ขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่พ่อหรือแม่ แต่มีสถานะเป็นพี่ชาย คือสืบเนื่องมาจากคุณพ่อคุณแม่ท่านติดงานของบริษัท
จึงต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดเป็นระยะเวลาหลายเดือน คือถ้าไม่ไปก็ไม่มีตัง จึงได้ฝากให้ผมวัยมหาวิทยาลัยดูแลน้องชายคนนึงซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.4โดยน้องผมชอบบ่นว่าไม่อยากไปโรงเรียน เพื่อนชอบแกล้ง อยู่ๆก็มาต่อย มาตบหัว บางทีก็ล้อชื่อพ่อแม่
เขาก็ชอบบ่นแบบนี้อยู่บ่อยๆให้ผมฟัง กับเวลาคุยโทรศัพท์กับพ่อกับแม่ โดยพ่อแม่ก็ปลอบว่าปล่อยเขาไป เขาทำอะไรไว้กรรมก็ตามเขาเอง
แต่สำหรับผมผมเข้าใจความรู้สึกน้องนะ มันเลยรู้สึกโกรธแทนมากๆ ซึ่งมาเข้าเรื่องเลยนะครับ
คือผมได้ลองถามน้องผมเกี่ยวกับพฤติกรรมเหล่านี้ของเพื่อนเขา เขาบอกว่าเพื่อนเขาอะชอบแกล้งแรงๆ
บางทีก็มาเตะ มาต่อย มาตบหัว ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเวลาน้องทำคืน เขาก็ทำกลับ ไปกันไป ไปกันมา เรื่อยๆ น้องเลยบอกเลยยอมไม่ทำคืนแล้วเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเกือบๆทุกวัน คือเพื่อนคนนึงชอบมาทำพฤติกรรมแบบนี้กับเขาเรื่อยๆ แล้วยังมีอีกที่ชอบเรียกชื่อพ่อแม่
โดยถ้าทำแบบเล่นกันผมจะไม่อะไรนะครับ แต่ทำในลักษณะข่มขู่คุกคาม คือเขาบอกว่าถ้าฟ้องใครเจ็บตัวแน่ ผมเลยบอกว่าให้บอกมันไป
ถ้าแกล้งอีกพี่จะมาโรงเรียน มันก็บอกมาว่า ไม่กลัวหรอก โดยไอ้คนที่พูดนี่ก็ เคยมาเล่นบ้านผมบ่อยๆ ไอ้ผมก็นึกว่าสนิทกันเลยทำดีด้วย
พอมารู้แบบนี้รู้สึกเสียความรู้สึก
คือเนื่องจากตัวผมเองสมัยประถมก็เคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ เลยพอเดาเหตุการณ์แบบนี้ออกว่าน้องผมน่าจะเจออะไรบ้าง
ยกตัวอย่างห้องเรียนของผมนะครับจะมีพวกอันธพาล นักเลง เกเร รีดไถตังพวกที่เป็นเบ้ในห้องแบบได้ไปโรงเรียน 20 ก็โดนเอาไป 20
ต้องเป็นลูกน้องเขา ถูกใช้ให้ทำอะไรก็ต้องทำ โดนรังแกเกือบทุกวัน บังคับให้เล่นอะไรก็ต้องเล่น มีครั้งนึงให้เอากาวตราช้างติดนิ้วก็ต้องทำ
แล้วเวลาพวกอันธพาลไปทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้ แล้วครูมาถามหาคนผิด คนพวกนี้ก็ต้องไปรับผิดแทน โดนทำโทษแทน
โดยไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกนี้เลย คือถ้าบอกว่าคนที่โดนลงโทษอยู่นี้ไม่ใช่คนผิด พวกนั้นต่างหากเป็นคนผิด คนที่จะซวยคือคนที่ฟ้องเอง คือมีครั้งนึงมีนักเรียนหญิงคนนึงในห้องนำเรื่องนี้ไปฟ้องคุณครู คือเน้นนะครับเป็น "นักเรียนหญิง" แต่ถูกนักเรียนชายเป็นกลุ่มรุมทำร้ายทั้งต่อย
ทั้งตบ ทั้งจิกหัวต่อย แล้วทำลวนลามทางเพศแบบล้วง...กับนักเรียนหญิงคนนี้ โดยผมก็จำไม่ได้ว่ารังแกแบบนี้กี่ครั้ง แต่ก็นานเป็นอาทิตย์เป็นเดือน จนจบเทอมนักเรียนหญิงคนนี้ก็ลาออก โดยที่คุณครูไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิด เพราะไม่มีใครฟ้อง และไม่มีใครกล้าฟ้อง (ถ้าจำไม่ผิดเรื่องนักเรียนหญิงคนนี้เกิดตอน ป.4) แล้วมีครั้งนึงหนึ่งในพวกที่โดนรังแกมีผู้ปกครองมาพบเพราะเรื่องลูกโดนรังแก แต่พอผู้ปกครองกลับไป นักเรียนคนนี้ก็โดนรุมต่อยจนร้องไห้ แต่ตัวผมโชคดีหน่อยที่ไม่ใช่เป้าหมายพวกนั้น คือสถานะการเอาตัวรอดมันต้องทำตัวให้สนิท แต่ใจจริงๆ
เผาพริกเผาเกลือแช่งพวกมัน ซึ่งมันชอบเรียกชื่อพ่อแม่ผมแทนเรียกชื่อผมตรงๆ โดยใช้สรรพนามนำหน้าว่า อี... ใจเราแค้นมากๆนะ อยากให้มันตายๆไปพ้นโลกนี้เลย แต่ทำอะไรมันไม่ได้ จะฟ้องพ่อแม่ก็กลัวพ่อแม่จะหนักใจกับเรา ก็ได้แต่เผาพริกเผาเกลือแช่งมันไป จนจบ ป.6
โดยผมได้ไปสอบเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่งได้ แต่ก็ไม่วายพวกนี้ตามไปอีก สอบไม่ติดกัน
ก็เส้นเข้าเรียน แต่โชคดีที่ผมได้ห้องเรียนดี เลยอยู่คนละอาคารกับพวกมัน
มาเข้าเรื่องน้องผมกันต่อ คือเวลาก่อนนอนน้องผมมันจะชอบบ่นให้ฟังแบบไม่อยากไปโรงเรียนเลย อยากหยุด อยากย้ายโรงเรียนลาออก
บางทีก่อนนอน กับตื่นนอนพอจะได้ไปโรงเรียนมันก็เศร้าๆ นะ ผมก็ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นก็อารมณ์ร้อนชอบว่าน้องว่า "มลึงจะอยากลาออกอะไรนักหนา เรียนก็ใช่จะเก่ง" แต่ก็เข้าใจมันอยู่ว่าอยู่ในห้องเรียนที่มีเป็นอันธพาล แบบชอบรังแก ต่อย ตี ทั้งที่เราไม่ผิดนี่มันเป็นอย่างไง
แล้วจะฟ้องครูก็ไม่ได้ เพราะถ้าคนทำผิดโดนลงโทษคนซวยก็คือน้องผมเอง (แต่เท่าที่ดูมารุ่นของน้องผมไม่ได้วิปริตเท่ารุ่นของผมสักเท่าไร) คือผมก็ให้เขาหยุดนะอาทิตย์ละ 1 - 2 วัน เหมือนกับว่าเราเข้าใจอะว่าอยู่ในสภาวะแวดล้อมประมาณนั้น
ในห้องมีเพื่อนแบบนี้มันเป็นอย่างไร คือผมเข้าใจว่าเรื่องการเรียนก็สำคัญนะ แต่ผมก็สงสารสภาพจิตใจน้องเหมือนกันคือไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ นานๆเจอกันที แล้วไปโรงเรียนดันเจอเพื่อนเวรแบบนี้อีก ผมเองนั่งคิดก็น้ำตาคลอเหมือนกันแบบว่านึกถึงรุ่นตัวเอง นี่เราผ่านพ้นมาแล้ว ยังต้องมาเจอกับรุ่นของน้องเราอีกหรอ แล้วนี่โดนกับน้องเราเอง แล้วที่สำคัญไอ้พวกที่รังแกมันเคยมาเล่นบ้านเราทั้งนั้น มีครั้งนึงมันมาทำในบ้านผมเลย คือน้องผมพามันมาแล้วมันก็เปิดคอมเล่นกันกับเพื่อนมัน แล้วเพื่อนมันล้อชื่อพ่อแม่ แล้วน้องผมมันโกรธก็เกิดการต่อยตีกันขึ้น จนจอคอมพิวเตอร์ผมเกือบตกจากโต๊ะ (ผมเพิ่งกลับจากโรงเรียนพอดี) เรื่องนี้จนแม่ผมต้องได้ไปโรงเรียน ในใจจริงผมอยากจะไปจัดการกับพวกเด็กพวกนี้ที่โรงเรียนเองเลยนะ แต่ผมก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องว่าเดี๋ยวเขาต้องไปโรงเรียนอีก เดี๋ยวพวกนี้จะรังแกอะไรอีกหรือเปล่า
ผมเลยอยากขอความคิดเห็นว่าผมควรจัดการอย่างไงดีให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับเด็กเหล่านี้ เคยคิดว่าถ้ามันบ้านจะต่อว่าเรื่องนี้หน่อย แล้วแอบอัดเสียงไว้ แล้วแกล้งออกจากบ้านไปธุระ จะดูสิมันขู่อะไรน้องผม จะได้เก็บคลิปเสียงเป็นหลักฐานไว้ไปฟ้องคุณครู ผอ. แล้วผู้ปกครองมัน คือในใจผมคิดไว้ว่าสอบวันสุดท้ายผมจะไปโรงเรียน ไปคุยกับคุณครูแล้วเด็กเด็กเกเร ต่อด้วยตอนเย็นจะไปบ้านมันไปพบผู้ปกครองมันหน่อย
จะได้รับรู้พฤติกรรมของลูกหลานตัวเองบ้าง โดยที่ว่าทำไมต้องวัดสอบวันสุดท้ายเพราะปีการศึกษาหน้าครอบครัวผมต้องย้ายบ้าน เลยต้องถือโอกาสย้ายโรงเรียนให้น้องชาย เลยคิดว่าพวกนั้นไม่น่าจะรังแกน้องเราได้แล้ว เพราะถ้าเขาจะมาแก้แค้นเรื่องนี้ถึงแถวบ้านเขาโดนผมตามเอา
เรื่องแน่ๆ ผมเลยอยากถามว่าถ้าท่าเป็นพ่อ หรือแม่ หรือผู้ปกครอง ของน้องชายผมทุกท่านจะทำอย่างไรหรือครับ แล้วแนวทางที่ผมคิดไว้พวกคุณว่ามันรุนแรงต่อเด็กเกเรพวกนั้นไปหรือเปล่า รบกวนตอบหน่อยนะครับ
รบกวนสอบถามคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านหน่อยนะครับ เกี่ยวกับเพื่อนลูกที่โรงเรียน
จึงต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดเป็นระยะเวลาหลายเดือน คือถ้าไม่ไปก็ไม่มีตัง จึงได้ฝากให้ผมวัยมหาวิทยาลัยดูแลน้องชายคนนึงซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.4โดยน้องผมชอบบ่นว่าไม่อยากไปโรงเรียน เพื่อนชอบแกล้ง อยู่ๆก็มาต่อย มาตบหัว บางทีก็ล้อชื่อพ่อแม่
เขาก็ชอบบ่นแบบนี้อยู่บ่อยๆให้ผมฟัง กับเวลาคุยโทรศัพท์กับพ่อกับแม่ โดยพ่อแม่ก็ปลอบว่าปล่อยเขาไป เขาทำอะไรไว้กรรมก็ตามเขาเอง
แต่สำหรับผมผมเข้าใจความรู้สึกน้องนะ มันเลยรู้สึกโกรธแทนมากๆ ซึ่งมาเข้าเรื่องเลยนะครับ
คือผมได้ลองถามน้องผมเกี่ยวกับพฤติกรรมเหล่านี้ของเพื่อนเขา เขาบอกว่าเพื่อนเขาอะชอบแกล้งแรงๆ
บางทีก็มาเตะ มาต่อย มาตบหัว ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเวลาน้องทำคืน เขาก็ทำกลับ ไปกันไป ไปกันมา เรื่อยๆ น้องเลยบอกเลยยอมไม่ทำคืนแล้วเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเกือบๆทุกวัน คือเพื่อนคนนึงชอบมาทำพฤติกรรมแบบนี้กับเขาเรื่อยๆ แล้วยังมีอีกที่ชอบเรียกชื่อพ่อแม่
โดยถ้าทำแบบเล่นกันผมจะไม่อะไรนะครับ แต่ทำในลักษณะข่มขู่คุกคาม คือเขาบอกว่าถ้าฟ้องใครเจ็บตัวแน่ ผมเลยบอกว่าให้บอกมันไป
ถ้าแกล้งอีกพี่จะมาโรงเรียน มันก็บอกมาว่า ไม่กลัวหรอก โดยไอ้คนที่พูดนี่ก็ เคยมาเล่นบ้านผมบ่อยๆ ไอ้ผมก็นึกว่าสนิทกันเลยทำดีด้วย
พอมารู้แบบนี้รู้สึกเสียความรู้สึก
คือเนื่องจากตัวผมเองสมัยประถมก็เคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ เลยพอเดาเหตุการณ์แบบนี้ออกว่าน้องผมน่าจะเจออะไรบ้าง
ยกตัวอย่างห้องเรียนของผมนะครับจะมีพวกอันธพาล นักเลง เกเร รีดไถตังพวกที่เป็นเบ้ในห้องแบบได้ไปโรงเรียน 20 ก็โดนเอาไป 20
ต้องเป็นลูกน้องเขา ถูกใช้ให้ทำอะไรก็ต้องทำ โดนรังแกเกือบทุกวัน บังคับให้เล่นอะไรก็ต้องเล่น มีครั้งนึงให้เอากาวตราช้างติดนิ้วก็ต้องทำ
แล้วเวลาพวกอันธพาลไปทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้ แล้วครูมาถามหาคนผิด คนพวกนี้ก็ต้องไปรับผิดแทน โดนทำโทษแทน
โดยไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกนี้เลย คือถ้าบอกว่าคนที่โดนลงโทษอยู่นี้ไม่ใช่คนผิด พวกนั้นต่างหากเป็นคนผิด คนที่จะซวยคือคนที่ฟ้องเอง คือมีครั้งนึงมีนักเรียนหญิงคนนึงในห้องนำเรื่องนี้ไปฟ้องคุณครู คือเน้นนะครับเป็น "นักเรียนหญิง" แต่ถูกนักเรียนชายเป็นกลุ่มรุมทำร้ายทั้งต่อย
ทั้งตบ ทั้งจิกหัวต่อย แล้วทำลวนลามทางเพศแบบล้วง...กับนักเรียนหญิงคนนี้ โดยผมก็จำไม่ได้ว่ารังแกแบบนี้กี่ครั้ง แต่ก็นานเป็นอาทิตย์เป็นเดือน จนจบเทอมนักเรียนหญิงคนนี้ก็ลาออก โดยที่คุณครูไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิด เพราะไม่มีใครฟ้อง และไม่มีใครกล้าฟ้อง (ถ้าจำไม่ผิดเรื่องนักเรียนหญิงคนนี้เกิดตอน ป.4) แล้วมีครั้งนึงหนึ่งในพวกที่โดนรังแกมีผู้ปกครองมาพบเพราะเรื่องลูกโดนรังแก แต่พอผู้ปกครองกลับไป นักเรียนคนนี้ก็โดนรุมต่อยจนร้องไห้ แต่ตัวผมโชคดีหน่อยที่ไม่ใช่เป้าหมายพวกนั้น คือสถานะการเอาตัวรอดมันต้องทำตัวให้สนิท แต่ใจจริงๆ
เผาพริกเผาเกลือแช่งพวกมัน ซึ่งมันชอบเรียกชื่อพ่อแม่ผมแทนเรียกชื่อผมตรงๆ โดยใช้สรรพนามนำหน้าว่า อี... ใจเราแค้นมากๆนะ อยากให้มันตายๆไปพ้นโลกนี้เลย แต่ทำอะไรมันไม่ได้ จะฟ้องพ่อแม่ก็กลัวพ่อแม่จะหนักใจกับเรา ก็ได้แต่เผาพริกเผาเกลือแช่งมันไป จนจบ ป.6
โดยผมได้ไปสอบเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่งได้ แต่ก็ไม่วายพวกนี้ตามไปอีก สอบไม่ติดกันก็เส้นเข้าเรียน แต่โชคดีที่ผมได้ห้องเรียนดี เลยอยู่คนละอาคารกับพวกมัน
มาเข้าเรื่องน้องผมกันต่อ คือเวลาก่อนนอนน้องผมมันจะชอบบ่นให้ฟังแบบไม่อยากไปโรงเรียนเลย อยากหยุด อยากย้ายโรงเรียนลาออก
บางทีก่อนนอน กับตื่นนอนพอจะได้ไปโรงเรียนมันก็เศร้าๆ นะ ผมก็ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นก็อารมณ์ร้อนชอบว่าน้องว่า "มลึงจะอยากลาออกอะไรนักหนา เรียนก็ใช่จะเก่ง" แต่ก็เข้าใจมันอยู่ว่าอยู่ในห้องเรียนที่มีเป็นอันธพาล แบบชอบรังแก ต่อย ตี ทั้งที่เราไม่ผิดนี่มันเป็นอย่างไง
แล้วจะฟ้องครูก็ไม่ได้ เพราะถ้าคนทำผิดโดนลงโทษคนซวยก็คือน้องผมเอง (แต่เท่าที่ดูมารุ่นของน้องผมไม่ได้วิปริตเท่ารุ่นของผมสักเท่าไร) คือผมก็ให้เขาหยุดนะอาทิตย์ละ 1 - 2 วัน เหมือนกับว่าเราเข้าใจอะว่าอยู่ในสภาวะแวดล้อมประมาณนั้น
ในห้องมีเพื่อนแบบนี้มันเป็นอย่างไร คือผมเข้าใจว่าเรื่องการเรียนก็สำคัญนะ แต่ผมก็สงสารสภาพจิตใจน้องเหมือนกันคือไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ นานๆเจอกันที แล้วไปโรงเรียนดันเจอเพื่อนเวรแบบนี้อีก ผมเองนั่งคิดก็น้ำตาคลอเหมือนกันแบบว่านึกถึงรุ่นตัวเอง นี่เราผ่านพ้นมาแล้ว ยังต้องมาเจอกับรุ่นของน้องเราอีกหรอ แล้วนี่โดนกับน้องเราเอง แล้วที่สำคัญไอ้พวกที่รังแกมันเคยมาเล่นบ้านเราทั้งนั้น มีครั้งนึงมันมาทำในบ้านผมเลย คือน้องผมพามันมาแล้วมันก็เปิดคอมเล่นกันกับเพื่อนมัน แล้วเพื่อนมันล้อชื่อพ่อแม่ แล้วน้องผมมันโกรธก็เกิดการต่อยตีกันขึ้น จนจอคอมพิวเตอร์ผมเกือบตกจากโต๊ะ (ผมเพิ่งกลับจากโรงเรียนพอดี) เรื่องนี้จนแม่ผมต้องได้ไปโรงเรียน ในใจจริงผมอยากจะไปจัดการกับพวกเด็กพวกนี้ที่โรงเรียนเองเลยนะ แต่ผมก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องว่าเดี๋ยวเขาต้องไปโรงเรียนอีก เดี๋ยวพวกนี้จะรังแกอะไรอีกหรือเปล่า
ผมเลยอยากขอความคิดเห็นว่าผมควรจัดการอย่างไงดีให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับเด็กเหล่านี้ เคยคิดว่าถ้ามันบ้านจะต่อว่าเรื่องนี้หน่อย แล้วแอบอัดเสียงไว้ แล้วแกล้งออกจากบ้านไปธุระ จะดูสิมันขู่อะไรน้องผม จะได้เก็บคลิปเสียงเป็นหลักฐานไว้ไปฟ้องคุณครู ผอ. แล้วผู้ปกครองมัน คือในใจผมคิดไว้ว่าสอบวันสุดท้ายผมจะไปโรงเรียน ไปคุยกับคุณครูแล้วเด็กเด็กเกเร ต่อด้วยตอนเย็นจะไปบ้านมันไปพบผู้ปกครองมันหน่อย
จะได้รับรู้พฤติกรรมของลูกหลานตัวเองบ้าง โดยที่ว่าทำไมต้องวัดสอบวันสุดท้ายเพราะปีการศึกษาหน้าครอบครัวผมต้องย้ายบ้าน เลยต้องถือโอกาสย้ายโรงเรียนให้น้องชาย เลยคิดว่าพวกนั้นไม่น่าจะรังแกน้องเราได้แล้ว เพราะถ้าเขาจะมาแก้แค้นเรื่องนี้ถึงแถวบ้านเขาโดนผมตามเอา
เรื่องแน่ๆ ผมเลยอยากถามว่าถ้าท่าเป็นพ่อ หรือแม่ หรือผู้ปกครอง ของน้องชายผมทุกท่านจะทำอย่างไรหรือครับ แล้วแนวทางที่ผมคิดไว้พวกคุณว่ามันรุนแรงต่อเด็กเกเรพวกนั้นไปหรือเปล่า รบกวนตอบหน่อยนะครับ