เอิ่มม......


คิดว่า เวลาสู้กัน ตำรวจเค้าจะใส่ชุดเครื่องแบบ ทหารใส่ชุดเครื่องแบบ แล้วเดินเรียงหน้ายิงกันเหมือนตอนสลายการชุมนุมเหรอครับ...บ้าเปล่า..
คิดว่าตอนนี้ที่ภาคใต้ ทหารสู้กับใครครับ..กำลังอาวุธน้อยกว่าตำรวจกี่เท่าตัวยังรบแตกหักไม่ได้เลย...

การรบที่แท้จริงมันไม่ใช่มีอาวุธที่เหนือกว่าแล้วจะชนะนะครับ... อย่างอเมริกาที่โจมตีเวียตนามนั่นไง... มันอยู่ที่ยุทธวิธี การหาแนวร่วม การวางกำลัง การลอบโจมตี การข่าว การตัดกำลังเสริมและลดทอนอำนาจการสั่งการ

เห็นหลายคนในหว้ากอมีความรู้เรื่องอาวุธกันเยอะแยะ...เช่นเอา ปืนอันนั้นมาเทียบกันนี้ ปืนอันนั้นเทพกว่า รถถังอันนั้นดีกว่า.. ถามหน่อยว่าทั้งปืนทั้งรถต่างๆ มันทำงานเองได้มั๊ยมันวิ่งไปที่เป้าหมายเอง ยิงเอง หนีเองได้มั๊ย....

ถ้าเอาจริงๆ คิดว่า ตำรวจหรือทหาร ได้มีการฝึกใช้ปืนจริงๆมากกว่ากัน.. ตำรวจที่ต้องรบกับพ่อค้ายาตลอดเวลา หรือ พลทหารที่ลาดตระเวนปราบยาเสพติด.. ผมว่าเอาเข้าจริงๆ ทหารที่ถูกฝึกฝนเพื่อใช้รบก็มีอยู่ไม่กี่หน่วย..ตำรวจเองก็มีหน่วยรบของตัวเองเหมือนกัน...แต่วัดที่ใครจะเปิดเผยตัวเองได้ง่ายกว่า..ดังนั้นการรบในยุคสงครามกลางเมืองจะไม่ใช่การรบแบบ mob vs mob แต่จะเป็นสงครามแบบ "กองโจร" อย่างที่ทหารเจอที่ภาคใต้...


ทหารจะไม่สามารถกระจายตัวแทรกซึมกับชาวบ้านได้เหมือนตำรวจ แต่เป็นการตั้งค่ายพัก กับเก็บอุปกรณ์ เสบียง อาวุธไว้ในค่าย.. แต่ตำรวจปกติก็อยู่กับชาวบ้านอยู่แล้วแทรกซึมได้ง่ายกว่ามากๆ การโจมตีจากตำรวจไปสู่ทหารทำได้ง่ายกว่าเยอะครับ.. และที่สำคัญ ถ้าดูจากคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ทหารให้ free vote จะเห็นได้ว่าแทบจะทุกค่ายทหาร พรรคเพื่อไทยคะแนนนำแบบขาดลอย ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงว่า "ทหารแตงโม" มันเยอะขนาดไหน..เอาเข้าจริงๆ เผลอๆมีการกบฏในกองทัพจับผู้บัญชาการเลยก็เป็นได้..

ระยะแรกการรบ...คงเป็นลักษณะการรวบรวมกำลังพล

ทหารจะไม่กล้าส่งกำลังและอาวุธขึ้นไปยังเหนือกับอีสาน เพราะ ยังไม่แน่ใจกับกองกำลังทั้ง 2 ภาคว่าจะขึ้นกับกองกำลังทางภาคกลางหรือไม่..จริงๆแล้วเอาแค่กองกำลังภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพเอง..ยังไม่แน่ว่าจะยึดอำนาจทหารได้จริงๆหรือเปล่า เพราะอย่างที่รู้กันว่าในกองทัพเองก็ใช่ว่าจะเป็นหนึ่งเดียวกัน..ดังนั้นถ้าเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นจริงๆ กรุงเทพฯ จะเป็นสมรภูมิแรกที่ทหารจะซัดกันเองก่อนที่จะซัดกับตำรวจเสียอีก...จากนั้นรอว่าฝ่ายใดได้ชัยชนะ... โดยแยกเป็น 2 กรณีคือ ทหารฝั่งแดงชนะ...ทุกอย่างจบ..ไม่เกิดสงครามยืดเยื้อ...แต่ถ้าฝั่งเหลืองชนะ..สามารถยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จ ก็จะทำการเข้าโจมตีพื้นที่ที่มีการแสดงตัวไม่ยอมรับการยึดของทหาร แต่การสู้รบจะเป็นลักษณะการรบแบบกองโจร

ทางด้านตำรวจ...

รอดูสถานการณ์ฝั่งทหารที่รบกันที่กรุงเทพฯ และระหว่างนั้นก็เริ่มสะสมอาวุธและวางเครือข่ายใต้ดินรอการสั่งการ โดยมีการประสานงานอย่างลับๆกับทหารแตงโนในค่ายแต่ละค่ายที่กระจายกันอยู่ และรอเข้ายึดอำนาจในค่ายต่างๆ กรณีที่ค่ายไหนยึดอำนาจไม่ได้ก็จะเป็นลักษณะการจู่โจมแบบภาคใต้คือ วางระเบิด แอบยิง ตอดไปเรื่อยๆ พลักดันให้กองทัพไม่สามารถปฏิบัติภาระกิจฝ่ายนอกค่ายได้...

อันนี้ยังไม่นับการสนับสนุนจากต่างประเทศ ว่า รัฐบาลพลัดถิ่นที่ตั้งขึ้นนั้นจะได้รับการยอมรับหรือไม่....แต่ถ้าตามข่าวดูแล้ว..ท่าทางต่างประเทศยังขึ้นกับรัฐบาลพลัดถิ่นมากกว่า... จากนั้นประเทศที่ต้องการผลประโยชน์แลกเปลี่ยนจะยื่นความช่วยเหลือต่างๆ อาทิ อาวุธ การข่าว ฯลฯ ให้กับกองกำลังตำรวจ(ที่รวมกับทหารแตงโม)



จากนั้นจะเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน....

เพราะกำลังรบของแต่ละฝ่ายจะเริ่มใช้อาวุธเข้าใส่กัน แย่งชิงพื้นที่กันและกัน...ตอนนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนทหารที่เข้าร่วมรบ กับ จำนวนอาวุธด้วยแล้วล้วนๆแต่ถ้าดูจากกำลังทหารแล้ว..ผมว่า..ดูแล้ว..ฝั่งแดงน่าจะได้เปรียบเรื่องจำนวน และ ความชำนาญทางพื้นที่อยู่พอสมควร...