เขียนจากประสบการณ์นะครับ ทั้งเคยเป็นคนขาย ทั้งเป็นคนใช้เอง และควบคุมดูแลให้ บริษัทฯ
ขาดตกตรงไหน แนะนำได้ ว่างๆนึกขึ้นได้เลยเขียนให้อ่านกัน
ผมจะอธิบายแบบ ไม่ลึกซึ้ง แต่เข้าใจง่ายนะครับ
ภาพประกอบทุกภาพมาจาก อินเตอร์เนท จะพยายามหารูปที่มียี่ห้อสินค้าน้อยที่สุดนะครับ
(ไม่พูดถึงตามมือถือด้วยแอพนะครับประสบการณ์ผมน้อย และหลายๆท่านมีความรู้เรื่องนี้กันแล้ว)
ก่อนอื่น มารู้จักระบบ ติดตามตัว หรือติดตามสิ่งของ
ไม่แบ่งเป็นประเภทนะครับ แบ่งเป็นตามการใช้งาน ก่อน
1. ระบบติดตามสิ่งของ
1.1 รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องจักรหนัก รถทัวร์ จักรยาน
ระบบติดตาม ยานพาหนะ มีระบบเกือบเหมือนกันทั้งหมด ครับ
เริ่มจาก ติดตั้ง GPS RECEIVER TRACKING ไปที่ รถที่เราต้องการตาม จากนั้นให้มี กระแสไฟหรือแบตเตอรี่(ในกรณีไม่ให้รู้ว่าตาม) ตลอดเวลา
ระบบจะทำการ แจ้งตำแหน่ง ปัจจุบัน ที่ได้จากดาวเทียม GPS ไปยัง ภาครับ ผ่านระบบ CELLULAR (GPRS) หรือ WIFI แต่บ้านเรายังเป็น CELLULAR หรือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์นั่นเอง ในตัว GPS RECEIVER TRACKING จะมี ที่ใส่ซิม เอาไว้ส่งสัญญาณไปยัง เครื่องรับ หรือโครงข่าย
ทำไมต้องใส่ซิม ?
เพราะการแจ้งผ่านระบบ CELLULAR มีความครอบคลุมมากที่สุดใน ขณะนั้น (ขณะนี้ด้วย)
โดยการส่งตำแหน่ง มีแบบ REAL TIME หรือ ส่งตามระยะเวลา
แบบ REAL TIME จะละเอียด ระดับ POINT to POINT จนเป็นเส้น WAYPOINT ที่ ละเอียด รู้แม้กระทั่ง ขับรถเลยทางเลี้ยว จนต้องกลับรถ
แต่แบบ REAL TIME จะมีค่าใช้จ่ายจากค่าส่งสัญญาณ (ค่าโทรศัพท์ค่าเนทนั่นละ) อันนี้แล้วแต่โปรของแต่ละค่าย
ส่วนในการใช้ มี 2 ระบบดับ แยกเป็นระดับ องค์กร คือ รถบัส รถส่งสินค้า ทางบริษัท จะเข้าเวบที่ บริษัท TRACKING ให้บริการ
จะติดตามรถกี่คันก็ได้ สามารถเรียกดูพร้อมๆกัน เพื่อบริหารจัดการรถขนส่ง และป้องกัน รถวิ่งนอกเส้นทาง (รับงานนอก) ได้อีกด้วย
อีกระบบ ขอเรียกว่า ระดับ USER คือ ใช้กันเอง เช่น พ่อติดไว้ในรถลูกสาว ป้องกันอันตราย หรือ ภรรยาเป็นห่วงสามี ใส่ไว้ในรถ และมักเช็คตำแหน่งหลังจาก โทรไปอ้างอิงแล้วว่าสามี "อยู่ไหน ?" (เรื่องจริงนะครับ ลูกค้ารายแรกๆตอนผมเป็นเซลล์ขาย เขาถามเลย)
ระบบนี้ก็คล้ายๆ กับแบบองค์กร แต่มักจะส่งตำแหน่งตามเวลา เช่น ทุก 1 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง แล้วแต่จะจ่ายค่าบริการไหว
โดยปกติ แจ้งถี่ที่สุดคือ ทุก 15 นาที
คำถาม ?
มีโอกาสที่ระบบจะส่งพิกัดผิดหรือไม่ ?
จากประสบการณ์คือมีครับ แต่ให้อ้างอิงครั้งต่อไปในการส่งก่อน มักพบในรุ่นจีนแดง ถ้าส่งพิกัดมา แบบคนละประเทศเลย คือ GPS มีปัญหาแน่นอนครับ
ถึงเวลาแจ้งตำแหน่ง ทำไมตำแหน่งไม่มา ?
เป็นไปได้หลายอย่างครับ ทั้ง ลงไปใต้ดินเช่นลานจอดรถ ซึ่งอับสัญญาณมือถือ หรือ ออกนอกเขต จนไม่มีสัญญาณ
หรือมีสัญญาณ แต่อยู่ในอุโมงค์ หรือมีอะไรบังตลอดเวลาทำให้ GPS ไม่สามารถอ้างอิงตำแหน่งปัจจุบันได้
ถ้าแบบ REALTIME ทันทีที่มีสัญญาณ มันจะทำการส่งพิกัดทันทีครับ และ ซอร์ฟแวร์ ของแต่ละ ยี่ห้อ จะเอามาประมวลและลากเส้นให้เอง
เช่น วิ่งอยู่บนบางนา พิกัดหายไปสักพัก รถไปโผล่บางบ่อ มันก็จะลากเส้น TRACK บนถนนจากจุดที่หายไป ไปถึงจุดปัจจุบันให้อัตโนมัติครับ (แล้วแต่ยี่ห้อ )
ในส่วนป้องกันรถหาย หรือติดตามรถที่ถูกจี้ หรือโจรกรรม
เรามาดูวิธีที่โจรใช้กันครับ
- วิธีแรก เบสิคที่สุดครับ หาให้เจอ ถอดปลั๊กโยนมันทิ้ง
วิธีนี้ คลาสสิคที่สุดและ ได้ผลอย่างร้ายกาจ
เพราะในอดีต เคยมีคนขโมยรถ ตัดสายที่ต่อจากแบตในรถทิ้งแต่ไม่โยนออกไปนอกรถ แล้วระบบของยี่ห้อนั้นดันมีแบตสำรอง
เลยถูกตามได้ในที่สุด (แบตหมดก่อนจับได้ แต่จากตำแหน่งทำให้ สกัดจับได้ภายหลัง)
ซึ่งในระดับองค์กร บางยี่ห้อมีระบบ ถ้าขาดไฟเลี้ยงมันจะแจ้งเตือนเลยว่า อยู่ในภาวะไม่ปกติ ทางบริษัททราบก็จะโทรเช็คกับคนขับได้
แต่ในระดับ USER นั้น เราจะรีเฟรชหน้าเพจติตามแล้วไม่เจอตำแหน่งครับ
- วิธีที่ 2
ใช้ GPS BLOCKER หรือ อุปกรณ์กวนสัญญาณ มือถือ
โดยผมจะไม่เขียนวิธี หรือวิชาที่รู้ แต่ วิธีนี้ไม่ค่อยนิยม อยู่แล้ว (วิธีแรกคลาสสิคสุด) และมีข้อจำกัดในการใช้ ที่ ถ้าโจรบื้อ ซื้อมาแล้วแค่เปิด คิดว่าใช้ได้
คิดผิดถนัดครับ มันมีวิธีของมันอยู่
-วิธีที่ 3
ขโมยแบบยกไปทั้งคัน เข้ากล่อง เช่นตู้คอนเทนเนอร์ที่ทึบมากพอ GPS จะหาสัญญาณไม่ได้ และสัญญาณมือถือจะถูกส่งออกไปลำบากหรือไม่ได้
ส่วนมากที่พบ คือ 3 วิธีนี้ครับ
วิธีการป้องกัน ที่ดีที่สุด คือ ติดตั้งในจุดที่หาเจอยากที่สุดครับ
ในรถ
ซ่อนสายไฟและกล่องให้ดีที่สุด ไม่ให้รื้อแล้วเจอโดนง่าย
อย่าติดตั้งแบบในภาพนะครับ โจรยิ้มเลย ถอดแค่สายโยนทิ้ง (ถ้ามีระบบตัดน้ำมัน หรือแจ้งเตือนก็ว่าไปอย่าง บางบริษัทมีให้บริการครับ เป็นบริการเสริม)
ในมอเตอร์ไซค์
ที่ซ่อนน้อยแต่อาจดัดแปลงให้อยู่ใต้เบาะ ได้ เพราะโจรมักจะใช้กุญแจผี หรือต่อตรง และยกทั้งคันใส่กระบะ
ดังนั้น ในเบาะจึงปลอดภัยที่สุดเท่าที่ผมคิดได้ครับ
จักรยาน
เนื่องจากที่ซ่อนน้อยที่สุดในกระบวนพาหนะ
ควรใช้ผ้าที่มีแมจิคเทป หรือจะเย็บคลุมเลยก็ได้ แล้วคลุมไว้ โจรจะได้ไม่สังเกตุว่าอะไร
หรือใส่กระเป๋าห้อยจักรยานแล้วล๊อคซิปไม่ให้เปิดไว้ จะพอช่วยประวิงเวลาได้
ที่ดีที่สุดคือซ่อนในเฟรมครับ เพราะคนร้ายไม่มีเวลามานั่งแงะตรวจดูตอนจะขโมยแน่
ตรงนี้ทำให้เรามีเวลาในการติดตามครับ
จบบทที่ 1 การติดตาม ยานพาหนะ บทต่อไป มาตามสัตว์เลี้ยง ทั้ง หมา แมว ม้า วัว กันครับ
สาระความรู้เกี่ยวกับ การติดตามยานพาหนะ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน หมา แมว ม้า วัว และ คน ที่คุณควรรู้ !
ขาดตกตรงไหน แนะนำได้ ว่างๆนึกขึ้นได้เลยเขียนให้อ่านกัน
ผมจะอธิบายแบบ ไม่ลึกซึ้ง แต่เข้าใจง่ายนะครับ
ภาพประกอบทุกภาพมาจาก อินเตอร์เนท จะพยายามหารูปที่มียี่ห้อสินค้าน้อยที่สุดนะครับ
(ไม่พูดถึงตามมือถือด้วยแอพนะครับประสบการณ์ผมน้อย และหลายๆท่านมีความรู้เรื่องนี้กันแล้ว)
ก่อนอื่น มารู้จักระบบ ติดตามตัว หรือติดตามสิ่งของ
ไม่แบ่งเป็นประเภทนะครับ แบ่งเป็นตามการใช้งาน ก่อน
1. ระบบติดตามสิ่งของ
1.1 รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องจักรหนัก รถทัวร์ จักรยาน
ระบบติดตาม ยานพาหนะ มีระบบเกือบเหมือนกันทั้งหมด ครับ
เริ่มจาก ติดตั้ง GPS RECEIVER TRACKING ไปที่ รถที่เราต้องการตาม จากนั้นให้มี กระแสไฟหรือแบตเตอรี่(ในกรณีไม่ให้รู้ว่าตาม) ตลอดเวลา
ระบบจะทำการ แจ้งตำแหน่ง ปัจจุบัน ที่ได้จากดาวเทียม GPS ไปยัง ภาครับ ผ่านระบบ CELLULAR (GPRS) หรือ WIFI แต่บ้านเรายังเป็น CELLULAR หรือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์นั่นเอง ในตัว GPS RECEIVER TRACKING จะมี ที่ใส่ซิม เอาไว้ส่งสัญญาณไปยัง เครื่องรับ หรือโครงข่าย
ทำไมต้องใส่ซิม ?
เพราะการแจ้งผ่านระบบ CELLULAR มีความครอบคลุมมากที่สุดใน ขณะนั้น (ขณะนี้ด้วย)
โดยการส่งตำแหน่ง มีแบบ REAL TIME หรือ ส่งตามระยะเวลา
แบบ REAL TIME จะละเอียด ระดับ POINT to POINT จนเป็นเส้น WAYPOINT ที่ ละเอียด รู้แม้กระทั่ง ขับรถเลยทางเลี้ยว จนต้องกลับรถ
แต่แบบ REAL TIME จะมีค่าใช้จ่ายจากค่าส่งสัญญาณ (ค่าโทรศัพท์ค่าเนทนั่นละ) อันนี้แล้วแต่โปรของแต่ละค่าย
ส่วนในการใช้ มี 2 ระบบดับ แยกเป็นระดับ องค์กร คือ รถบัส รถส่งสินค้า ทางบริษัท จะเข้าเวบที่ บริษัท TRACKING ให้บริการ
จะติดตามรถกี่คันก็ได้ สามารถเรียกดูพร้อมๆกัน เพื่อบริหารจัดการรถขนส่ง และป้องกัน รถวิ่งนอกเส้นทาง (รับงานนอก) ได้อีกด้วย
อีกระบบ ขอเรียกว่า ระดับ USER คือ ใช้กันเอง เช่น พ่อติดไว้ในรถลูกสาว ป้องกันอันตราย หรือ ภรรยาเป็นห่วงสามี ใส่ไว้ในรถ และมักเช็คตำแหน่งหลังจาก โทรไปอ้างอิงแล้วว่าสามี "อยู่ไหน ?" (เรื่องจริงนะครับ ลูกค้ารายแรกๆตอนผมเป็นเซลล์ขาย เขาถามเลย)
ระบบนี้ก็คล้ายๆ กับแบบองค์กร แต่มักจะส่งตำแหน่งตามเวลา เช่น ทุก 1 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง แล้วแต่จะจ่ายค่าบริการไหว
โดยปกติ แจ้งถี่ที่สุดคือ ทุก 15 นาที
คำถาม ?
มีโอกาสที่ระบบจะส่งพิกัดผิดหรือไม่ ?
จากประสบการณ์คือมีครับ แต่ให้อ้างอิงครั้งต่อไปในการส่งก่อน มักพบในรุ่นจีนแดง ถ้าส่งพิกัดมา แบบคนละประเทศเลย คือ GPS มีปัญหาแน่นอนครับ
ถึงเวลาแจ้งตำแหน่ง ทำไมตำแหน่งไม่มา ?
เป็นไปได้หลายอย่างครับ ทั้ง ลงไปใต้ดินเช่นลานจอดรถ ซึ่งอับสัญญาณมือถือ หรือ ออกนอกเขต จนไม่มีสัญญาณ
หรือมีสัญญาณ แต่อยู่ในอุโมงค์ หรือมีอะไรบังตลอดเวลาทำให้ GPS ไม่สามารถอ้างอิงตำแหน่งปัจจุบันได้
ถ้าแบบ REALTIME ทันทีที่มีสัญญาณ มันจะทำการส่งพิกัดทันทีครับ และ ซอร์ฟแวร์ ของแต่ละ ยี่ห้อ จะเอามาประมวลและลากเส้นให้เอง
เช่น วิ่งอยู่บนบางนา พิกัดหายไปสักพัก รถไปโผล่บางบ่อ มันก็จะลากเส้น TRACK บนถนนจากจุดที่หายไป ไปถึงจุดปัจจุบันให้อัตโนมัติครับ (แล้วแต่ยี่ห้อ )
ในส่วนป้องกันรถหาย หรือติดตามรถที่ถูกจี้ หรือโจรกรรม
เรามาดูวิธีที่โจรใช้กันครับ
- วิธีแรก เบสิคที่สุดครับ หาให้เจอ ถอดปลั๊กโยนมันทิ้ง
วิธีนี้ คลาสสิคที่สุดและ ได้ผลอย่างร้ายกาจ
เพราะในอดีต เคยมีคนขโมยรถ ตัดสายที่ต่อจากแบตในรถทิ้งแต่ไม่โยนออกไปนอกรถ แล้วระบบของยี่ห้อนั้นดันมีแบตสำรอง
เลยถูกตามได้ในที่สุด (แบตหมดก่อนจับได้ แต่จากตำแหน่งทำให้ สกัดจับได้ภายหลัง)
ซึ่งในระดับองค์กร บางยี่ห้อมีระบบ ถ้าขาดไฟเลี้ยงมันจะแจ้งเตือนเลยว่า อยู่ในภาวะไม่ปกติ ทางบริษัททราบก็จะโทรเช็คกับคนขับได้
แต่ในระดับ USER นั้น เราจะรีเฟรชหน้าเพจติตามแล้วไม่เจอตำแหน่งครับ
- วิธีที่ 2
ใช้ GPS BLOCKER หรือ อุปกรณ์กวนสัญญาณ มือถือ
โดยผมจะไม่เขียนวิธี หรือวิชาที่รู้ แต่ วิธีนี้ไม่ค่อยนิยม อยู่แล้ว (วิธีแรกคลาสสิคสุด) และมีข้อจำกัดในการใช้ ที่ ถ้าโจรบื้อ ซื้อมาแล้วแค่เปิด คิดว่าใช้ได้
คิดผิดถนัดครับ มันมีวิธีของมันอยู่
-วิธีที่ 3
ขโมยแบบยกไปทั้งคัน เข้ากล่อง เช่นตู้คอนเทนเนอร์ที่ทึบมากพอ GPS จะหาสัญญาณไม่ได้ และสัญญาณมือถือจะถูกส่งออกไปลำบากหรือไม่ได้
ส่วนมากที่พบ คือ 3 วิธีนี้ครับ
วิธีการป้องกัน ที่ดีที่สุด คือ ติดตั้งในจุดที่หาเจอยากที่สุดครับ
ในรถ
ซ่อนสายไฟและกล่องให้ดีที่สุด ไม่ให้รื้อแล้วเจอโดนง่าย
อย่าติดตั้งแบบในภาพนะครับ โจรยิ้มเลย ถอดแค่สายโยนทิ้ง (ถ้ามีระบบตัดน้ำมัน หรือแจ้งเตือนก็ว่าไปอย่าง บางบริษัทมีให้บริการครับ เป็นบริการเสริม)
ในมอเตอร์ไซค์
ที่ซ่อนน้อยแต่อาจดัดแปลงให้อยู่ใต้เบาะ ได้ เพราะโจรมักจะใช้กุญแจผี หรือต่อตรง และยกทั้งคันใส่กระบะ
ดังนั้น ในเบาะจึงปลอดภัยที่สุดเท่าที่ผมคิดได้ครับ
จักรยาน
เนื่องจากที่ซ่อนน้อยที่สุดในกระบวนพาหนะ
ควรใช้ผ้าที่มีแมจิคเทป หรือจะเย็บคลุมเลยก็ได้ แล้วคลุมไว้ โจรจะได้ไม่สังเกตุว่าอะไร
หรือใส่กระเป๋าห้อยจักรยานแล้วล๊อคซิปไม่ให้เปิดไว้ จะพอช่วยประวิงเวลาได้
ที่ดีที่สุดคือซ่อนในเฟรมครับ เพราะคนร้ายไม่มีเวลามานั่งแงะตรวจดูตอนจะขโมยแน่
ตรงนี้ทำให้เรามีเวลาในการติดตามครับ
จบบทที่ 1 การติดตาม ยานพาหนะ บทต่อไป มาตามสัตว์เลี้ยง ทั้ง หมา แมว ม้า วัว กันครับ