(ดูสิ เข้าแถวกันเป็นระเบียบเจงๆ)
รู้ครับว่า ศาลสั่งห้ามสลาย อันนี้ย้อนรอยว่า ทำไมตำรวจจึงไม่ใช้การปฏิบัติการเหมือนปี 53 นั่นคือให้กำลังพล เดินตามรถหุ้มเกราะเป็นโล่กำบัง ในขณะที่รถหุ้มเกราะก็ทำลายสิ่งกีดขวาง อย่างที่เราเห็นทหารทำตอนนั้น
คือไม่ควรจะใช้โล่แล้วนะครับ โดยเฉพาะโล่ที่ใช้กับการควบคุมฝูงชน
อาจจะต้องเป็นโล่ในแบบที่ตำรวจหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายใช้ น่าจะกันกระสุน สะเก็ดระเบิด
ตอนที่แยกผ่านฟ้า ตำรวจก็ไม่ได้เคลียร์พื้นที่ดาดฟ้าตึกโดยรอบก่อนว่าจะมีกองกำลังซุ่มโจมตีอยู่หรือไม่ ต้องเช็คให้แน่ใจเหมือนที่เราดูหนังกันบ่อยๆ นั่นแหละ เช็คไปทีละห้องๆ (ซึ่งทหารในปี 53 เขาก็ทำนะครับ ตึกและโรงแรมย่านราชประสงค์ ทหารเข้าไปเปิดดูทุกห้องเลยว่ามีคนแอบซ่อนตัว ซุ่มตัวอยู่หรือไม่ เช็คดาดฟ้าตึกโดยรอบก่อนที่ำกำลังพลส่วนใหญ่จะเข้าไป)
โอเค เข้าใจอยู่ว่า ตร ส่วนใหญ่ที่มา ไม่ใช่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการที่จะต่อกรกับคนร้ายที่มีอาวุธ เขาได้รับการอบรมระยะสั้นๆ มาในเรื่องการควบคุมฝูงชนที่ใช้ก้อนอิฐ ไม้ และสิ่งที่อาจจะเป็นอาวุธ แต่ไม่ใช่ระเบิดสังหาร ปืนพกสั้น ปืนยาว เอ็ม16 อาก้าหรือเอ็ม79 นะครับ แค่ระเบิดขวด ระเบิดปิงปองนี่ก็แย่
แล้ว แถมยังมีกองกำลังที่ได้รับการฝึกทางยุทธวิธี ซึ่งเหนือกว่าตร เหล่านั้นอีกปะปนกับฝูงชน แยกแยะไม่ได้ว่าใครเป็นใคร
การที่ตำรวจจัดหน่วยพลร่ม อรินทราช พร้อมพลซุ่มยิง แต่กลับให้กระจายอยู่พื้นราบ ก็ไม่สามารถทำการได้เต็มที่ อาจจะเป็นเป้าเสียด้วยซ้ำ อยู่ในที่โล่งแจ้ง
ถ้าเกิดครั้งหน้ายังมี (แต่เชื่อว่าคงไม่มี อำมาตย์เขาวางเกมเอาไว้แล้วว่าจะทำให้ตร เป็นอัมพาต ง่อยเปลี้ยเสียขา ในขณะที่ กปปส จะฉีดยาบำรุงกำลังให้เต็มที่)
ถ้าครั้งหน้ามี จัดเต็ม เฮลิคอปเตอร์ หน่วยจู่โจม รถหุ้มเกราะ ฯลฯ ต้องจัดการพวกการ์ดติดอาวุธให้ได้ก่อน ถ้าจับแกนนำได้ต้องรีบนำออกจากพื้นที่ทันที ไม่ต้องให้นั่งกิน starbuck รอชายนิรนามมาช่วยนะครับ
แกนนำโดนจับก็ได้ผลทางจิตวิทยา แต่จับมาแล้วโดนปล่อยได้นี่สิ เสียหมานะ
หน่วย ตร น่าจะใช้รถหุ้มเกราะป้องกันการระดมยิงตอนเข้าสลายการชุมนุม
(ดูสิ เข้าแถวกันเป็นระเบียบเจงๆ)
รู้ครับว่า ศาลสั่งห้ามสลาย อันนี้ย้อนรอยว่า ทำไมตำรวจจึงไม่ใช้การปฏิบัติการเหมือนปี 53 นั่นคือให้กำลังพล เดินตามรถหุ้มเกราะเป็นโล่กำบัง ในขณะที่รถหุ้มเกราะก็ทำลายสิ่งกีดขวาง อย่างที่เราเห็นทหารทำตอนนั้น
คือไม่ควรจะใช้โล่แล้วนะครับ โดยเฉพาะโล่ที่ใช้กับการควบคุมฝูงชน
อาจจะต้องเป็นโล่ในแบบที่ตำรวจหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายใช้ น่าจะกันกระสุน สะเก็ดระเบิด
ตอนที่แยกผ่านฟ้า ตำรวจก็ไม่ได้เคลียร์พื้นที่ดาดฟ้าตึกโดยรอบก่อนว่าจะมีกองกำลังซุ่มโจมตีอยู่หรือไม่ ต้องเช็คให้แน่ใจเหมือนที่เราดูหนังกันบ่อยๆ นั่นแหละ เช็คไปทีละห้องๆ (ซึ่งทหารในปี 53 เขาก็ทำนะครับ ตึกและโรงแรมย่านราชประสงค์ ทหารเข้าไปเปิดดูทุกห้องเลยว่ามีคนแอบซ่อนตัว ซุ่มตัวอยู่หรือไม่ เช็คดาดฟ้าตึกโดยรอบก่อนที่ำกำลังพลส่วนใหญ่จะเข้าไป)
โอเค เข้าใจอยู่ว่า ตร ส่วนใหญ่ที่มา ไม่ใช่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการที่จะต่อกรกับคนร้ายที่มีอาวุธ เขาได้รับการอบรมระยะสั้นๆ มาในเรื่องการควบคุมฝูงชนที่ใช้ก้อนอิฐ ไม้ และสิ่งที่อาจจะเป็นอาวุธ แต่ไม่ใช่ระเบิดสังหาร ปืนพกสั้น ปืนยาว เอ็ม16 อาก้าหรือเอ็ม79 นะครับ แค่ระเบิดขวด ระเบิดปิงปองนี่ก็แย่
แล้ว แถมยังมีกองกำลังที่ได้รับการฝึกทางยุทธวิธี ซึ่งเหนือกว่าตร เหล่านั้นอีกปะปนกับฝูงชน แยกแยะไม่ได้ว่าใครเป็นใคร
การที่ตำรวจจัดหน่วยพลร่ม อรินทราช พร้อมพลซุ่มยิง แต่กลับให้กระจายอยู่พื้นราบ ก็ไม่สามารถทำการได้เต็มที่ อาจจะเป็นเป้าเสียด้วยซ้ำ อยู่ในที่โล่งแจ้ง
ถ้าเกิดครั้งหน้ายังมี (แต่เชื่อว่าคงไม่มี อำมาตย์เขาวางเกมเอาไว้แล้วว่าจะทำให้ตร เป็นอัมพาต ง่อยเปลี้ยเสียขา ในขณะที่ กปปส จะฉีดยาบำรุงกำลังให้เต็มที่)
ถ้าครั้งหน้ามี จัดเต็ม เฮลิคอปเตอร์ หน่วยจู่โจม รถหุ้มเกราะ ฯลฯ ต้องจัดการพวกการ์ดติดอาวุธให้ได้ก่อน ถ้าจับแกนนำได้ต้องรีบนำออกจากพื้นที่ทันที ไม่ต้องให้นั่งกิน starbuck รอชายนิรนามมาช่วยนะครับ
แกนนำโดนจับก็ได้ผลทางจิตวิทยา แต่จับมาแล้วโดนปล่อยได้นี่สิ เสียหมานะ