รับโทรศัพท์เราเลย กับพี่สาวของเขาก็เหมือนกัน  ทีแรกเราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าแม่คงติดธุระรับไม่ทัน

แต่เราเพิ่งรู้สาเหตุว่าทำไม  มันอาจจะเป็นเพราะความเข้าใจผิดว่า เราหุบเงินก้อนนั้นไว้คนเดียว ซึ่งความจริงแล้ว เรากะลูกก็ไม่ได้ใช้เงินของเขาในส่วนนี้เลยสักกะบาทเหมือนกัน  เพราะเขาต้องเอาไปใช้หนี้ส่วนตัวที่เขาก่อขึ้นมา  อันนี้เราเข้าใจและไม่ว่าเขา เพราะเราคุยกันแล้วว่าเราจะเดินหน้า จึงไม่คิดโทษในสิ่งที่พลาดไป  แต่คนที่ไม่เข้าใจกลับเป็นแม่สามี และพี่สาวของเขา ว่า เงินที่ได้มาก็ไม่ให้แม่เลย  ทั้ง ๆ ที่เราก็เคยโทรไปเล่าให้แม่เขาฟังตลอดนะ เวลาที่สามีเราเขาก่อเรื่องขึ้น

ตอนนี้ในสถานการณ์บริษัทของสามีไม่ค่อยดี ให้ทำงานครึ่งเดือนจ่าย 75%  ยิ่งทำให้เขาไม่สามารถเคลียร์รายจ่าย (หนี้) ในแต่ละเดือนได้ เขาจึงโทรหาแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้กู้ธกส. มาให้เพื่อนำมาปิดยอดบัตรเครดิตที่เขามีภาระต้องจ่ายต่อเดือน  แต่เขาไม่มีจะจ่าย  ส่วนเงินเดือนเขา ๆ ก็จะจ่ายหนี้สินก้อนใหญ่ก้อนนั้นไปก่อน หมดหนี้ตัวนี้แล้ว เขาก็จะหาเงินมาคืน ธกส.ให้แม่ (นี่คือความตั้งใจของเขา เพื่อหมุนเงิน แก้ปัญหา ซึ่งเราเห็นด้วย เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิต แพงกว่า ธกส.)

แต่ด้วยการโทรไป ครั้งนี้ มันยิ่งทำให้แม่ และพี่สาวของเขา ไม่เข้าใจเรามากขึ้น  พี่สาวเขาไลน์มาว่าสามีเรา ว่า ทำไม พวกเราไม่ช่วยกันเคลียร์เอง ทำไมต้องไปรบกวนแม่ด้วย สั่งห้ามโทรหาแม่ ไม่ให้โทรหาเพื่อขอความช่วยเหลือ  แต่เราเห็นเวลาที่สามีเราโทรไป แม่เขาก็ไม่เคยว่าลูกชายเขาแบบนั้นน่ะ  แต่คนที่มาพูดคือพี่สาวเขา ซึ่งเราไม่รู้ว่าแม่เขาไม่กล้าพูด หรือเขาพูดเองเพราะเป็นห่วงแม่

เมื่อวานเราก็ได้ไลน์คุยกะพี่สาวของเขา และพยายามอธิบายเรื่องราวนะว่า ทุกวันนี้เราก็ช่วยสามีอยู่ตลอด ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามสามีเราดูได้เลย (เพราะเท่าที่ดูไลน์เขา เขาคิดว่าเราไม่ช่วยสามีเราเคลียร์ มีแต่ให้สามีโทรไปขอความช่วยเหลือจากแม่อย่างเดียว)

ด้านสามีเรา เราก็ไม่รู้ว่าเขาได้พยายามอธิบายถึงเรื่องราวต่าง ๆ ให้แม่ และพี่เขาฟังบ้างไหม เผื่อที่ว่า พวกเขาจะได้เข้าใจเรามากขึ้น ไม่เข้าใจเราผิด ๆ แบบนี้อีก  เวลาเราถามว่าได้บอกเขาไหมว่าที่ไม่มีเงินจ่ายหนี้ แล้วตอนนี้เอาจากไหนจ่ายหนี้ (หมายถึงยืมเราไปจ่ายไง)  เพื่อแม่และพี่เขาจะได้รู้ เวลาที่เราดึงรายได้ของสามี เพื่อนำมาใช้หนี้ที่เขาเคยยืมเราไปคืน
เพื่อน ๆ คิดว่าสถานการณ์ แบบนี้  เราควรพยายามอธิบายต่อไป หรือ ให้คนกลางอย่างสามีเขาอธิบายเอง หรือปล่อยให้มันเงียบไปแบบนี้ (แต่เท่าที่คาดการณ์ ตัวสามีคงไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว)  แต่ในความคิดเรา ไม่ว่าเราจะพูดยังไง พวกเขาก็ไม่เข้าใจอะไรได้ดีไปกว่านี้แล้ว   เงินอาจจะสำคัญมากสำหรับพวกเขา.....

เราเคยคิดเลี้ยงลูกเอง หรือเลิกกับสามีเรานะ  แต่ด้วยความรัก และความหวัง หวังว่าสักวันเขาจะคิดได้กลับตัวกลับใจ มาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เราจึงรอ รอวันนั้น...ที่ไม่รู้จะมีหรือป่าว....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่