.....ควายเเดง..ดูเป็นคำเหยียดหยามฝ่ายตรงกันข้าม ที่ใช้กันอย่างสนุกสนาน เป็นที่เบิกบานใจ กระทู้นี้เกินเจ็ดบรรทัด จะบอกเล่าเรื่องที่มาเเนวคิดของคนเหล่านั้น ที่พวกคุณกล่าวหา ดูหมิ่นความคิดเขาเหล่านั้น เป็นตัวหนึ่งสือ ซึ่งออกมาจากสมองอันน้อยนิดของตัวผู้เขียน ในส่วนตัวผมยินดีที่จะน้อมรับการเหยียดหยาม เเละยอมรับที่จะเป็น พวกควายเเดง อย่างเต็มภาคภูมิ เเละผมจะไม่พยายามหาคำใดๆ มาเหยียดหยามคนที่เห็นต่างทางการเมือง เราพวกเรา ผมจะให้เกียร์ติพวกคุณ เเละมองพวกคุณอย่างเพื่อร่วมชาติ เเละมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เท่ากัน เเม้บางครั้งพวกคุณอาจมองเราต้อยต่ำกว่า เเต่นั่นไม่ใช่ปัญหา หากการเรียกพวกเรา พวกควายเเดงทำให้คุณรู้สึกดี....ยินดี
คงไม่ต้องย้อนไปไกล เพื่อฟื้นฝอยหาตะเข็บ การต่อสู้ที่มีมาเเสนยาวนาน จนใครบางคนอาจยังไม่ได้เกิด การต่อสู้ของชนชั้นนั้นมีมานาน หากนับเริ่มครั้งตุลา16 ที่เป็นจุดก่อกำเหนิด ขอตัดเข้ามาถึงเเค่ สมัยพฤษภาทมิฬ ที่เป็นที่มาของการเปลี่ยน รัฐธรรมนูญ ยังคงจำความรู้สึกได้ ยังจำคำพูดของใครบางคน ที่ก่อให้เกิดการรวมตัวมากมาย"เสียสัตย์เพื่อชาติ" หลังการปราบปราม เเละมีผู้คนบาดเจ็บล้มตาย ประชาชนส่วนใหญ่คิดตรงกัน ปัญหาที่มีคือความไม่ต่อเนื่องของการบริหารประเทศ ก็จะอะไรเสียอีกนอกจากเเย่งชิงอำนาจการบริหาร ของชนชั้นนำ
ชนชั้นนำหรือชนชั้นปกครอง ที่กุมอำนาจรัฐไว้ในมือ ในยุคที่เรียกว่าประชาธิปไตย ครึ่งใบ การเเย่งกันมีอำนาจเพื่อเข้าไปบริหาร เเละหาทางกอบโกย สัมประทานมากมาย ถูกคนเหล่านี้ผูกขาด อยู่ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่ตะกูล ธนาคาร โรงเหล้า ก่อสร้าง รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภค การนำเข้าส่งออก มากมาย การเข้าไปมีอำนาจในการบริหารจัดการ อยู่ในมือ การสร้างกฎกติกาให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เป็นมา
รัฐธรรมนูญปี40 คือก้าวเเรกที่เปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง มันทำให้รัฐบาลเข้มเเข็งขึ้น มันทำให้ระบบมันเดินไปด้วยตัวมันเองในระบอบประชาธิปไตย อันว่าการปกครอง มันไม่มีอะไรที่ดีที่สุด เเต่ระบอบประชาธิปไตย มันเลวน้อยที่สุด การตัดสินอยู่ในมือประชาชน เเละใช้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินทิศทางของเรื่องต่างๆด้วยเสียงจำนวนที่มากกว่า เพื่อหลีเลี่ยงการรบราฆ่ากัน
ตัดมาที่ก่อนปี2548เสียเล็กน้อย บางคนอาจลืมๆกันไปเเล้ว ประชาธิปไตยไทยเบ่งบาน ประชาชนส่วนใหญ่จับต้องมันได้ การใช้อำนาจของประชาชนเกิดขึ้นอย่างมากมาย ประชาชนคือจุดศูนย์กลาง ของอำนาจ การกระทำใดๆ จึงเป็นไปอย่างเดิมไม่ได้ เเต่ทุกสิ่งอย่างเมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย กลุ่มผู้ถือดุลอำนาจเดิม คนที่เคยสั่งนายกคนใดก็ได้ เครือข่ายที่โยงใย เส้นสายที่เคยมี ถูกกำหนดด้วยกติกา ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไปกำจัดบทบาทในเรื่องต่างๆ มากมาย
ขอเล่าพอสังเขป การเเต่งตั้งโยกย้าย ในยุคสมัยนั้นๆ ถนนทุกสายต้องมุ่งไปที่บ้านหลายเสา เพื่อเป็นผู้ชี้ขาด พูดกันเพราะไปขอความเห็น เห็นอย่างไร ก็ต้องเป็นไปเช่นนั้น ไม่เพียงเเต่ ข้าราชการ ยังมีธุรกิจอีกมากมายที่ต้องไปสยบอยู่ การชี้เป็นชี้ตายในธุรกิจ การใช้อำนาจผ่านข้าราชการ เพื่อกลั่นเเกล้ง เพื่อลงโทษ คนที่ดื้อเเพ่ง จึงเป็นที่รู้กันภายในองค์กรต่างๆ ต้องพยายามหาเกาะคุ้มกัน ด้วยการโดดเข้าไปอยู่ในเส้นสายใดเส้นสายหนึ่ง เพื่อความสะดวกปลอดภัย ...คนของใคร
มาถึงยุคที่ประชาชนเป็นศูนย์กลางมันไม่ใช่ง่าย กว่าจะกลับให้ข้าราชการที่ทำตัวเป็นนายจนมาเป็นผู้รับใช้ประชาชน การฝังหัวเเบบเก่าๆมีเเรงต่อต้านมากมาย เเต่เเพ้เสียงประชาชน ประชาชนคือผู้กำหนด อำนาจอยู่ในมือประชาชนมากขึ้น การทำให้ศูนย์กลางคือประชาชน การบริหารจึงต้องเอาใจประชาชนเป็นหลัก ช่องทางต่างๆมากมาย ถูกเจาะออก โครงการต่างๆ ต้องตอบสนองให้ประชาชน มากมายหลายอย่างที่เกิดขึ้น
โครงการที่ว่าประชานิยม ไม่ให้ประชาชนนิยมเเล้วจะให้ใคร ในเมื่อมาจากประชาชน อำนาจที่เคยมี คำสั่งที่เคยสั่งได้ต้องกลับเข้าสู่การบริหารที่ต้องเป็นไปตามกติกา กลุ่มคนที่เคยได้ประโยชน์จากการบริหารอำนาจเเบบเก่าๆ เริ่มสูญเสียสิ่งที่เคยครอบครอง 30บาทรักษาทุกโรค เเรกเริ่มเดิมทีใครก็มองว่าทำไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายมากมายก่ายกอง จนมาวันนี้คงเข้าใจไม่ต้องอธิบาย เเต่สิ่งที่ประชาชนได้ เเต่ ก็มีผู้เสียประโยชน์ มันคือการทุบหม้อข้าว ของกลุ่มที่หากินกับความเจ็บป่วย เเละเป็นการเปลี่ยนเเปลงเเบบถาวร การเข้าไปบริหารจัดการรูปเเบบวันนี้กัยวันสมัยนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน ยุคสมัยที่เรียกว่าใช้สิทธ์คนใข้ อนาถา อนาถาจริงๆ สายตาดุๆ เสียงตวาดดังๆ คนสมัยนั้นเคยชิน ก็เรามาขอให้เขาช่วย เเต่วันนี้มันคือสิทธ์ สิทธ์ของความเป็นคนไทยที่ควรได้รับ รพ บางบางที่บางเเห่งได้ฉายาจากประชาชนถึงขั้นเรียก โรงฆ่าสัตว์
ยังมีอื่นอีกมากมาย ธนาคารไทยผูกขาดอยู่ไม่กี่ตระกูล ใครหน้าไหนก็ทำไม่ได้ กลุ่มผู้ถือดุลอำนาจถือครองไว้ วันนี้มีกองทุนหมู่บ้านเจริญงอมงามในหลายพื้นที่ นายทุนผูกขาดธนาคารหากินไม่รื่นเหมือนเก่า จะไปกู้เงินธนาคารยิ่งกว่าไปโรงจำนำ ต้องเอาที่ดินไปค้ำ ต้องเอาคนมาค้ำ บีบกันมีเเต่ได้ทุกประตูกฎหมายก็เอื้อให้ ฟ้องเเล้วฟ้องอีกต้นทบดอกรวมดอกมาทบต้นฟ้องใหม่ จะนวนน้อยนิดสุดท้ายหนี้ก้อนใหญ่โต ไม่มีปัญยาชดใช้ โดนยึดที่ดินไป
ลองไปหาดูได้ที่ดินในเมืองไทยอยู่ในมือคนกี่ตระกูลถือครองเกินครึ่งประเทศ เราอยู่กันจนชินกับกฎเราอยู่กันจนชินเค้าบอกเรานี่คือความถูกต้อง การเอาเปรียบยังมีอีกมากมาย สุราผูกขาดกันมายาวนาน เเค่กลุ่มคนไม่กี่คน ยึดสัมประทานไว้ในมือ หากินกันมายาวนานจนร่ำรวยมหาศาลกินไปสิบชาติก้ไม่หมด ประชาธิปไตยทำให้คนเข้าถึงได้ด้วยความเท่าเทียม คนทั่วไปสามารถเข้าไปทำมาหากินเเข่งได้ มีบริษัทหมู่บ้านร่วมมือกันมากมาย กลายเป็นคู่เเข่ง
เหล่านี้ลองตรองดูเถิด มันหาใช่ความเป็นธรรมตรงไหน ท่านผู้มีความรู้ เขียนมาถึงตรงนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนเพื่อทำภาระกิจ ตลาดหลักทระพย์กำลังจะเปิด เเล้วช่วงบ่ายๆจะเข้ามาเล่าที่มาทำไมจึงมีกำเหนิดคนเสื้อเเดง เค้าผ่านอะไรกันมาบ้างเค้ามองเห็นอะไรทำไมจำนวนมากมายมหาศาล เป็นฝูงควายเเดง อย่างที่พวกคุณเรียกขาน ทำไมจะมีคำตอบ ทำไม.................
http://ppantip.com/topic/31703976 ตอน2
-------------------------------พวกควายเเดง-------------------------------(ความในใจ)
คงไม่ต้องย้อนไปไกล เพื่อฟื้นฝอยหาตะเข็บ การต่อสู้ที่มีมาเเสนยาวนาน จนใครบางคนอาจยังไม่ได้เกิด การต่อสู้ของชนชั้นนั้นมีมานาน หากนับเริ่มครั้งตุลา16 ที่เป็นจุดก่อกำเหนิด ขอตัดเข้ามาถึงเเค่ สมัยพฤษภาทมิฬ ที่เป็นที่มาของการเปลี่ยน รัฐธรรมนูญ ยังคงจำความรู้สึกได้ ยังจำคำพูดของใครบางคน ที่ก่อให้เกิดการรวมตัวมากมาย"เสียสัตย์เพื่อชาติ" หลังการปราบปราม เเละมีผู้คนบาดเจ็บล้มตาย ประชาชนส่วนใหญ่คิดตรงกัน ปัญหาที่มีคือความไม่ต่อเนื่องของการบริหารประเทศ ก็จะอะไรเสียอีกนอกจากเเย่งชิงอำนาจการบริหาร ของชนชั้นนำ
ชนชั้นนำหรือชนชั้นปกครอง ที่กุมอำนาจรัฐไว้ในมือ ในยุคที่เรียกว่าประชาธิปไตย ครึ่งใบ การเเย่งกันมีอำนาจเพื่อเข้าไปบริหาร เเละหาทางกอบโกย สัมประทานมากมาย ถูกคนเหล่านี้ผูกขาด อยู่ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่ตะกูล ธนาคาร โรงเหล้า ก่อสร้าง รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภค การนำเข้าส่งออก มากมาย การเข้าไปมีอำนาจในการบริหารจัดการ อยู่ในมือ การสร้างกฎกติกาให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เป็นมา
รัฐธรรมนูญปี40 คือก้าวเเรกที่เปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง มันทำให้รัฐบาลเข้มเเข็งขึ้น มันทำให้ระบบมันเดินไปด้วยตัวมันเองในระบอบประชาธิปไตย อันว่าการปกครอง มันไม่มีอะไรที่ดีที่สุด เเต่ระบอบประชาธิปไตย มันเลวน้อยที่สุด การตัดสินอยู่ในมือประชาชน เเละใช้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินทิศทางของเรื่องต่างๆด้วยเสียงจำนวนที่มากกว่า เพื่อหลีเลี่ยงการรบราฆ่ากัน
ตัดมาที่ก่อนปี2548เสียเล็กน้อย บางคนอาจลืมๆกันไปเเล้ว ประชาธิปไตยไทยเบ่งบาน ประชาชนส่วนใหญ่จับต้องมันได้ การใช้อำนาจของประชาชนเกิดขึ้นอย่างมากมาย ประชาชนคือจุดศูนย์กลาง ของอำนาจ การกระทำใดๆ จึงเป็นไปอย่างเดิมไม่ได้ เเต่ทุกสิ่งอย่างเมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย กลุ่มผู้ถือดุลอำนาจเดิม คนที่เคยสั่งนายกคนใดก็ได้ เครือข่ายที่โยงใย เส้นสายที่เคยมี ถูกกำหนดด้วยกติกา ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไปกำจัดบทบาทในเรื่องต่างๆ มากมาย
ขอเล่าพอสังเขป การเเต่งตั้งโยกย้าย ในยุคสมัยนั้นๆ ถนนทุกสายต้องมุ่งไปที่บ้านหลายเสา เพื่อเป็นผู้ชี้ขาด พูดกันเพราะไปขอความเห็น เห็นอย่างไร ก็ต้องเป็นไปเช่นนั้น ไม่เพียงเเต่ ข้าราชการ ยังมีธุรกิจอีกมากมายที่ต้องไปสยบอยู่ การชี้เป็นชี้ตายในธุรกิจ การใช้อำนาจผ่านข้าราชการ เพื่อกลั่นเเกล้ง เพื่อลงโทษ คนที่ดื้อเเพ่ง จึงเป็นที่รู้กันภายในองค์กรต่างๆ ต้องพยายามหาเกาะคุ้มกัน ด้วยการโดดเข้าไปอยู่ในเส้นสายใดเส้นสายหนึ่ง เพื่อความสะดวกปลอดภัย ...คนของใคร
มาถึงยุคที่ประชาชนเป็นศูนย์กลางมันไม่ใช่ง่าย กว่าจะกลับให้ข้าราชการที่ทำตัวเป็นนายจนมาเป็นผู้รับใช้ประชาชน การฝังหัวเเบบเก่าๆมีเเรงต่อต้านมากมาย เเต่เเพ้เสียงประชาชน ประชาชนคือผู้กำหนด อำนาจอยู่ในมือประชาชนมากขึ้น การทำให้ศูนย์กลางคือประชาชน การบริหารจึงต้องเอาใจประชาชนเป็นหลัก ช่องทางต่างๆมากมาย ถูกเจาะออก โครงการต่างๆ ต้องตอบสนองให้ประชาชน มากมายหลายอย่างที่เกิดขึ้น
โครงการที่ว่าประชานิยม ไม่ให้ประชาชนนิยมเเล้วจะให้ใคร ในเมื่อมาจากประชาชน อำนาจที่เคยมี คำสั่งที่เคยสั่งได้ต้องกลับเข้าสู่การบริหารที่ต้องเป็นไปตามกติกา กลุ่มคนที่เคยได้ประโยชน์จากการบริหารอำนาจเเบบเก่าๆ เริ่มสูญเสียสิ่งที่เคยครอบครอง 30บาทรักษาทุกโรค เเรกเริ่มเดิมทีใครก็มองว่าทำไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายมากมายก่ายกอง จนมาวันนี้คงเข้าใจไม่ต้องอธิบาย เเต่สิ่งที่ประชาชนได้ เเต่ ก็มีผู้เสียประโยชน์ มันคือการทุบหม้อข้าว ของกลุ่มที่หากินกับความเจ็บป่วย เเละเป็นการเปลี่ยนเเปลงเเบบถาวร การเข้าไปบริหารจัดการรูปเเบบวันนี้กัยวันสมัยนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน ยุคสมัยที่เรียกว่าใช้สิทธ์คนใข้ อนาถา อนาถาจริงๆ สายตาดุๆ เสียงตวาดดังๆ คนสมัยนั้นเคยชิน ก็เรามาขอให้เขาช่วย เเต่วันนี้มันคือสิทธ์ สิทธ์ของความเป็นคนไทยที่ควรได้รับ รพ บางบางที่บางเเห่งได้ฉายาจากประชาชนถึงขั้นเรียก โรงฆ่าสัตว์
ยังมีอื่นอีกมากมาย ธนาคารไทยผูกขาดอยู่ไม่กี่ตระกูล ใครหน้าไหนก็ทำไม่ได้ กลุ่มผู้ถือดุลอำนาจถือครองไว้ วันนี้มีกองทุนหมู่บ้านเจริญงอมงามในหลายพื้นที่ นายทุนผูกขาดธนาคารหากินไม่รื่นเหมือนเก่า จะไปกู้เงินธนาคารยิ่งกว่าไปโรงจำนำ ต้องเอาที่ดินไปค้ำ ต้องเอาคนมาค้ำ บีบกันมีเเต่ได้ทุกประตูกฎหมายก็เอื้อให้ ฟ้องเเล้วฟ้องอีกต้นทบดอกรวมดอกมาทบต้นฟ้องใหม่ จะนวนน้อยนิดสุดท้ายหนี้ก้อนใหญ่โต ไม่มีปัญยาชดใช้ โดนยึดที่ดินไป
ลองไปหาดูได้ที่ดินในเมืองไทยอยู่ในมือคนกี่ตระกูลถือครองเกินครึ่งประเทศ เราอยู่กันจนชินกับกฎเราอยู่กันจนชินเค้าบอกเรานี่คือความถูกต้อง การเอาเปรียบยังมีอีกมากมาย สุราผูกขาดกันมายาวนาน เเค่กลุ่มคนไม่กี่คน ยึดสัมประทานไว้ในมือ หากินกันมายาวนานจนร่ำรวยมหาศาลกินไปสิบชาติก้ไม่หมด ประชาธิปไตยทำให้คนเข้าถึงได้ด้วยความเท่าเทียม คนทั่วไปสามารถเข้าไปทำมาหากินเเข่งได้ มีบริษัทหมู่บ้านร่วมมือกันมากมาย กลายเป็นคู่เเข่ง
เหล่านี้ลองตรองดูเถิด มันหาใช่ความเป็นธรรมตรงไหน ท่านผู้มีความรู้ เขียนมาถึงตรงนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนเพื่อทำภาระกิจ ตลาดหลักทระพย์กำลังจะเปิด เเล้วช่วงบ่ายๆจะเข้ามาเล่าที่มาทำไมจึงมีกำเหนิดคนเสื้อเเดง เค้าผ่านอะไรกันมาบ้างเค้ามองเห็นอะไรทำไมจำนวนมากมายมหาศาล เป็นฝูงควายเเดง อย่างที่พวกคุณเรียกขาน ทำไมจะมีคำตอบ ทำไม.................
http://ppantip.com/topic/31703976 ตอน2