อ่านมาจึงขอแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ

เรื่องเล่าจากธรรมาจารย์ : วัฏจักรกฏแห่งกรรม


นานมาแล้วมีชายชราคนหนึ่ง เขามีลูกชายหนึ่งคน เมื่อลูกชายเติบโตขึ้นจึงแต่งงานมีครอบครัว หลังจากแต่งงานได้เพียง 7 วัน เขาก็พาภรรยาไปเที่ยวบริเวณภูเขา ในระหว่างนั้นภรรยาเห็นดอกไม้ซึ่งสวยสดงดงามมากดอกหนึ่งอยู่บริเวณหน้าผา เธอชอบดอกไม้ดอกนั้นมาก เขาจึงอยากไปเก็บให้ภรรยา โดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

ระหว่าง ที่เขาปีนไปเก็บดอกไม้ที่หน้าผานั้น ด้วยความไม่ระวัง จึงเหยียบพลาดและตกลงไปในหุบเขา จนต้องจบชีวิตลง ผู้เป็นภรรยาเสียใจที่เป็นต้นเหตุในเรื่องนี้ ส่วนชายชราและภรรยาของเขาก็เศร้าโศกเสียใจปานใจจะขาด เมื่อได้ทราบว่าลูกชายจากไปแล้ว

วัฏจักรกฏแห่งกรรมที่ได้รับอันเจ็บปวด
ชายชรา ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมลูกชายของตนที่ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ ต้องมาจบชีวิตลงเร็วเช่นนี้” พระพุทธเจ้าจึงบอกชายชราผู้นั้นว่า ชาติที่แล้วมีชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งชอบล่านกมาก และในเวลาที่เขาล่านกก็จะมีเพื่อนสามคนที่อยู่ข้างๆ เขาคอยยุยงส่งเสริมในการล่านกนั้น เป็นเพราะเหตุนี้ พอมาถึงชาตินี้กรรมจึงตามสนอง นั่นก็คือชายหนุ่มที่ชอบล่านกคนนั้นก็คือลูกชายของท่าน ส่วนเพื่อนสามคนที่คอยยุยงส่งเสริมก็คือ ภรรยาของลูกชายของท่าน อีกสองคนก็คือท่านและภรรยาของท่านนั่นเอง

ในระหว่างที่คนอื่นกำลังฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่ ถ้าเราอยู่ข้างๆ แล้วคอยยุยงส่งเสริมการกระทำนั้น นอกจากคนที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้อื่นจะมีอายุสั้นแล้ว คนที่อยู่ข้างๆ ถึงแม้ไม่ได้เป็นคนฆ่าเอง แต่กลับส่งเสริมคนอื่น ก็จะได้รับผลกรรมเช่นกัน ก็คือได้รับผลกรรมที่เจ็บปวดทรมาน กับการต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เหมือนอย่างเรื่องเล่าข้างต้น

※ คัดจาก หนังสือฉือจี้ประจำปี พ.ศ.2549
http://tzuchithailand.org/th/index.php?option=com_content&view=article&id=179:touching-stories&catid=92:touching-stories&Itemid=837

บางทีเราก็เผลอเป็นกองเชียร์ด้วยความสะใจบ้าง เสียใจบ้าง โดยที่เราไม่ทราบว่า มันอาจทำให้เรามีกรรมไม่ดีติดตัวไป

มิตรา