หนังกลางแปลง แหล่งบันเทิงบนลานกว้าง ในกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เชี่ยวกราก วันนี้-พรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร?
"หนังกลางแปลง" เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงที่คู่เคียงกับสังคมไทยมานาน โดยเฉพาะชาวบ้านร้านตลาด และชาวชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ไม่ว่า ณ ที่ใดก็ตาม เมื่อมีการตั้งจอหนังบนลานกว้างและเปิดเพลงดังกระหึ่มในยามเย็น เสียงเพลงที่ดังกังวานนั้น เหมือนจะปลุกให้ผู้คนเกิดความคึกคักมีชีวิตชีวา ก่อนที่จะพากันออกมานั่งหาความสุขสำราญดูหนังกลางแปลงในค่ำคืนนั้น
หนังกลางแปลงสามารถจะมองในเชิงสังคมได้หลายมิติ ทั้งในแง่ของแหล่งความบันเทิงที่ไม่ต้องเสียเงิน เป็นจุดสังสรรค์นัดพบของผู้คนในชุมชน และยังสะท้อนให้เห็นฐานะและรสนิยมความบันเทิงของชุมชนนั้นๆ อีกด้วย หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพบรักของคนหนุ่มสาว หนังกลางแปลงก็มีบทบาทในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะหนุ่มสาวตามชนบท ซึ่งหนังกลางแปลงมีส่วนทำให้ดอกรักบานสะพรั่งในใจคนหนุ่มสาว จนร่วมหอลงโรงเป็นคู่ชีวิตมามากต่อมากแล้ว
ในอดีต หนังกลางแปลง มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากจะเป็นความบันเทิงที่สามารถจะเคลื่อนย้ายไปได้ทุกแห่งหนแล้ว หนังกลางแปลงยังถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกด้วย ดังจะเห็นได้ว่ามีหลายบริษัทได้ใช้หนังกลางแปลงนี่แหละ เป็นเครื่องมือสำคัญในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ทุรกันดารสักเพียงใด รถที่ถูกดัดแปลงเป็นรถฉายหนังกลางแปลงก็สามารถจะเดินทางไปถึงได้
แต่ครั้นเทคโนโลยีการฉายหนังในรูปแบบใหม่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เครื่องฉายหนังวีดิโอเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อวงการหนังกลางแปลงทันที และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหนังกลางแปลงจะยังมีอยู่ แต่ก็ต้องปรับตัวขนานใหญ่ และเมื่อเข้าสู่ยุคหนังแผ่น หนังกลางแปลงก็เหมือนถูกกระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงโหมพัดอย่างรุนแรง จนทุกวันนี้จึงทำให้คนที่มีอาชีพเกี่ยวกับการรับจ้างฉายหนังกลางแปลง บางรายก็ต้องเลิกรา บางรายต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาความอยู่รอด เว้นเสียแต่เป็นรายใหญ่ที่มีเงินทุนหนาจริงๆ และสามารถจะซื้อหนังใหม่ๆ จากสายหนังหรือบริษัทในกรุงเทพฯ เอาไว้ทีละหลายๆ เรื่อง สำหรับนำไปฉายเป็นกลางแปลงเท่านั้น
บรรดาศูนย์รวมเกี่ยวกับการรับจ้างฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศ ทั้งระบบใหม่และระบบเก่า รวมถึงการเป็นแหล่งของชุมชนคนรักระบบเครื่องฉายภาพยนตร์ ฟิล์มภาพยนตร์ โปรเจคเตอร์ เครื่องฉายหนัง โรงหนัง หนังกลางแปลง คนฉายหนัง คนทำหนัง นักพากย์ โฮมเธียเตอร์ หนังเก่า หนังใหม่ และมียังบริการฉายหนังกลางแปลงในงานพิธี งานเทศกาลหนัง...รวมทั้งรับจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ด้วยนั้น เว็บไซต์ www.peoplecine.com ถือเป็นศูนย์รวมใหญ่ที่นอกจากจะบริการฉายหนังกลางแปลงแล้ว ยังมีเครือข่ายผู้รับจ้างฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศอีกด้วย
สำหรับ www.peoplecine.com นั้น มี
แอ๊ด หรือ
นิธิวิทย์ ธานินทร์สุรวุฒิ เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวงการนี้มาโดยตลอด และมี
อนุกูล วิมูลศักดิ์ อดีตเด็กวิ่งรับ-ส่งฟิล์มหนังกลางแปลง และคนในครอบครัวแทบทุกคนล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับหนังกลางแปลง โดยปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่เป็นเว็บมาสเตอร์ของ www.peoplecine.com และติดตามความเคลื่อนไหวในวงการหนังกลางแปลงอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น คำบอกเล่าและการสะท้อนความคิดในแง่มุมเกี่ยวกับหนังกลางแปลงในยุคปัจจุบัน นอกจากจะทำให้เห็นสภาพที่กำลังเกิดขึ้นกับวงการนี้แล้ว ยังจะทำให้เห็นทิศทางในอนาคตของหนังกลางแปลง ที่นับวันจะต้องเจอกับมรสุมแห่งการเปลี่ยนอย่างเลี่ยงไม่ได้
1.ความเจ็บปวดของหนังกลางแปลง
เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้เครื่องฉายหนังแผ่นระบบต่างๆ ได้หลั่งไหลเข้ามาสู่ตลาดในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตในบ้านเรา และที่ทะลักมาจากประเทศจีน ใครๆ ก็สามารถจะซื้อมาฉายหนังดูในบ้านได้ เพราะราคาก็เพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น แน่นอนที่สุดมันจึงส่งผลกระทบกับคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงอย่างรุนแรง และไม่สามารถจะเลี่ยงได้เลย
"นี่เป็นความเจ็บปวดของคนในวงการหนังกลางแปลง เดี๋ยวนี้แทบจะทุกหลังคาเรือน ไม่ว่าจะอยู่บ้านนอกไกลแสนไกล ก็สามารถจะซื้อเครื่องฉายเครื่องเล่นซีดีได้ อีกอย่างราคาก็แสนถูก เพราะฉะนั้น ภาพความเฟื่องฟูของหนังกลางแปลงที่ผมเคยเห็นในยุคก่อน โดยบางเจ้าหรือที่ศัพท์คนหนังกลางแปลงเรียกว่า 'หน่วย' นั้น มีรถสำหรับตระเวนฉายหนังกลางแปลงกว่า 30 คันจอดเรียงรายยาวเหยียด เดี๋ยวนี้ไม่มีแบบนั้นแล้วนะ บางรายที่เล็กๆ ก็ถึงกับเปลี่ยนอาชีพไปเลย"
นั่นเป็นฉากแรกที่ แอ๊ด ได้บอกเล่าให้รับรู้ถึงสภาพหนังกลางแปลงในยุคนี้
"รายที่อยู่รอดนั้น ต้องมีเงินทุนมากๆ จึงจะอยู่ได้ เพราะสามารถจะซื้อเครื่องฉายยุคใหม่และหนังดังมาฉายได้ หรือไม่บางรายก็ต้องปรับตัว...อย่าลืมว่าทุกวันนี้หนังไม่ว่าจะเป็นหนังไทยหรือหนังต่างประเทศไม่ได้ทำหนังโดยใช้ฟิล์ม แต่ทำหนังระบบดิจิทัล เพราะฉะนั้น หนังที่ใช้ระบบฟิล์ม 35 มม. จึงเป็นแต่หนังเก่า แล้วคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงในบ้านเราส่วนมาก มีแต่เครื่องอาร์คระบบเก่าที่ใช้ฉายกับหนังฟิล์ม 35 มม. มันจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างมากสำหรับคนทำอาชีพนี้ซึ่งเป็นรายเล็กรายน้อย"
สิ่งที่แอ๊ดเปิดประเด็นต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับวงการหนังกลางแปลงก็คือ ไม่มีหน่วยงานใดๆ เลยที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลคนที่มีอาชีพนี้ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากทุกจังหวัดและในกรุงเทพฯ ซึ่งต่างจากอาชีพอื่นๆ บางอาชีพ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกเก่าแก่ และมีการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่สำหรับหนังกลางแปลงไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้เอง คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงที่มีอยู่ตามตัวจังหวัดและตามอำเภอต่างๆ จึงต้องดิ้นรนกันเอง
"คุณคิดดูก็ได้นะ ฉายหนังเก่าจะคิดราคาแพงก็ไม่ได้ ถ้าคิดราคาแพง เจ้าภาพไปจ้างหมอลำซิ่งไม่ดีกว่าเรอะ...เด้งหน้าเด้งหลัง เห็นเนื้อเห็นหนังจริงๆ ด้วย เพราะฉะนั้น หน่วยฉายหนังเล็กๆ ในระดับอำเภอและหมู่บ้าน ถ้าคิดราคาแพงก็ไม่มีใครจ้างหรอก"
นอกจากนี้แล้ว แอ๊ด ยังบอกอีกว่า คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงรายเล็กรายน้อยนั้น จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันกับยุคสมัยก็ลำบาก เพราะว่าจะต้องใช้เงินทุนสูง เพราะการซื้อเครื่องฉายยุคใหม่อย่างเครื่องฉายโปรเจคเตอร์นั้น ราคาเครื่องละเป็นล้าน หรือไม่บางเครื่องก็หลายล้าน จึงทำให้เจ้าของหนังกลางแปลงเล็กๆ ไม่สามารถจะซื้อหามาได้
2. หนังกลางแปลงแลกข้าว
ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคหนังแผ่น และเครื่องฉายระบบดิจิทัล จึงทำให้เครื่องฉายหนังระบบเก่า ฉายได้กับหนังที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. ซึ่งได้กลายเป็นหนังเก่า และไม่มีบริษัทหนังใดผลิตหนังที่ใช้ฟิล์มออกมาแล้วนั้น คนที่เคยมีอาชีพรับจ้างฉายหนังจึงจำยอม และต่างก็ดิ้นรนกันไป
"คุณเคยได้ยินมั้ยที่ว่า 'หนังกลางแปลงแลกข้าว'...มันน่าเศร้าใจนะ คือ คนที่เคยมีอาชีพนี้ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะมีเครื่องฉายหนังเก่า และหนังที่ฉายก็ต้องเป็นหนังเก่า จะปรับเปลี่ยนเป็นหนังล้อมผ้า หรือหนังเร่ก็ไม่มีคนดู เจ้าภาพที่จัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ ก็ไม่มีใครมาจ้างอีก เพราะหนังมันเก่า สุดท้ายก็ต้องดิ้นรนโดยฉายหนังแลกข้าวก็เอา เพื่อความอยู่รอดนั่นแหละ"
นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นสภาพคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังรายเล็กๆ ที่ถูกกระแสเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องฉายหนังยุคดิจิทัลโหมซัดจนซวดเซ
แต่ปัญหาใหญ่ที่มากกว่านั้น ซึ่งจะทำให้อาชีพฉายหนังกลางแปลงเหลือไม่มากนัก นอกเหนือจากเครื่องฉายหนังระบบใหม่ๆ จะมีราคาแพงแแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่คนอาชีพนี้ต้องเจอ
"ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะปัจจุบันนี้มีกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ด้วย...นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คนมีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงต้องเจอ และจะเป็นปัญหาใหญ่มาก"
ทุกวันนี้คนทำธุรกิจฉายหนังกลางแปลงทั้งระดับกลางและระดับเล็กๆ ต้องแสวงหาหนทางและต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างฉายหนังย้อนยุค หรือเดินสายพ่วงไปกับวงดนตรีลูกทุ่ง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการแสวงหาความอยู่รอดทั้งสิ้น
to be continue
"หนังกลางแปลง" จอที่แปรเปลี่ยนไป จาก bangkokbiznews
หนังกลางแปลง แหล่งบันเทิงบนลานกว้าง ในกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เชี่ยวกราก วันนี้-พรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร?
"หนังกลางแปลง" เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงที่คู่เคียงกับสังคมไทยมานาน โดยเฉพาะชาวบ้านร้านตลาด และชาวชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ไม่ว่า ณ ที่ใดก็ตาม เมื่อมีการตั้งจอหนังบนลานกว้างและเปิดเพลงดังกระหึ่มในยามเย็น เสียงเพลงที่ดังกังวานนั้น เหมือนจะปลุกให้ผู้คนเกิดความคึกคักมีชีวิตชีวา ก่อนที่จะพากันออกมานั่งหาความสุขสำราญดูหนังกลางแปลงในค่ำคืนนั้น
หนังกลางแปลงสามารถจะมองในเชิงสังคมได้หลายมิติ ทั้งในแง่ของแหล่งความบันเทิงที่ไม่ต้องเสียเงิน เป็นจุดสังสรรค์นัดพบของผู้คนในชุมชน และยังสะท้อนให้เห็นฐานะและรสนิยมความบันเทิงของชุมชนนั้นๆ อีกด้วย หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพบรักของคนหนุ่มสาว หนังกลางแปลงก็มีบทบาทในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะหนุ่มสาวตามชนบท ซึ่งหนังกลางแปลงมีส่วนทำให้ดอกรักบานสะพรั่งในใจคนหนุ่มสาว จนร่วมหอลงโรงเป็นคู่ชีวิตมามากต่อมากแล้ว
ในอดีต หนังกลางแปลง มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากจะเป็นความบันเทิงที่สามารถจะเคลื่อนย้ายไปได้ทุกแห่งหนแล้ว หนังกลางแปลงยังถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกด้วย ดังจะเห็นได้ว่ามีหลายบริษัทได้ใช้หนังกลางแปลงนี่แหละ เป็นเครื่องมือสำคัญในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ทุรกันดารสักเพียงใด รถที่ถูกดัดแปลงเป็นรถฉายหนังกลางแปลงก็สามารถจะเดินทางไปถึงได้
แต่ครั้นเทคโนโลยีการฉายหนังในรูปแบบใหม่เกิดขึ้น นับตั้งแต่เครื่องฉายหนังวีดิโอเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อวงการหนังกลางแปลงทันที และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหนังกลางแปลงจะยังมีอยู่ แต่ก็ต้องปรับตัวขนานใหญ่ และเมื่อเข้าสู่ยุคหนังแผ่น หนังกลางแปลงก็เหมือนถูกกระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงโหมพัดอย่างรุนแรง จนทุกวันนี้จึงทำให้คนที่มีอาชีพเกี่ยวกับการรับจ้างฉายหนังกลางแปลง บางรายก็ต้องเลิกรา บางรายต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาความอยู่รอด เว้นเสียแต่เป็นรายใหญ่ที่มีเงินทุนหนาจริงๆ และสามารถจะซื้อหนังใหม่ๆ จากสายหนังหรือบริษัทในกรุงเทพฯ เอาไว้ทีละหลายๆ เรื่อง สำหรับนำไปฉายเป็นกลางแปลงเท่านั้น
บรรดาศูนย์รวมเกี่ยวกับการรับจ้างฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศ ทั้งระบบใหม่และระบบเก่า รวมถึงการเป็นแหล่งของชุมชนคนรักระบบเครื่องฉายภาพยนตร์ ฟิล์มภาพยนตร์ โปรเจคเตอร์ เครื่องฉายหนัง โรงหนัง หนังกลางแปลง คนฉายหนัง คนทำหนัง นักพากย์ โฮมเธียเตอร์ หนังเก่า หนังใหม่ และมียังบริการฉายหนังกลางแปลงในงานพิธี งานเทศกาลหนัง...รวมทั้งรับจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ด้วยนั้น เว็บไซต์ www.peoplecine.com ถือเป็นศูนย์รวมใหญ่ที่นอกจากจะบริการฉายหนังกลางแปลงแล้ว ยังมีเครือข่ายผู้รับจ้างฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศอีกด้วย
สำหรับ www.peoplecine.com นั้น มี แอ๊ด หรือ นิธิวิทย์ ธานินทร์สุรวุฒิ เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งคลุกคลีอยู่กับวงการนี้มาโดยตลอด และมี อนุกูล วิมูลศักดิ์ อดีตเด็กวิ่งรับ-ส่งฟิล์มหนังกลางแปลง และคนในครอบครัวแทบทุกคนล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับหนังกลางแปลง โดยปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่เป็นเว็บมาสเตอร์ของ www.peoplecine.com และติดตามความเคลื่อนไหวในวงการหนังกลางแปลงอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น คำบอกเล่าและการสะท้อนความคิดในแง่มุมเกี่ยวกับหนังกลางแปลงในยุคปัจจุบัน นอกจากจะทำให้เห็นสภาพที่กำลังเกิดขึ้นกับวงการนี้แล้ว ยังจะทำให้เห็นทิศทางในอนาคตของหนังกลางแปลง ที่นับวันจะต้องเจอกับมรสุมแห่งการเปลี่ยนอย่างเลี่ยงไม่ได้
1.ความเจ็บปวดของหนังกลางแปลง
เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้เครื่องฉายหนังแผ่นระบบต่างๆ ได้หลั่งไหลเข้ามาสู่ตลาดในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตในบ้านเรา และที่ทะลักมาจากประเทศจีน ใครๆ ก็สามารถจะซื้อมาฉายหนังดูในบ้านได้ เพราะราคาก็เพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น แน่นอนที่สุดมันจึงส่งผลกระทบกับคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงอย่างรุนแรง และไม่สามารถจะเลี่ยงได้เลย
"นี่เป็นความเจ็บปวดของคนในวงการหนังกลางแปลง เดี๋ยวนี้แทบจะทุกหลังคาเรือน ไม่ว่าจะอยู่บ้านนอกไกลแสนไกล ก็สามารถจะซื้อเครื่องฉายเครื่องเล่นซีดีได้ อีกอย่างราคาก็แสนถูก เพราะฉะนั้น ภาพความเฟื่องฟูของหนังกลางแปลงที่ผมเคยเห็นในยุคก่อน โดยบางเจ้าหรือที่ศัพท์คนหนังกลางแปลงเรียกว่า 'หน่วย' นั้น มีรถสำหรับตระเวนฉายหนังกลางแปลงกว่า 30 คันจอดเรียงรายยาวเหยียด เดี๋ยวนี้ไม่มีแบบนั้นแล้วนะ บางรายที่เล็กๆ ก็ถึงกับเปลี่ยนอาชีพไปเลย"
นั่นเป็นฉากแรกที่ แอ๊ด ได้บอกเล่าให้รับรู้ถึงสภาพหนังกลางแปลงในยุคนี้
"รายที่อยู่รอดนั้น ต้องมีเงินทุนมากๆ จึงจะอยู่ได้ เพราะสามารถจะซื้อเครื่องฉายยุคใหม่และหนังดังมาฉายได้ หรือไม่บางรายก็ต้องปรับตัว...อย่าลืมว่าทุกวันนี้หนังไม่ว่าจะเป็นหนังไทยหรือหนังต่างประเทศไม่ได้ทำหนังโดยใช้ฟิล์ม แต่ทำหนังระบบดิจิทัล เพราะฉะนั้น หนังที่ใช้ระบบฟิล์ม 35 มม. จึงเป็นแต่หนังเก่า แล้วคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงในบ้านเราส่วนมาก มีแต่เครื่องอาร์คระบบเก่าที่ใช้ฉายกับหนังฟิล์ม 35 มม. มันจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างมากสำหรับคนทำอาชีพนี้ซึ่งเป็นรายเล็กรายน้อย"
สิ่งที่แอ๊ดเปิดประเด็นต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับวงการหนังกลางแปลงก็คือ ไม่มีหน่วยงานใดๆ เลยที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลคนที่มีอาชีพนี้ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากทุกจังหวัดและในกรุงเทพฯ ซึ่งต่างจากอาชีพอื่นๆ บางอาชีพ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกเก่าแก่ และมีการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่สำหรับหนังกลางแปลงไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้เอง คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงที่มีอยู่ตามตัวจังหวัดและตามอำเภอต่างๆ จึงต้องดิ้นรนกันเอง
"คุณคิดดูก็ได้นะ ฉายหนังเก่าจะคิดราคาแพงก็ไม่ได้ ถ้าคิดราคาแพง เจ้าภาพไปจ้างหมอลำซิ่งไม่ดีกว่าเรอะ...เด้งหน้าเด้งหลัง เห็นเนื้อเห็นหนังจริงๆ ด้วย เพราะฉะนั้น หน่วยฉายหนังเล็กๆ ในระดับอำเภอและหมู่บ้าน ถ้าคิดราคาแพงก็ไม่มีใครจ้างหรอก"
นอกจากนี้แล้ว แอ๊ด ยังบอกอีกว่า คนรับจ้างฉายหนังกลางแปลงรายเล็กรายน้อยนั้น จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันกับยุคสมัยก็ลำบาก เพราะว่าจะต้องใช้เงินทุนสูง เพราะการซื้อเครื่องฉายยุคใหม่อย่างเครื่องฉายโปรเจคเตอร์นั้น ราคาเครื่องละเป็นล้าน หรือไม่บางเครื่องก็หลายล้าน จึงทำให้เจ้าของหนังกลางแปลงเล็กๆ ไม่สามารถจะซื้อหามาได้
2. หนังกลางแปลงแลกข้าว
ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคหนังแผ่น และเครื่องฉายระบบดิจิทัล จึงทำให้เครื่องฉายหนังระบบเก่า ฉายได้กับหนังที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. ซึ่งได้กลายเป็นหนังเก่า และไม่มีบริษัทหนังใดผลิตหนังที่ใช้ฟิล์มออกมาแล้วนั้น คนที่เคยมีอาชีพรับจ้างฉายหนังจึงจำยอม และต่างก็ดิ้นรนกันไป
"คุณเคยได้ยินมั้ยที่ว่า 'หนังกลางแปลงแลกข้าว'...มันน่าเศร้าใจนะ คือ คนที่เคยมีอาชีพนี้ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะมีเครื่องฉายหนังเก่า และหนังที่ฉายก็ต้องเป็นหนังเก่า จะปรับเปลี่ยนเป็นหนังล้อมผ้า หรือหนังเร่ก็ไม่มีคนดู เจ้าภาพที่จัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ ก็ไม่มีใครมาจ้างอีก เพราะหนังมันเก่า สุดท้ายก็ต้องดิ้นรนโดยฉายหนังแลกข้าวก็เอา เพื่อความอยู่รอดนั่นแหละ"
นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นสภาพคนที่มีอาชีพรับจ้างฉายหนังรายเล็กๆ ที่ถูกกระแสเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องฉายหนังยุคดิจิทัลโหมซัดจนซวดเซ
แต่ปัญหาใหญ่ที่มากกว่านั้น ซึ่งจะทำให้อาชีพฉายหนังกลางแปลงเหลือไม่มากนัก นอกเหนือจากเครื่องฉายหนังระบบใหม่ๆ จะมีราคาแพงแแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่คนอาชีพนี้ต้องเจอ
"ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งก็คือเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะปัจจุบันนี้มีกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ด้วย...นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คนมีอาชีพรับจ้างฉายหนังกลางแปลงต้องเจอ และจะเป็นปัญหาใหญ่มาก"
ทุกวันนี้คนทำธุรกิจฉายหนังกลางแปลงทั้งระดับกลางและระดับเล็กๆ ต้องแสวงหาหนทางและต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างฉายหนังย้อนยุค หรือเดินสายพ่วงไปกับวงดนตรีลูกทุ่ง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการแสวงหาความอยู่รอดทั้งสิ้น