สมปรารถนาด้วย "ธรรม ๔"

กระทู้สนทนา
สิ่งที่ปรารถนาในโลก

        ครั้งหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร  วัดที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวายไว้ในกรุงสาวัตถี
        ครั้งนั้น  ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ  ถวายบังคมแล้วจึงนั่งลงในที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง

        พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า    ''ดูก่อนคฤหบดี    สิ่งที่น่าปรารถนา    น่ารักใคร่    น่าพอใจ    ที่หาได้ยากในโลกนี้
มีอยู่  ๔  ประการ  คือ  ปรารถนาว่า


        ๑.  ขอ โภคทรัพย์ จงเกิดแก่เราโดยชอบธรรมเถิด
        ๒.  ขอ ยศ จงเกิดแก่เราผู้ได้โภคทรัพย์แล้ว  พร้อมด้วยญาติและมิตรสหายเถิด
        ๓.  ขอเราผู้ได้โภคทรัพย์ได้ยศแล้ว  พร้อมทั้งญาติและมิตรสหาย  จงรักษา อายุ ให้ยั่งยืนนานเถิด
        ๔.  ขอเราผู้ได้โภคทรัพย์ได้ยศ  พร้อมด้วยญาติและมิตรสหาย  รักษาอายุให้ยั่งยืนนานแล้ว  เมื่อตายแล้ว  ขอเราได้ไปเกิด
ใน สุคติโลกสวรรค์ เถิด  

        รวมเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา  น่ารักใคร่  น่าพอใจ  ที่หาได้ยากในโลกนี้  ๔  ประการด้วยกัน


สมปรารถนาด้วยธรรม  ๔

        ดูก่อนคฤหบดี  ธรรม  ๔  ประการนี้  ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้สิ่งที่หาได้ยาก  ๔  ประการ (นั้น)    ธรรม  ๔  ประการมีอะไรบ้าง
        ธรรม  ๔  ประการ  ได้แก่

        ๑.  สัทธาสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
        ๒.  สัลสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยศีล
        ๓.  จาคสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยการบริจาคทาน
        ๔.  ปัญญาสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยปัญญา

        ดูก่อนคฤหบดี  
        สัทธาสัมปทา  คือ  ถึงพร้อมด้วยศรัทธา  หมายความว่าอย่างไร  
        หมายความถึง    การเชื่อพระปัญญาการตรัสรู้ของพระตถาคตว่า    อิติปิโส  ภะคะวา  ฯลฯ  พุทโธ  ภะคะวาติ
        แม้เพราะเหตุนี้ๆ  พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น  เป็นพระอรหันต์  ตรัสรู้เองโดยชอบ  ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ  เสด็จไป
ดีแล้ว  เป็นผู้รู้แจ้งโลก  เป็นผู้ฝึกคนที่พึงฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า  เป็นศาสดา (ครู)  ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เป็นผู้ตรัสรู้  ผู้ตื่น  
ผู้เบิกบานแล้ว  เป็นผู้จำแนกธรรม  นี้เรียกว่า  สัทธาสัมปทา  คือถึงพร้อมด้วยศรัทธา  

        สีลสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยศีล  หมายความว่าอย่างไร
        หมายความถึง    การงดเว้นจากการฆ่าสัตว์    งดเว้นจากการลักทรัพย์    งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม    งดเว้นจากการ
พูดเท็จ    งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา  คือสุราและเมรัย    อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

        จาคสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยการบริจาค  หมายความว่าอย่างไร
        หมายความถึง    การอยู่ครองเรือนด้วยใจอันไม่มีมลทิน  คือความตระหนี่  หรือความหวงแหน  มีการเสียสละ   มีฝ่ามืออันชุ่ม  
ยินดีในการให้ทาน   การทำตนให้สมควรแก่การขอ   การยินดีในการจำแนกแจกทาน

        ปัญญาสัมปทา    คือ  ถึงพร้อมด้วยปัญญา  หมายความว่าอย่างไร
        หมายความถึง    บุคคลผู้มีใจถูกความโลภ  (ความอยากได้)  ครอบงำแล้ว     ถูกพยาบาท  (ความคิดร้ายผู้อื่น)  ครอบงำแล้ว  
ถูกถีนมิทธะ    (ความที่จิตหดหู่และเซื่อมซึม)    ครอบงำแล้ว        ถูกอุทธัจจกุกกุจจะ    (ความฟุ้งซ่านและรำคาญ)    ครอบงำแล้ว    
ถูกวิจิกิจฉา    (ความลังเลสงสัย)    ครอบงำแล้ว     ย่อมทำสิ่งที่ไม่ควรทำ  แต่ไม่ทำสิ่งที่ควรทำ    เมื่อทำสิ่งที่ไม่ควรทำ  แต่ไม่ทำ
สิ่งที่ควรทำ    ก็กำจัดยศและความสุขไปเสีย


        ดูก่อนคฤหบดี    อริยสาวกรู้ว่า      ความโลภเป็นสิ่งเศร้าหมองของจิต      ก็ละความโลภเสียได้      รู้ว่าความพยาบาทเป็นสิ่ง
เศร้าหมองของจิต    ก็ละความพยาบาท       รู้ว่าถีนมิทธะเป็นสิ่งเศร้าหมองของจิต    ก็ละถีนมิทธะ       รู้ว่าอุทธัจจกุกกุจจะเป็นสิ่ง
เศร้าหมองของจิต    ก็ละอุทธัจจกุกกุจจะ      รู้ว่าวิจิกิจฉาเป็นสิ่งเศร้าหมองของจิต    ก็ละวิจิกิจฉาเสียได้

        เพราะเหตุที่อริยสาวกละความโลภ       ความพยาบาท       ถีนมิทธะ       อุทธัจจกุกกุจจะ       วิจิกิจฉาเสียได้       จึงเรียกว่า  
เป็นผู้มีปัญญามาก    มีปัญญากว้างขวาง    เป็นผู้เห็นทาง    เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา



      



ศีกษา  ค้นคว้า  ในพระไตรปิฎก  ได้จาก  บาลีคัมภีร์อังคุตตรนิกาย  จตุกกนิบาต  แห่งปัตตกรรมวรรคที่  ๒

ที่มา  :  ชีวประวัติพุทธอุบาสก    รวบรวมเรียบเรียงโดย   อ. จำเนียร  ทรงฤกษ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่