ผู้บริหาร AIS เตรียมที่จะเปลี่ยนชื่อในทะเบียนการค้าจาก "ชิน คอร์ปอเรชั่น" เป็นบริษัท "อินทัช" ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ แต่แผนที่จะเปลี่ยนในครั้งนี้ ผู้บริหารยืนยันว่าไมได้เกิดจากเหตุการณ์บอยคอต แต่เป็นแนวคิดต่อเนื่องหลังรีแบรนด์เป็น "อินทัช" เมื่อ 2 ปีก่อน
วิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ยืนยันว่า ตระกูลชินวัตร ไม่ได้ถือหุ้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือแล้ว โดยปัจจุบันชื่อของบริษัทได้มีการรีแบรนด์ไปแล้วภายใต้ชื่อ "อินทัช โฮลดิ้งส์" แต่ชื่อในทะเบียนการค้ายังเป็น ชิน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนชื่อมาเป็น "อินทัช โอลดิ้งส์" เร็วๆ นี้ โดยขณะนี้คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ทำการเปลี่ยนชื่อแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้จะไม่มีคำว่า ชิน อีกแล้ว
“เราไม่ได้เพิ่งมาคิดเรื่องนี้ตอนนี้ แต่คิดมานานแล้ว ซึ่งต้องดำเนินการค่อยเป็นค่อยไป" วิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
คุณวิเชียร บอกว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น ในลำดับแรก การรับมือเรื่องนี้ของ เอไอเอส คงต้องได้แต่อธิบาย ทำความเข้าใจ คือ ลูกค้าของเอไอเอส ส่วนที่สอง คือ พนักงาน เพราะยอมรับว่า พนักงานของเอไอเอส ไม่น้อยก็ไปเข้าร่วมกับ กปปส ด้วยเช่นกัน ซึ่งพนักงานเหล่านี้ ก็ตกใจว่า ทำไมอยู่ๆ มาทุบหม้อข้าวเขา ทั้งที่เขาก็ทำงานบริษัทนี้มาด้วยความขยัน ซื่อสัตย์ตลอด แล้วส่วนใครถือหุ้นในบริษัทอย่างไรนั่น ก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว "ส่วนการส่งเอสเอ็มเอสไปถึงลูกค้า ก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำ และชี้แจงกับลูกค้าว่า “ผู้ถือหุ้นเรา ไม่ใช่คุณทักษิณ และครอบครัวชินวัตรก็ไม่ได้มีหุ้น บริษัทจะอยู่ จะไป จะเจ๊ง อย่างที่เขาต้องการก็ไม่ได้ไปทำให้ฝ่ายชินวัตรเดือดร้อน”
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ
"ชินคอร์ป"เล็งเปลี่ยนชื่อการค้าเป็น"อินทัช"
วิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ยืนยันว่า ตระกูลชินวัตร ไม่ได้ถือหุ้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือแล้ว โดยปัจจุบันชื่อของบริษัทได้มีการรีแบรนด์ไปแล้วภายใต้ชื่อ "อินทัช โฮลดิ้งส์" แต่ชื่อในทะเบียนการค้ายังเป็น ชิน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนชื่อมาเป็น "อินทัช โอลดิ้งส์" เร็วๆ นี้ โดยขณะนี้คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ทำการเปลี่ยนชื่อแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้จะไม่มีคำว่า ชิน อีกแล้ว
“เราไม่ได้เพิ่งมาคิดเรื่องนี้ตอนนี้ แต่คิดมานานแล้ว ซึ่งต้องดำเนินการค่อยเป็นค่อยไป" วิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
คุณวิเชียร บอกว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น ในลำดับแรก การรับมือเรื่องนี้ของ เอไอเอส คงต้องได้แต่อธิบาย ทำความเข้าใจ คือ ลูกค้าของเอไอเอส ส่วนที่สอง คือ พนักงาน เพราะยอมรับว่า พนักงานของเอไอเอส ไม่น้อยก็ไปเข้าร่วมกับ กปปส ด้วยเช่นกัน ซึ่งพนักงานเหล่านี้ ก็ตกใจว่า ทำไมอยู่ๆ มาทุบหม้อข้าวเขา ทั้งที่เขาก็ทำงานบริษัทนี้มาด้วยความขยัน ซื่อสัตย์ตลอด แล้วส่วนใครถือหุ้นในบริษัทอย่างไรนั่น ก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว "ส่วนการส่งเอสเอ็มเอสไปถึงลูกค้า ก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำ และชี้แจงกับลูกค้าว่า “ผู้ถือหุ้นเรา ไม่ใช่คุณทักษิณ และครอบครัวชินวัตรก็ไม่ได้มีหุ้น บริษัทจะอยู่ จะไป จะเจ๊ง อย่างที่เขาต้องการก็ไม่ได้ไปทำให้ฝ่ายชินวัตรเดือดร้อน”
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ