จากกระทู้นี้ที่ผมได้ตั้งถามไว้เมื่องาน >>
http://ppantip.com/topic/31669168
วันนี้ผมเลยจัดการยกออกไปหาร้านซ่อม ขับรถหาอยู่ตั้งนานสุดท้ายดันมาเจอร้านที่ห่างจากที่พักผมไม่ถึง 100 เมตร -*-
เป็นร้านเพิงหมาเเหงนเล็กๆริมทาง หน้าร้านมีเเค่ป้ายตัวเล็กๆ อยู่มาตั้งนานผมไม่เคยสังเกตเห็นร้านนี้เลย ก็เลยลองเข้า
ไปเเล้วก็ให้ช่างลองเปลี่ยน ปรากฏว่าช่างไม่มีอะไหล่ ผมเลยต้องออกไปซื้ออะไหล่ ซึ่งก็คือตัวเก็บประจุจำนวนเกือบ 10 ตัว
จากร้านบ้านหม้อศรีราชา หมดงบไปทั้งสิ้นประมาณ 120 บาท เป็นอะไหล่ของผม 80 กว่าๆ รวมของที่ช่างฝากซื้ออีก 40
อันนี้ก็ยกให้ช่างไปเลย เป็นค่าวิชาเชื่อมขาตัวเก็บประจุ
Capacitor ของใหม่ที่โดนเอามาเเทนที่ ซื้อเกินมาตัวนึงเอาไว้เป็นที่ระลึก ตัวละ 8,12,15 บาท หลายราคาตามขนาด
หลังจากเปลี่ยนกันเสร็จก็เอามาลองครับ ผลก็คือ..
ติดสิครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ภาพมาเเล้วๆๆๆ หลังจากเจ้าจอสุดที่รักหลับไหลไปเป็นปี ตินนี้มันกลับมาคืนชีพอีกครั้ง
เเต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วย เพราะตอนเเกะผมก็สังเวยเลือดให้มัน 1 ครั้ง
พอมาตอนประกอบกลับมันก็ยังเอาเลือดผมไปอีก ได้มา 2 เเผลทั้งขึ้นทั้งล่อง ...
สภาพโดยรวมตอนรื้ออกมา เเกะยากมาก เเต่ประกอบโครตง่าย
ลองเอามาต่อพร้อมกับจอหลัก ซ้ายดูหนัง ขวาเปิดพันดริฟ เพลินกันไป
ตอนนี้สิ่งที่คาใจผมอย่างเดียวคือ ไอ้ที่ร้านเเห่งหนึ่งตีราคาค่าซ่อม 1200 มันคืออะไร!!!
ถ้าเช็คให้ผมสักหน่อย เเล้วบอกว่าอะไรเสีย จะต้องจ่ายเเพงกว่าที่ผมจ่ายไปสัก 2-3 เท่าก็ยังรับได้
เเต่นี่ไม่เช็คอะไรเลย วางจอปุ๊มตีราคาปั๊บ รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกเเล้วที่ยกกลับมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าอะไรมีปัญหาสิ่งเเรกที่ควรทำควรลองค้นใน google ดูก่อน ศึกษาว่าอาการเเบบนี้
อะไรที่จะมีโอกาสเสียบ้าง ถ้าทำได้ก็ลองรื้อลองเเงะเเบบผมสักหน่อย อย่างจอที่เสียผมก็ลองเสิชดูเจอข้อมูล
ในเว็ปช่างบอกว่าให้เช็ค c อาจมีบวมเเล้วจะเปิดไม่ติด ผมเลยลองรื้อเจอบวมเหมือนกันก็เลยลองวัดดวงดูสักหน่อย
ผลก็คือเสียไปเเค่ 120 จากที่เกือบจะเสีย 1200 เเละที่น่าคิดอีกอย่างคือ บ้างครั้ง ร้านใหญ่ๆใช่ว่าจะดีเสมอไปครับ
สุดท้ายผมก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยตอบในกระทู้เก่า คำตอบของท่านมีประโยชน์มากมาย ขอขอบคุณจากใจจริงครับ
เเละขอขอบคุณทุกการเเบ่งปัน ของข้อมูลจากทุกเว็ปที่ผมค้นหา ถ้าไม่มีใครโพสไว้งานนี้คงสำเร็จยาก
ขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านจนจบ หวังว่ากระทู้คงมีประโยชน์สำหรับทุกท่านนะครับ
ซ่อมจอสำเร็จเเล้วครับ
วันนี้ผมเลยจัดการยกออกไปหาร้านซ่อม ขับรถหาอยู่ตั้งนานสุดท้ายดันมาเจอร้านที่ห่างจากที่พักผมไม่ถึง 100 เมตร -*-
เป็นร้านเพิงหมาเเหงนเล็กๆริมทาง หน้าร้านมีเเค่ป้ายตัวเล็กๆ อยู่มาตั้งนานผมไม่เคยสังเกตเห็นร้านนี้เลย ก็เลยลองเข้า
ไปเเล้วก็ให้ช่างลองเปลี่ยน ปรากฏว่าช่างไม่มีอะไหล่ ผมเลยต้องออกไปซื้ออะไหล่ ซึ่งก็คือตัวเก็บประจุจำนวนเกือบ 10 ตัว
จากร้านบ้านหม้อศรีราชา หมดงบไปทั้งสิ้นประมาณ 120 บาท เป็นอะไหล่ของผม 80 กว่าๆ รวมของที่ช่างฝากซื้ออีก 40
อันนี้ก็ยกให้ช่างไปเลย เป็นค่าวิชาเชื่อมขาตัวเก็บประจุ
Capacitor ของใหม่ที่โดนเอามาเเทนที่ ซื้อเกินมาตัวนึงเอาไว้เป็นที่ระลึก ตัวละ 8,12,15 บาท หลายราคาตามขนาด
หลังจากเปลี่ยนกันเสร็จก็เอามาลองครับ ผลก็คือ..
ติดสิครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ภาพมาเเล้วๆๆๆ หลังจากเจ้าจอสุดที่รักหลับไหลไปเป็นปี ตินนี้มันกลับมาคืนชีพอีกครั้ง
เเต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วย เพราะตอนเเกะผมก็สังเวยเลือดให้มัน 1 ครั้ง
พอมาตอนประกอบกลับมันก็ยังเอาเลือดผมไปอีก ได้มา 2 เเผลทั้งขึ้นทั้งล่อง ...
สภาพโดยรวมตอนรื้ออกมา เเกะยากมาก เเต่ประกอบโครตง่าย
ลองเอามาต่อพร้อมกับจอหลัก ซ้ายดูหนัง ขวาเปิดพันดริฟ เพลินกันไป
ตอนนี้สิ่งที่คาใจผมอย่างเดียวคือ ไอ้ที่ร้านเเห่งหนึ่งตีราคาค่าซ่อม 1200 มันคืออะไร!!!
ถ้าเช็คให้ผมสักหน่อย เเล้วบอกว่าอะไรเสีย จะต้องจ่ายเเพงกว่าที่ผมจ่ายไปสัก 2-3 เท่าก็ยังรับได้
เเต่นี่ไม่เช็คอะไรเลย วางจอปุ๊มตีราคาปั๊บ รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกเเล้วที่ยกกลับมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าอะไรมีปัญหาสิ่งเเรกที่ควรทำควรลองค้นใน google ดูก่อน ศึกษาว่าอาการเเบบนี้
อะไรที่จะมีโอกาสเสียบ้าง ถ้าทำได้ก็ลองรื้อลองเเงะเเบบผมสักหน่อย อย่างจอที่เสียผมก็ลองเสิชดูเจอข้อมูล
ในเว็ปช่างบอกว่าให้เช็ค c อาจมีบวมเเล้วจะเปิดไม่ติด ผมเลยลองรื้อเจอบวมเหมือนกันก็เลยลองวัดดวงดูสักหน่อย
ผลก็คือเสียไปเเค่ 120 จากที่เกือบจะเสีย 1200 เเละที่น่าคิดอีกอย่างคือ บ้างครั้ง ร้านใหญ่ๆใช่ว่าจะดีเสมอไปครับ
สุดท้ายผมก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยตอบในกระทู้เก่า คำตอบของท่านมีประโยชน์มากมาย ขอขอบคุณจากใจจริงครับ
เเละขอขอบคุณทุกการเเบ่งปัน ของข้อมูลจากทุกเว็ปที่ผมค้นหา ถ้าไม่มีใครโพสไว้งานนี้คงสำเร็จยาก
ขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านจนจบ หวังว่ากระทู้คงมีประโยชน์สำหรับทุกท่านนะครับ