http://www.thairath.co.th/content/tech/379620
edit
กลั่นแกล้ง รุมประชาทัณฑ์ บิดเบือนข้อมูล และ คำพิพากษา
บนโลกออนไลน์...เราเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น แต่อย่างนึงที่ซี ไม่อยากให้คุณหลาย ๆ คนเป็นเสมือน “ผู้พิพากษา” บนโลกอินเทอร์เน็ต
ถ้าคุณไม่มีความยุติธรรม ถ้าคุณไม่มีข้อเท็จจริง คุณไม่มีสิทธิ์ ในการ “ตัดสินความถูกผิด” ในชีวิตของใครทั้งสิ้น
สังคมบนจอสมัยนี้ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่การชกต่อย แต่เป็น “การรุมทำร้ายด้วยการประณาม...บนออนไลน์”
ซีเคยร่วมสัมมนาของสื่อหลายแขนงในปีที่ผ่านมา ว่าด้วย “วิจารณญานของคนสมัยนี้ กับการรับข่าวสาร อันไหนจะเชื่อดีไม่ดี” เพราะข้อมูลที่เกิด มีจริง มีมั่วบ้าง ปะปนกันไป การรับรู้ข่าวสารมาผิด ๆ นั้น….ร้ายแรงไม่เท่ากับ การตัดสินใจจะทำอะไรต่อ...หลังจากรับทราบข่าวนั้นมา เพราะนี่เรียกว่า “ผลกระทบ” ที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง
ตอนนี้เรามีสังคมของความเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย รวมทั้งบอกต่อไปเรื่อย ๆ ได้
ที่น่าตกใจคือ มีจำนวนไม่มากที่จะตรวจสอบก่อน “บอกต่อ”
...เรากำลังสร้างสังคมแห่งความเกลียดชัง...สังคมที่เราเป็นผู้ตัดสินโดยไม่ตรวจสอบว่าใครผิดใครถูก และ เราหลายคน กำลังทำตัวเป็นเสมือนผู้พิพากษา...
ข่าวบางข่าวทำให้เราเกลียดชัง...เหยื่อ จนขุดชื่อที่อยู่ ประวัติส่วนตัว สิ่งที่เขาเคยทำในอดีตมาประจาน ให้คนอื่นรุมด่าอย่างสนุกปาก แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เสี่ยงต่อการผิด พ.ร.บ.คอมพิเตอร์และกฎหมายหมิ่นประมาท และนั่นทำให้ประเมินได้ว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องศีลธรรม…
ที่ซีอยากออกมาเตือนสติ
จากความรุนแรง...ในต่างประเทศ มีเคสรุมด่าบนโลกออนไลน์จนต้องฆ่าตัวตาย ด.ญ.รีเบคก้า อายุ 12 ปี ถูกเพื่อน 15 คนแกล้ง ส่งคำด่ามา ไม่หยุดหย่อน จนเธอสิ้นหวัง หดหู่ ไม่อยากมีชีวิต และฆ่าตัวตายในที่สุด
หรือ กรณี...นางแบบเยอรมันอายุ 32 ปี ถูกรุมด่าบนเว็บไซต์ หลังออกทีวี เพียงเพราะเล่นกล้องมากเกินไปจนคนดูหมั่นไส้...ทนต่อคอมเมนต์รุนแรง...ไม่ไหว กดดันและ ฆ่าตัวตาย
ในประเทศไทย ก็เช่นกัน หลายครั้งที่ กลุ่มนักเลงคีย์บอร์ด ออกมาตัดสินความถูกผิด... รุมคอมเมนต์รุนแรงแบบไม่เปิดโอกาสรับฟังข้อเท็จจริงและเลือกเชื่อ เลือกประณาม โดยไม่คำนึงถึง ทางออกของคน ๆนั้นแม้แต่น้อย เริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ ที่บานปลายเป็นโศกนาฎกรรม ในชีวิตของคน ๆ นึง หรือ อาจจะหลายคน
คงยังไม่สาย ลองเริ่มต้นกันใหม่...
สิ่งสำคัญในยุคไอทีตอนนี้...คือเราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพลเมืองไอทีที่คอมเมนต์ได้ ติได้แต่เป็นไปเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีกว่าเดิม ว่ากันไปตามความถูกต้องเหมาะสม เพราะเรากำลังจะสร้างตัวอย่างกับคนรุ่นต่อไปว่า เราจะเป็นพลเมืองออนไลน์ที่ไม่เป็นมลพิษได้อย่างไร
คอลัมน์เล็กๆ ผู้พิพากษาไซเบอร์
edit
กลั่นแกล้ง รุมประชาทัณฑ์ บิดเบือนข้อมูล และ คำพิพากษา
บนโลกออนไลน์...เราเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น แต่อย่างนึงที่ซี ไม่อยากให้คุณหลาย ๆ คนเป็นเสมือน “ผู้พิพากษา” บนโลกอินเทอร์เน็ต
ถ้าคุณไม่มีความยุติธรรม ถ้าคุณไม่มีข้อเท็จจริง คุณไม่มีสิทธิ์ ในการ “ตัดสินความถูกผิด” ในชีวิตของใครทั้งสิ้น
สังคมบนจอสมัยนี้ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่การชกต่อย แต่เป็น “การรุมทำร้ายด้วยการประณาม...บนออนไลน์”
ซีเคยร่วมสัมมนาของสื่อหลายแขนงในปีที่ผ่านมา ว่าด้วย “วิจารณญานของคนสมัยนี้ กับการรับข่าวสาร อันไหนจะเชื่อดีไม่ดี” เพราะข้อมูลที่เกิด มีจริง มีมั่วบ้าง ปะปนกันไป การรับรู้ข่าวสารมาผิด ๆ นั้น….ร้ายแรงไม่เท่ากับ การตัดสินใจจะทำอะไรต่อ...หลังจากรับทราบข่าวนั้นมา เพราะนี่เรียกว่า “ผลกระทบ” ที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง
ตอนนี้เรามีสังคมของความเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย รวมทั้งบอกต่อไปเรื่อย ๆ ได้
ที่น่าตกใจคือ มีจำนวนไม่มากที่จะตรวจสอบก่อน “บอกต่อ”
...เรากำลังสร้างสังคมแห่งความเกลียดชัง...สังคมที่เราเป็นผู้ตัดสินโดยไม่ตรวจสอบว่าใครผิดใครถูก และ เราหลายคน กำลังทำตัวเป็นเสมือนผู้พิพากษา...
ข่าวบางข่าวทำให้เราเกลียดชัง...เหยื่อ จนขุดชื่อที่อยู่ ประวัติส่วนตัว สิ่งที่เขาเคยทำในอดีตมาประจาน ให้คนอื่นรุมด่าอย่างสนุกปาก แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เสี่ยงต่อการผิด พ.ร.บ.คอมพิเตอร์และกฎหมายหมิ่นประมาท และนั่นทำให้ประเมินได้ว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องศีลธรรม…
ที่ซีอยากออกมาเตือนสติ
จากความรุนแรง...ในต่างประเทศ มีเคสรุมด่าบนโลกออนไลน์จนต้องฆ่าตัวตาย ด.ญ.รีเบคก้า อายุ 12 ปี ถูกเพื่อน 15 คนแกล้ง ส่งคำด่ามา ไม่หยุดหย่อน จนเธอสิ้นหวัง หดหู่ ไม่อยากมีชีวิต และฆ่าตัวตายในที่สุด
หรือ กรณี...นางแบบเยอรมันอายุ 32 ปี ถูกรุมด่าบนเว็บไซต์ หลังออกทีวี เพียงเพราะเล่นกล้องมากเกินไปจนคนดูหมั่นไส้...ทนต่อคอมเมนต์รุนแรง...ไม่ไหว กดดันและ ฆ่าตัวตาย
ในประเทศไทย ก็เช่นกัน หลายครั้งที่ กลุ่มนักเลงคีย์บอร์ด ออกมาตัดสินความถูกผิด... รุมคอมเมนต์รุนแรงแบบไม่เปิดโอกาสรับฟังข้อเท็จจริงและเลือกเชื่อ เลือกประณาม โดยไม่คำนึงถึง ทางออกของคน ๆนั้นแม้แต่น้อย เริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ ที่บานปลายเป็นโศกนาฎกรรม ในชีวิตของคน ๆ นึง หรือ อาจจะหลายคน
คงยังไม่สาย ลองเริ่มต้นกันใหม่...
สิ่งสำคัญในยุคไอทีตอนนี้...คือเราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพลเมืองไอทีที่คอมเมนต์ได้ ติได้แต่เป็นไปเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีกว่าเดิม ว่ากันไปตามความถูกต้องเหมาะสม เพราะเรากำลังจะสร้างตัวอย่างกับคนรุ่นต่อไปว่า เราจะเป็นพลเมืองออนไลน์ที่ไม่เป็นมลพิษได้อย่างไร