มีคำที่คนไทยใช้ด่ากันมากมายเหลือเกิน สามารถสรรหาถ้อยคำมาด่ากันได้ตลอด
หรือเวลามีกระทู้ด่ากัน จะมีคนให้ความสนใจในการเข้ามามีส่วนร่วมมาก
แสดงว่าคนไทยมักมีนิสัยที่อิจฉาผู้อื่น และไม่ชอบส่งเสริมผู้อื่นถ้าเขาทำดีกว่าตนเอง
แล้วถ้ายังเป็นอย่างนี้กันอยู่เมืองไทยจะก้าวหน้าไปไหนได้
และไม่ได้เป็นเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น เด็กๆ ที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมของผู้ใหญ่ที่เป็นแบบนี้ ก็จะซึมซับนิสัยเหล่านี้ไปด้วย
ตอนนี้กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ facebook อยู่
มีแนวโน้มว่า facebook เป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดการขัดแย้งทางความคิด (อันนี้ขอเก็บข้อมูลเพิ่มอีกหน่อยเพื่อจะดูว่ามีนัยสำคัญขนาดไหน)
เพราะ facebook มักมีการ share ข่าวสารกันง่าย และเวลา comment จะเกิดอุปทานกันง่าย เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการโต้แย้ง
ยิ่งถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการสื่อสารในทางใดทางหนึ่งในแง่เดียว ก็จะสามารถ block comment ของผู้ที่แสดงความเห็นแย้งได้
เลยกลายเป็นว่า ทุกคนที่เข้ามาอ่านใน กระทู้นั้นๆ จะได้รับรู้ข้อมูลที่มีแนวคิดที่คล้อยตามกันเท่านั้น
ฉะนั้นจึงควรไตร่ตรองให้ดีทุกครั้งที่จะเชื่อข่าวสารข้อมูลที่เห็นจากสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อที่มีการแสดงความคิดเห็นประกอบ
เพราะถ้าสื่อนั้นๆ สามารถมีการแสดงความคิดเห็นประกอบได้ทุกด้านก็จะปลอดภัยขึ้นสำหรับการบริโภคข้อมูลนั้น
แต่ถ้าสื่อนั้นมีแนวโน้มในการปิดกั้นความคิดอีกด้านอันนี้ต้องความระวังอย่างยิ่ง
ซึ่งข่าวสารที่จะมีคนชอบ share กันอยู่ในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลด้านการเมือง
เลยกลายเป็นว่า facebook ซึ่งมีเยาวชนใช้กันมากอยู่ในขณะนี้ ได้พบเห็นข้อมูลเหล่านี้มากขึ้น
ซึ่งถ้าข้อมูลเป็นในเชิงสร้างสรรค์ก็จะไม่มีปัญหาใด
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลในเชิงเกลียดชัง และยิ่งมีการ comment ในเชิงเกลียดชังสนับสนุนเพิ่มขึ้นไป
ก็จะทำให้เยาวชนเหล่านั้นถูกปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ไม่ดี
ฉะนั้นผู้ปกครองควรให้คำแนะนำเยาวชน และไม่ควรส่งเสริมให้เยาวชนชื่นชอบความเกลียดชัง
และไม่ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเสียเอง
คนไทยชอบด่าคนอื่นมากกว่าชมคนอื่นจริงหรือไม่?
หรือเวลามีกระทู้ด่ากัน จะมีคนให้ความสนใจในการเข้ามามีส่วนร่วมมาก
แสดงว่าคนไทยมักมีนิสัยที่อิจฉาผู้อื่น และไม่ชอบส่งเสริมผู้อื่นถ้าเขาทำดีกว่าตนเอง
แล้วถ้ายังเป็นอย่างนี้กันอยู่เมืองไทยจะก้าวหน้าไปไหนได้
และไม่ได้เป็นเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น เด็กๆ ที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมของผู้ใหญ่ที่เป็นแบบนี้ ก็จะซึมซับนิสัยเหล่านี้ไปด้วย
ตอนนี้กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ facebook อยู่
มีแนวโน้มว่า facebook เป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดการขัดแย้งทางความคิด (อันนี้ขอเก็บข้อมูลเพิ่มอีกหน่อยเพื่อจะดูว่ามีนัยสำคัญขนาดไหน)
เพราะ facebook มักมีการ share ข่าวสารกันง่าย และเวลา comment จะเกิดอุปทานกันง่าย เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการโต้แย้ง
ยิ่งถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการสื่อสารในทางใดทางหนึ่งในแง่เดียว ก็จะสามารถ block comment ของผู้ที่แสดงความเห็นแย้งได้
เลยกลายเป็นว่า ทุกคนที่เข้ามาอ่านใน กระทู้นั้นๆ จะได้รับรู้ข้อมูลที่มีแนวคิดที่คล้อยตามกันเท่านั้น
ฉะนั้นจึงควรไตร่ตรองให้ดีทุกครั้งที่จะเชื่อข่าวสารข้อมูลที่เห็นจากสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อที่มีการแสดงความคิดเห็นประกอบ
เพราะถ้าสื่อนั้นๆ สามารถมีการแสดงความคิดเห็นประกอบได้ทุกด้านก็จะปลอดภัยขึ้นสำหรับการบริโภคข้อมูลนั้น
แต่ถ้าสื่อนั้นมีแนวโน้มในการปิดกั้นความคิดอีกด้านอันนี้ต้องความระวังอย่างยิ่ง
ซึ่งข่าวสารที่จะมีคนชอบ share กันอยู่ในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลด้านการเมือง
เลยกลายเป็นว่า facebook ซึ่งมีเยาวชนใช้กันมากอยู่ในขณะนี้ ได้พบเห็นข้อมูลเหล่านี้มากขึ้น
ซึ่งถ้าข้อมูลเป็นในเชิงสร้างสรรค์ก็จะไม่มีปัญหาใด
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลในเชิงเกลียดชัง และยิ่งมีการ comment ในเชิงเกลียดชังสนับสนุนเพิ่มขึ้นไป
ก็จะทำให้เยาวชนเหล่านั้นถูกปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ไม่ดี
ฉะนั้นผู้ปกครองควรให้คำแนะนำเยาวชน และไม่ควรส่งเสริมให้เยาวชนชื่นชอบความเกลียดชัง
และไม่ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเสียเอง