เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ครอบครัวตัวกลม-กลมทั้งบ้านของเรียม ก็ได้ไปเยือน ร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่
ที่สุดในโลก กันมาค่ะ นั้นก็คือ เรือ " Logos Hope" ที่มาเยือนกรุงเทพ โดยจอดที่ท่าเรือคลองเตย
เมื่อปีที่แล้ว เรียมได้ไปเยี่ยมชม เรือ Logos Hope มารอบหนึ่งแล้ว พอดูเสร็จก่อนกลับ ก็จะมีคอมฯ
ของทางเรือที่ให้เราส่งข้อความถึงกัปตันได้ เรียมก็ส่งข้อความขอบคุณเขาไป พอปีนี้ ก่อนเรือจะมา
เรียมก็ได้รับอีเมล์จากกัปตัน Jack เอ้ย กัปตันเรือ Logos ว่าเขากำลังจะมาเมืองไทยอีกแล้วนะ
รู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ หุหุ
ได้ทีว่างวันเสาร์นี้ ก็เลยบังคับขืนข่ม ข่มขืนป่าป๊ากล้วยหอม ให้ไปส่งเรียมกับเจ้ากล้วยหอมไปเที่ยวเรือหน่อย
เรือเปิดตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2014 เวลาเปิดคือ 13.00 - 21.00 น. ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม 20 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี โดยต้องมีผู้ปกครองดูแลด้วยค่ะ
มาถึงก็จะเจอหนุ่มหน้ามน 2 คนนี้เก็บค่าเข้าชมเรือก่อนค่ะ จ่าย 40 บาท สำหรับ 2 คน ส่วนกล้วยหอมฟรี
เรือ Logos Hope จะเป็นเรือปรับอากาศทั้งลำ และเปิดให้บริการร้านหนังสือ ชั้นเดียว พอเข้าไปถึง
ก็จะเจอตรงส่วนนี่ก่อน ซึ่งจะมีอาสาสมัคร มาแนะนำเรือสั้นๆประมาณ 5 นาที ก่อนปล่อยเราเข้าเรือไป
เรือจะเดินเป็นทางเดียว เป็นวงกลม แล้วไปจบที่ทางออกทางเดียวกับทางเข้าค่ะ
เข้าไปข้างในก็จะเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งในโบร์ชัวร์ระบุว่ามีมากกว่า 5,000 รายการ
หนังสือมีหลายประเภทนะคะ เช่น หนังสือวิทยาศาสตร์ การกีฬา ตำราอาหาร หนังสือสำหรับเด็ก
นิยายต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
ส่วนเรียมกับป่าป๊ากล้วยหอม จะไปดูหนังสือเด็กซะส่วนใหญ่
กล้วยหอมก็ชอบเหมือนกัน ในมือนั้นเป็นของเล่น ลูกบอลที่จำหน่ายในเรือเหมือนกัน ราคา 40 บาทมั้ง ถ้าจำไม่ผิด
หนังสือจะระบุราคาเป็น Unit คาดว่าไปหลายประเทศ ถ้าแปะราคาที่หนังสือ พอเปลี่ยนประเทศก็
ราคาเปลี่ยน ใช้หลักการแบบนี้น่าจะง่ายกว่าค่ะ แต่ละ Unit จะเทียบเป็นเงินไทยได้ดังนี้ค่ะ
หนังสือนิยาย
ซีดี ดีวีดีก็มีค่ะ
มาจ่ายตังค์ตรงนี้ก่อนออกจากร้านหนังสือ
พอออกจากเข้าวงเวียนเล่าเรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อคนหนึ่งมีลูก 2 คน พอลูกทั้ง 2 คนโต
พ่อก็ให้เงินไปตั้งตัว คนหนึ่งเอาไปทำสวน ทำเกษตรกรรมต่อ ส่วนอีกคนหนึ่งเอาไปถลุง
เล่นการพนัน จนหมดตัว ต้องกลับมาหาพ่อ แต่พ่อก็ดูแล ทำให้กลับตัวได้
ตรงนี้จะเน้นเรื่องว่า ชีวิตคนเราพอโตไป มีทางเลือกหลายอย่าง แล้วแต่เราว่าจะเลือกไปดีหรือเลวค่ะ
น้องมิกกี้ อาสาสมัครที่เล่าเรื่องราว ยาวมาก ให้เรียมฟัง แต่เรียมสามารถสรุปได้ ใน 2 บรรทัด 555
พอออกจากวงเวียนตรงนั้นก็จะมีที่พัก
แล้วก็มาถึงจุดบริการขนมและเครื่องดื่มให้กับคนที่มาเยี่ยมชมเรือ
มีมุมของเล่นเด็กด้วย ก็จะมีเลโก้ ระบายสี และมีอาสาสมัครมาวาดรูปสีน้ำบนมือ หรือบนแก้มแล้ว
แต่ต้องการ ของกล้วยหอมจะวาดรูปดวงอาทิตย์ที่มือค่ะ
มีของเล่น เป็นปั่นจั่นของเล่นที่บังคับได้ด้วย แต่แบตเตอรี่หมดพอดีตอนกล้วยหอมจับ หุหุ
มุมกาแฟอีกสักรูปหนึ่ง วันเสาร์ที่เรียมไปคนไม่ค่อยเยอะนะ
เสร็จจากโซนนี้ แล้วก็เตรียมตัวกลับบ้าน ระหว่างทางกลับก็มีจะมีห้องน้ำ และมุมให้ถ่ายรูปเท่ห์ๆค่ะ
กล้วยหอมก็ไม่รอช้า ตอนนี้เริ่มโต เริ่มรู้จักเป็นนางแบบให้แม่ได้แล้ว หุหุ
กัปตันกล้วยหอม ณ เรือ Logos Hope ครับผ้มมมมม
หมดแล้ว ละ ได้เวลากลับบ้านแล้วจ้า
ดูเป็นวีดิโอได้ด้วยนะคะ ถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดูคร่าวๆค่ะ
สรุป
1. เรือ Logos Hope มีขนาดใหญ่ ร้านหนังสือเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษราคาไม่แพง
หนังสือเด็กก็เยอะมาก ถ้าใครสนใจจะไปซื้อหนังสือภาษาอังกฤษ แนะนำว่าน่าไปค่ะ
เรียมยังได้มา 6-7 เล่มเลยค่ะ
2. กิจกรรมบนเรือ แล้วก็สิ่งที่ให้ดูบนเรือไม่เยอะอย่างที่คิด คือถ้าใครอยู่ใกล้ๆ ท่าเรือคลองเตยแล้ว
ไปเยี่ยมชม ก็โอเคอยู่ แต่ถ้าอยู่ไกลๆ จะขับรถไปดูอาจจะไม่คุ้มเท่าไรค่ะ เพราะอย่างที่บอก
ไม่มีอะไรให้ดูเท่าไรค่ะ
3. เรือเย็นค่ะ ปรับอากาศ ไม่ร้อนเลย
[CR] ครอบครัวตัวกลมพาเที่ยว : พาลูกขึ้นเรือ Logos Hope ร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ครอบครัวตัวกลม-กลมทั้งบ้านของเรียม ก็ได้ไปเยือน ร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่
ที่สุดในโลก กันมาค่ะ นั้นก็คือ เรือ " Logos Hope" ที่มาเยือนกรุงเทพ โดยจอดที่ท่าเรือคลองเตย
เมื่อปีที่แล้ว เรียมได้ไปเยี่ยมชม เรือ Logos Hope มารอบหนึ่งแล้ว พอดูเสร็จก่อนกลับ ก็จะมีคอมฯ
ของทางเรือที่ให้เราส่งข้อความถึงกัปตันได้ เรียมก็ส่งข้อความขอบคุณเขาไป พอปีนี้ ก่อนเรือจะมา
เรียมก็ได้รับอีเมล์จากกัปตัน Jack เอ้ย กัปตันเรือ Logos ว่าเขากำลังจะมาเมืองไทยอีกแล้วนะ
รู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ หุหุ
ได้ทีว่างวันเสาร์นี้ ก็เลยบังคับขืนข่ม ข่มขืนป่าป๊ากล้วยหอม ให้ไปส่งเรียมกับเจ้ากล้วยหอมไปเที่ยวเรือหน่อย
เรือเปิดตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2014 เวลาเปิดคือ 13.00 - 21.00 น. ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม 20 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี โดยต้องมีผู้ปกครองดูแลด้วยค่ะ
มาถึงก็จะเจอหนุ่มหน้ามน 2 คนนี้เก็บค่าเข้าชมเรือก่อนค่ะ จ่าย 40 บาท สำหรับ 2 คน ส่วนกล้วยหอมฟรี
เรือ Logos Hope จะเป็นเรือปรับอากาศทั้งลำ และเปิดให้บริการร้านหนังสือ ชั้นเดียว พอเข้าไปถึง
ก็จะเจอตรงส่วนนี่ก่อน ซึ่งจะมีอาสาสมัคร มาแนะนำเรือสั้นๆประมาณ 5 นาที ก่อนปล่อยเราเข้าเรือไป
เรือจะเดินเป็นทางเดียว เป็นวงกลม แล้วไปจบที่ทางออกทางเดียวกับทางเข้าค่ะ
เข้าไปข้างในก็จะเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งในโบร์ชัวร์ระบุว่ามีมากกว่า 5,000 รายการ
หนังสือมีหลายประเภทนะคะ เช่น หนังสือวิทยาศาสตร์ การกีฬา ตำราอาหาร หนังสือสำหรับเด็ก
นิยายต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
ส่วนเรียมกับป่าป๊ากล้วยหอม จะไปดูหนังสือเด็กซะส่วนใหญ่
กล้วยหอมก็ชอบเหมือนกัน ในมือนั้นเป็นของเล่น ลูกบอลที่จำหน่ายในเรือเหมือนกัน ราคา 40 บาทมั้ง ถ้าจำไม่ผิด
หนังสือจะระบุราคาเป็น Unit คาดว่าไปหลายประเทศ ถ้าแปะราคาที่หนังสือ พอเปลี่ยนประเทศก็
ราคาเปลี่ยน ใช้หลักการแบบนี้น่าจะง่ายกว่าค่ะ แต่ละ Unit จะเทียบเป็นเงินไทยได้ดังนี้ค่ะ
หนังสือนิยาย
ซีดี ดีวีดีก็มีค่ะ
มาจ่ายตังค์ตรงนี้ก่อนออกจากร้านหนังสือ
พอออกจากเข้าวงเวียนเล่าเรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อคนหนึ่งมีลูก 2 คน พอลูกทั้ง 2 คนโต
พ่อก็ให้เงินไปตั้งตัว คนหนึ่งเอาไปทำสวน ทำเกษตรกรรมต่อ ส่วนอีกคนหนึ่งเอาไปถลุง
เล่นการพนัน จนหมดตัว ต้องกลับมาหาพ่อ แต่พ่อก็ดูแล ทำให้กลับตัวได้
ตรงนี้จะเน้นเรื่องว่า ชีวิตคนเราพอโตไป มีทางเลือกหลายอย่าง แล้วแต่เราว่าจะเลือกไปดีหรือเลวค่ะ
น้องมิกกี้ อาสาสมัครที่เล่าเรื่องราว ยาวมาก ให้เรียมฟัง แต่เรียมสามารถสรุปได้ ใน 2 บรรทัด 555
พอออกจากวงเวียนตรงนั้นก็จะมีที่พัก
แล้วก็มาถึงจุดบริการขนมและเครื่องดื่มให้กับคนที่มาเยี่ยมชมเรือ
มีมุมของเล่นเด็กด้วย ก็จะมีเลโก้ ระบายสี และมีอาสาสมัครมาวาดรูปสีน้ำบนมือ หรือบนแก้มแล้ว
แต่ต้องการ ของกล้วยหอมจะวาดรูปดวงอาทิตย์ที่มือค่ะ
มีของเล่น เป็นปั่นจั่นของเล่นที่บังคับได้ด้วย แต่แบตเตอรี่หมดพอดีตอนกล้วยหอมจับ หุหุ
มุมกาแฟอีกสักรูปหนึ่ง วันเสาร์ที่เรียมไปคนไม่ค่อยเยอะนะ
เสร็จจากโซนนี้ แล้วก็เตรียมตัวกลับบ้าน ระหว่างทางกลับก็มีจะมีห้องน้ำ และมุมให้ถ่ายรูปเท่ห์ๆค่ะ
กล้วยหอมก็ไม่รอช้า ตอนนี้เริ่มโต เริ่มรู้จักเป็นนางแบบให้แม่ได้แล้ว หุหุ
กัปตันกล้วยหอม ณ เรือ Logos Hope ครับผ้มมมมม
หมดแล้ว ละ ได้เวลากลับบ้านแล้วจ้า
ดูเป็นวีดิโอได้ด้วยนะคะ ถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดูคร่าวๆค่ะ
สรุป
1. เรือ Logos Hope มีขนาดใหญ่ ร้านหนังสือเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษราคาไม่แพง
หนังสือเด็กก็เยอะมาก ถ้าใครสนใจจะไปซื้อหนังสือภาษาอังกฤษ แนะนำว่าน่าไปค่ะ
เรียมยังได้มา 6-7 เล่มเลยค่ะ
2. กิจกรรมบนเรือ แล้วก็สิ่งที่ให้ดูบนเรือไม่เยอะอย่างที่คิด คือถ้าใครอยู่ใกล้ๆ ท่าเรือคลองเตยแล้ว
ไปเยี่ยมชม ก็โอเคอยู่ แต่ถ้าอยู่ไกลๆ จะขับรถไปดูอาจจะไม่คุ้มเท่าไรค่ะ เพราะอย่างที่บอก
ไม่มีอะไรให้ดูเท่าไรค่ะ
3. เรือเย็นค่ะ ปรับอากาศ ไม่ร้อนเลย
~*~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*~*~ *