ควรทำอย่างไรเมื่อโดนล้วงกระเป๋า ณ เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก รัสเซีย

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ  เพื่อนๆพี่ๆน้องๆลุงป้าน้าอา
     วันนี้ว่างจากการเรียนเลยมาเล่าประสบการณ์และให้คำแนะนำคนที่จะมาเที่ยวรัสเซียครับ   จากประสบการณ์การเป็นนักเรียนไทยที่นำเที่ยวตลอด 5 ปีที่ผ่านมาพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เข้ามาเที่ยวรัสเซียมากขึ้น  โดยเฉพาะแบบที่มาเองที่เรียกว่าแบคแพค หรือ มาแบบไม่ง้อทัวร์มาพึ่ง นศไทยในรัสเซีย   ซึ่งผมก็ได้เตือนทุกครั้งที่เจอหน้าลูกทัวร์ถึงเรื่องการโดนล้วงกระเป๋า แล้วก็ยังโดนกันจนได้  จนได้ชื่อว่า ใครมารัสเซียแล้วไม่โดนล้วงกระเป๋าถือว่ามาไม่ถึงรัสเซียครับ   จนผมนึกขึ้นได้ว่านี่ขนาดผมเตือนทุกเช้าที่เจอหน้าลูกทัวร์ยังโดนเลย แล้วคนที่มาเองโดยไม่พึ่งนศ ไทยในรัสเซีย จะมีใครให้ข้อมูลหรือให้คำแนะนำไหม จึงตัดสินใจเขียนเรื่องเล่าให้ฟัง  เพื่อจะได้เตรียมตัวและหาทางป้องกันครับ  แต่ผมให้คำแนะนำได้เฉพาะเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กนะครับเพราะผมเรียนอยู่ที่เมืองนี้จึงรู้ทางหนีทีไล่ได้ดีกว่ามอสโคว์ครับ
1.  การเตรียมตัวเมื่อมาถึงรัสเซีย   ผมจะแจ้งกับลูกทัวร์ประจำว่าให้ถ่ายสำเนาพาสปอร์ตติดตัวไว้เสมอครับ  ส่วนตัวจริงถ้าเป็นไปได้ก็เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางเก็บไว้ในโรงแรม  ถ้าเจอตำรวจให้เค้าตรวจสำเนาแล้วบอกว่าตัวจริงอยู่ที่โรงแรมครับ  เพราะว่าถ้าโดนล้วงกระเป๋าหายไปแล้วไม่ได้คืนจะเรื่องใหญ่ครับ
2.  จะรู้ได้อย่างไรว่าจุดไหนบ้างและมีจุดสังเกตอย่างไรบ้าง  สำหรับเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กนั้นจุดที่ลูกทัวร์ผมโดนบ่อยคือโบสถ์หยดเลือดครับ ตรงจุดนี้จะอยู่เป็นขบวนการเลยครับ เริ่มจากการเดินตามแบบเป็นเสมือนหนึ่งนักท่องเที่ยวแล้วหาโอกาสล้วง     พระราชวังฤดูหนาวหรือเฮอร์มิเทจก็มีบ้างครับ  ให้สังเกตพวกที่มาเร่ขายของแบบตามติดแบบน่ารำคาญ บางทีอาจจะเอาราคาถูกมาล่อให้เราเกิดความสนใจในราคา ในขณะที่เราเลือกซื้อก็จะมีคนมายืนข้างๆแล้วทำเป็นล้วง   อีกแบบคือพวกที่กางแผนที่ อันนี้ก็เจอบ่อยครับ  สังเกตง่ายๆแบบว่าทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวมายืนใกล้แล้วกางแผนที่  จะน่าสังเกตตรงมันจะกางแผนที่ใกล้ๆทางแยกไฟแดง  เพราะทุกคนต้องหยุดรอสัญญาณไฟ  มันจะกางแผนที่เพื่อบังมือที่กำลังจะล้วงกระเป๋าครับ  ดังนั้นเวลาเดินเล่นในเมือง ถนนสายหลักหรือที่เรียกว่าเนียฟสกี้ เวลาเจอแยกไฟเขียวไฟแดงก็ให้ระวังไว้นิดๆนะครับ   และสุดท้ายคือรถใต้ดินหรือรถเมล์ เพราะในเวลาที่มีการเบียดกัน พวกนี้จะใช้การเบียดและล้วงเอาของไปครับ  บางทียังกางแผนที่บนรถเลยครับ   ที่บอกมาทั้งหมดนี้ลูกทัวร์ผมเจอมมาหมดแล้วทุกรูปแบบครับ  แล้วก็เจอซ้ำๆ  บางครั้งผมไม่ทันได้สังเกตเพราะต้องดูแลหลายคนจึงอยากให้ทุกคนดูแลตัวเองครับ
   2.1  รถเมลล์ถ้าไม่แน่จริงอย่าขึ้นครับ...อันนี้เพิ่งเพิ่มเติมมาครับเพราะสังเกตได้ว่าบนถนนเนียฟสกี้หรือถนนหลัก  ถ้าท่านขึ้นรถเมลล์แล้วโอกาศที่จะเจอคนล้วงกระเป๋ามีเยอะมากกว่า 50 เปอร์เซนต์เลยครับ  เพราะเนื่องจากรถเมลล์เบียดเสียดคุณไม่สามารถหนีไปไหนได้เลยครับแล้วจะตะโกนบอกใครให้ช่วยก็ไม่มีใครช่วยครับ  ผมเองบางทีเห็นต่อหน้าต่อตาก็ทำอะไรไม่ได้ครับเพราะเราไม่รู้ว่าพวกนี้มีกี่คนแล้วมันจะทำร้ายเราไหม   กรุปล่าสุดที่ผมเพิ่งทำไปเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา  โจรมีวิวัฒนาการที่รุนแรงมากกว่าเดิมครับ   คือรถที่พวกเราขึ้นนั้นไม่มีคนเลยครับ ผมเห็นว่ามันปลอดภัยเพราะไม่มีคนเลยตัดสินใจให้กรุปขึ้นคันนี้ กรุปนี้แค่ 2 คนรวมผมเป็นสามคน  พอก้าวขึ้นรถเท่านั้นเองก็มีมหาชนจากไหนไม่รู้วิ่งมาเบียดอย่างรวดเร็วซึ่งทำให้รู้สึกว่ามันคือการเบียดแบบแปลกๆ เลยหันไปมองลูกทัวร์ปรากฏว่ามันผลักลูกทัวร์ไปอีกด้านของรถแล้วหาเรื่องสร้างเหตุการณ์เสมือนว่ามีปัญหาแล้วเข้าไปรุมจะทำร้ายเพียงแค่เวลา 30 -45 วินาทีที่ชุลมุนบนรถเมลล์ แล้ววิ่งออกจากรถเมลล์ปรากฏว่ากระเป๋าถูกล้วงไปแล้ว  ซึ่งผู้โดยสารท่านอื่นไม่คิดว่าคือขโมยคิดว่าคนตีกัน  หลังจากนั้นผมรีบวิ่งไปร้านโทรศัพท์มือถือเติมเงินเข้าไป 2000 รูเบิลเพื่อให้พี่เค้าโทรไประงับบัตรเครดิตซึ่งพกมากว่า 10 ใบต้องโทรไประงั้บทุกใบแต่ไม่ทันมันรูดเร็วมากหมดไปกว่า แสนบาทครับ
3.  จะทำอย่างไรเมื่อโดนล้วงกระเป๋า   จากสถิติที่โดนล้วงในเมืองนี้นั้น 80 เปอร์เซนต์มักจะได้เอกสารคืนแต่เงินไม่ได้คืน 100 เปอร์เซนต์ครับ  ถ้ารู้ตัวว่าโดนล้วงทันที คือโดนปุ๊บรู้ตัวปั๊บ แต่จับตัวไม่ได้ให้ยืนอยู่กับที่สำรวมสติ  ควรมีเบอร์ของธนาคารที่เป็นเบอร์ 02 ไว้โทรไปอายัดบัตรนะครับเพราะบางทีเรามีแต่เบอร์รหัส 4 ตัว เช่น 2199 อะไรประมาณนี้มันจะใช้โทรไม่ได้  ให้รีบโทรไปอายัดบัตรก่อน เพราะมีกรณีหายไปไม่ถึงชม โดนรูดไปกว่า 3 แสนครับ  มาต่อตรงที่ถ้ารู้ตัวให้ยืนใกล้ๆที่เกิดเหตุเดี๋ยวโจรมันจะหาวิธีคืนให้  กรณีที่ผ่านมาไม่นาน คณะอาจารย์ผมมาเที่ยว ออกจากที่พักได้ ห้านาทีรู้สึกตัวว่ามีคนมาชนคนนั้นกางแผนที่ด้วย ใช่เลยตามสัณนิฐาน  ปรากฏหายไปทั้งกระเป๋าเล็กๆ  ผมบอกว่าให้ยืนตรงนี้แหละเดี๋ยวก็มาคืน  ยืนได้สิบกว่านาที  พอเราเริ่มจะก้าวเดินออกจากจุดนั้นได้ไม่เกิน 5 ก้าวจะมีถุงพลาสติกโดนขว้างมาจากจุดใดๆไม่รู้  ตกลงที่ปลายเท้าเรา พบว่าในถุงมีเอกสารครบ ยกเว้นกระเป๋าตังกับตังค์  พาสปรอร์ต อยู่ครบ  อีกกรณี คือโจรส่งคืนให้ที่โรงแรมเพราะเราเขียนเป็นภาษารัสเซียว่า(ฉันพักอยู่ที่) я  живу в гостинице ........... ตรงช่องว่างให้เติมชื่อ โรงแรมและเบอร์โทรโรงแรม ใส่ไว้ในกระเป๋า   นี้กรณีที่โจรมันตามเราไม่เจอ (ที่ต้องเขียนเป็นภาษารัสเซียเพราะว่าโจรส่วนใหญ่จะเป็นพวกรัสเซียตอนใต้ครับ ภาษาอังกฤษไม่น่าจะได้ ดังนั้นเขียนภาษารัสเซียมันจะอ่านออกมากกว่าภาษาอังกฤษ)
มีบางกรณี ส่งไปให้กงสุลไทยในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเลยนะครับ...
มีอีกกรณีนึงก็คือโดนล้วงขณะต่อคิวเดินออกจากพิพิธภัณฑ์  พอรู้ตัวก็ตกใจเพราะว่าพาสปอร์ตก็หายไปหมด  ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้   พอเดินกลับไปที่รถปรากฏว่ามีคนวิ่งเข้ามาคืนบอกว่าไปสู้รบปรบมือกับโจรมาให้  เหลือแค่นี้เงินไม่มีละ  ก็ยังได้เอกสารคืนครับ   ในกรณีที่ไม่ได้อะไรคืนแล้วจริงๆครับเราต้องแจ้งความแล้วเอาใบแจ้งความไปเป็นเอกสารประกอบสำเนาบัตรประชาชนในการขึ้นรถไฟ  เพราะต้องไปติดต่อสถานฑูตที่มอสโคว์ครับ เวปไซด์สถานฑูต http://th.thaiembassymoscow.com/ ( รถไฟที่นี่ถ้าไม่มีพาสปอร์ต เค้าจะไม่ให้ขึ้นนะครับ เราต้องใช้ใบแจ้งความเป็นเอกสารยืนยัน)
บทสรุป...
      การที่ผมออกมาให้คำแนะนำ ไม่ใช่ต้องการจะขู่  แต่อยากให้ทราบว่าไม่ใช่เพียงแต่รัสเซียที่มีโจร  มีหลายประเทศ แม้กระทั่งประเทศไทยเอง  ผมเองยังคิดว่าประเทศไทยยังน่ากลัวกว่าเพราะนอกจากจะล้วงแล้วยังทำร้ายร่างกายบางครั้งอาจถึงชีวิต  แต่ที่นี่แค่ล้วงธรรมดาครับ   อยากให้รู้เท่าทันโจรจะได้เที่ยวอย่างสบายใจครับ   เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเป็นเมืองที่สวย  และเที่ยวเองได้ดีกว่ามอสโคว์เพราะตามถนนหนทางมีภาษาอังกฤษมากขึ้น  พนักงานตามแมกโดนัล หรือเคเอฟซี หรือ ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็มักจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ   หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่จะวางแผนมาเที่ยวรัสเซียได้เตรียมตัววางแผนให้ดีๆ จะได้เที่ยวได้คุ้มนะครับ  
ปล. การมารัสเซียถ้าอยากเที่ยวให้สนุก  ได้โปรดอย่าเปรียบเทียบเรื่องของเซอร์วิส กับรอยยิ้มนะครับ คนประเทศนี้ยิ้มยาก แต่ถ้าได้รู้จักแล้วเค้าก็เป็นคนดีเลยที่เดียวเชียว...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่